บุคคลเข้าไปอาศัยศีลที่ไม่ใช่รูปาวจรธรรม ฯลฯ ปัญญา แล้วให้ทาน
ฯลฯ ก่อมานะ ถือทิฏฐิ.
ศรัทธาที่ไม่ใช่รูปาวจรธรรม ฯลฯ ปัญญา เป็นปัจจัยแก่ปัญญาที่ไม่ใช่
รูปาวจรธรรม ฯลฯ แก่ราคะ แก่ความปรารถนา แก่สุขทางกาย, แก่ทุกข์
ทางกาย, แก่มรรค, แก่ผลสมาบัติ ด้วยอำนาจของอุปนิสสยปัจจัย.
๔. ธรรมที่ไม่ใช่รูปาวจรธรรม เป็นปัจจัยแก่รูปาวจร-
ธรรม ด้วยอำนาจของอุปนิสสยปัจจัย
มี ๒ อย่าง คือที่เป็น อนันตรูปนิสสยะ และ ปกตูปนิสสยะ
ที่เป็น ปกตูปนิสสยะ ได้แก่
บุคคลเข้าไปอาศัยศรัทธาที่ไม่ใช่รูปาวจรธรรมแล้ว ยังฌานที่เป็น
รูปาวจรธรรม ฯลฯ ยังอภิญญา ฯลฯ ยังสมาบัติให้เกิดขึ้น.
บุคคลเข้าไปอาศัยศีลที่ไม่ใช่รูปาวจรธรรม ฯลฯ เสนาสนะ แล้ว
ยังฌานที่เป็นรูปาวจรธรรม ฯลฯ ยังอภิญญา ฯลฯ ยังสมาบัติให้เกิดขึ้น.
ศรัทธาที่ไม่ใช่รูปาวจรธรรม ฯลฯ เสนาสนะ เป็นปัจจัยแก่ศรัทธา
ที่เป็นรูปาวจรธรรม ฯลฯ แก่ปัญญา ด้วยอำนาจของอุปนิสสยปัจจัย.
บริกรรมแห่งปฐมฌาน เป็นปัจจัยแก่ปฐมฌาน ด้วยอำนาจของ
อุปนิสสยปัจจัย.
ฯลฯ บริกรรมแห่งจตุตถฌาน ฯลฯ บริกรรมแห่งทิพยจักษุ ฯลฯ
แห่งทิพโสตธาตุ ฯลฯ แห่งอิทธิวิธญาณ ฯลฯ แห่งเจโตปริยญาณ ฯลฯ แห่ง