No Favorites




หมวด/เล่ม
พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๕ – หน้าที่ 868 (เล่ม 89)

การนับจำนวนวาระในปัจจนียะ
[๗๖๗] ในนเหตุปัจจัย มี ๑ วาระ ในนอธิปติปัจจัย มี ๒ วาระ ใน
นปุเรชาตปัจจัย มี ๒ วาระ ในนปัจฉาชาตปัจจัย มี ๒ วาระ ในนอาเสวน-
ปัจจัย มี ๒ วาระ ในนกัมมปัจจัย มี ๒ วาระ ในนวิปากปัจจัย มี ๒ วาระ
ในนฌานปัจจัย มี ๑ วาระ ในนมัคคปัจจัย มี ๑ วาระ ในนวิปปยุตตปัจจัย
มี ๑ วาระ.
การนับทั้งสองนัยนอกนี้ก็ดี สัมปยุตตวาระก็ดี พึงกระทำ.

868
หมวด/เล่ม
พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๕ – หน้าที่ 869 (เล่ม 89)

ปัญหาวาระ
อนุโลมนัย
๑. เหตุปัจจัย
[๗๖๘] ๑. รูปาวจรธรรม เป็นปัจจัยแก่รูปาวจรธรรม ด้วย
อำนาจของเหตุปัจจัย
คือ เหตุทั้งหลายที่เป็นรูปาวจรธรรม เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์
ทั้งหลาย ด้วยอำนาจของเหตุปัจจัย.
ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ
พึงกระทำมูล (วาระที่ ๒)
เหตุทั้งหลายที่เป็นรูปาวจรธรรม เป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูป
ทั้งหลาย ด้วยอำ นาจของเหตุปัจจัย.
ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ
พึงกระทำมูล (วาระที่ ๓)
เหตุทั้งหลายที่เป็นรูปาวจรธรรม เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ และ
จิตตสมุฏฐานรูปทั้งหลาย ด้วยอำนาจของเหตุปัจจัย.
ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ
๔. ธรรมที่ไม่ใช่รูปาวจรธรรม เป็นปัจจัยแก่ธรรม
ที่ไม่ใช่รูปาวจรธรรม ด้วยอำนาจของเหตุปัจจัย

869
หมวด/เล่ม
พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๕ – หน้าที่ 870 (เล่ม 89)

คือ เหตุทั้งหลายที่ไม่ใช่รูปาวจรธรรม เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์
และจิตตสมุฏฐานรูปทั้งหลาย ด้วยอำนาจของเหตุปัจจัย.
ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ
๒. อารัมมณปัจจัย
[๗๖๙] ๑. รูปาวจรธรรม เป็นปัจจัยแก่รูปาวจรธรรม ด้วย
อำนาจของอารัมมณปัจจัย
คือ บุคคลรู้จิตของบุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยจิต ที่เป็นรูปาวจรธรรม
ด้วยเจโตปริยญาณ.
ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นรูปาวจรธรรม เป็นปัจจัยแก่อิทธิวิธญาณ, แก่
เจโตปริยญาณ, แก่ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ, แก่ยถากัมมูปคญาณ, แก่อนา-
คตังสญาณ ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย.
๒. รูปาวจรธรรม เป็นปัจจัยแก่ธรรมที่ไม่ใช่รูปาวจร-
ธรรม ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย
คือ บุคคลพิจารณาปฐมฌาน ฯลฯ พิจารณาจตุตถฌาน พิจารณา
ทิพยจักษุ พิจารณาทิพโสตธาตุ ฯลฯ อิทธิวิธญาณ เจโตปริยญาณ ปุพเพ-
นิวาสานุสสติญาณ ยถากัมมูปคญาณ ฯลฯ พิจารณาอนาคตังสญาณ, ขันธ์
ทั้งหลายที่เป็นรูปาวจรธรรม โดยความเป็นของไม่เที่ยง ฯลฯ โทมนัส ย่อม
เกิดขึ้น.
๓. ธรรมที่ไม่ใช่รูปาวจรธรรม เป็นปัจจัยแก่ธรรม
ที่ไม่ใช่รูปาวจรธรรม ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย

870
หมวด/เล่ม
พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๕ – หน้าที่ 871 (เล่ม 89)

คือ บุคคลให้ทาน ศีล ฯลฯ อุโบสถกรรม ฯลฯ พิจารณาซึ่ง
กุศลกรรมทั้งหลายที่เคยสั่งสมไว้แล้วในกาลก่อน ย่อมยินดี ย่อมเพลิดเพลินยิ่ง
เพราะปรารภกุศลกรรมนั้น ราคะ ฯลฯ โทมนัส ย่อมเกิดขึ้น.
พระอริยะทั้งหลาย ออกจากมรรค พิจารณามรรค พิจารณาผล
พิจารณานิพพาน.
นิพพาน เป็นปัจจัยแก่โคตรภู แก่โวทาน, แก่มรรค, แก่ผล, แก่
อาวัชชนะ ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย.
พระอริยะทั้งหลาย พิจารณากิเลสที่ละแล้ว ฯลฯ กิเลสที่ข่มแล้ว ฯลฯ
กิเลสทั้งหลายที่เคยเกิดขึ้นแล้วในกาลก่อน ฯลฯ
จักษุ ฯลฯ หทยวัตถุ ขันธ์ทั้งหลายที่ไม่ใช่รูปาวจรธรรม โดยความ
เป็นของไม่เที่ยง ฯลฯ โทมนัส ย่อมเกิดขึ้น.
อากาสานัญจายตนะ เป็นปัจจัยแก่วิญญาณัญจายตนะ, อากิญจัญ-
ญายตนะ เป็นปัจจัยแก่เนวสัญญานาสัญญายตนะ.
รูปายนะ เป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณ ฯลฯ โผฏฐัพพายตนะ ฯลฯ
๔. ธรรมที่ไม่ใช่รูปาวาจรธรรม เป็นปัจจัยแก่รูปาวจร-
ธรรม ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย
คือ บุคคลเห็นรูปด้วยทิพยจักษุ ฟังเสียงด้วยทิพโสตธาตุ.
บุคคลรู้จิตของบุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยจิต ที่ไม่ใช่รูปาวจรธรรม
ด้วยเจโตปริยญาณ.

871
หมวด/เล่ม
พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๕ – หน้าที่ 872 (เล่ม 89)

ขันธ์ทั้งหลายที่ไม่ใช่รูปาวจรธรรม เป็นปัจจัยแก่อิทธิวิญญาณ แก่
เจโตปริยญาณ แก่ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ แก่ยถากัมมูปคญาณ แก่อนาค-
ตังสญาณ ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย.
๓. อธิปติปัจจัย
[๗๗๐] ๑. รูปาวจรธรรม เป็นปัจจัยแก่รูปาวจรธรรม ด้วย
อำนาจของอธิปติปัจจัย
มีอย่างเดียว คือที่เป็น สหชาตาธิปติ ได้แก่
อธิปติธรรมที่เป็นรูปาวจรธรรม เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ทั้งหลาย
ด้วยอำนาจของอธิปติปัจจัย.
๒. รูปาวจรธรรม เป็นปัจจัยแก่ธรรมที่ไม่ใช่รูปาวจร-
ธรรม ด้วยอำนาจของอธิปติปัจจัย
มี ๒ อย่าง คือที่เป็น อารัมมณาธิปติ และ สหชาตาธิปติ
ที่เป็น อารัมมณาธิปติ ได้แก่
บุคคลกระทำปฐมฌานให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่นแล้ว พิจารณา,
ย่อมยินดี ย่อมเพลิดเพลินยิ่ง เพราะกระทำฌานนั้นให้เป็นอารมณ์อย่าง
หนักแน่น ราคะ ย่อมเกิดขึ้น ทิฏฐิ ฯลฯ
บุคคลกระทำจตุตถฌาน ฯลฯ ทิพยจักษุ ทิพโสตธาตุ อิทธิวิธญาณ
เจโตปริยญาณ ปุพเพนิวาสนุสสติญาณ ฯลฯ อนาคตังสญาณให้เป็นอารมณ์
อย่างหนักเเน่นแล้ว พิจารณา ย่อมยินดี ย่อมเพลิดเพลินยิ่ง เพราะกระทำฌาน
เป็นต้นนั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ราคะ ย่อมเกิดขึ้น, ทิฏฐิ ฯลฯ

872
หมวด/เล่ม
พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๕ – หน้าที่ 873 (เล่ม 89)

บุคคลกระทำขันธ์ทั้งหลายที่เป็นรูปาวจรธรรม ให้เป็นอารมณ์อย่าง
หนักแน่นแล้ว ย่อมยินดี ย่อมเพลิดเพลินยิ่ง เพราะกระทำขันธ์นั้น ให้เป็น
อารมณ์อย่างหนักแน่นแล้ว ราคะ ย่อมเกิดขึ้น, ทิฏฐิ ฯลฯ
ที่เป็น สหชาตะ ได้แก่
อธิปติธรรมที่เป็นรูปาวจรธรรม เป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปทั้งหลาย
ด้วยอำนาจของอธิปติปัจจัย.
๓. รูปาวจรธรรม เป็นปัจจัยแก่รูปาวจรธรรม และ
ธรรมที่ไม่ใช่รูปาวจรธรรม ด้วยอำนาจของอธิปติปัจจัย
มีอย่างเดียว คือที่เป็น สหชาตาธิปติ ได้แก่
อธิปติธรรมที่เป็นรูปาวจรธรรม เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ และ
จิตตสมุฏฐานรูปทั้งหลาย ด้วยอำนาจของอธิปติปัจจัย
๔. ธรรมที่ไม่ใช่รูปาวจรธรรม เป็นปัจจัยแก่ธรรม
ที่ไม่ใช่รูปาวจรธรรม ด้วยอำนาจของอธิปติปัจจัย
มี ๒ อย่าง คือที่เป็น อารัมมณาธิปติ และ สหชาตาธิปติ
ที่เป็น อารัมมณาธิปติ ได้แก่
ฯลฯ ทาน ฯลฯ ศีล ฯลฯ อุโบสถกรรม ฯลฯ บุคคลกระทำกุศล-
กรรมทั้งหลายที่เคยสั่งสมไว้แล้ว ในกาลก่อนให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น
แล้วพิจารณา, ย่อมยินดี ย่อมเพลิดเพลินยิ่ง เพราะกระทำกุศลกรรมนั้นให้
เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่นแล้ว ราคะ ย่อมเกิดขึ้น ทิฏฐิ ฯลฯ
พระอริยะทั้งหลายออกจากมรรค กระทำมรรคให้เป็นอารมณ์อย่าง
หนักแน่น ฯลฯ กระทำนิพพานให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ฯลฯ.

873
หมวด/เล่ม
พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๕ – หน้าที่ 874 (เล่ม 89)

นิพพาน เป็นปัจจัยแก่โคตรภู, แก่โวทาน, แก่มรรค, แก่ผล
ด้วยอำนาจของอธิปติปัจจัย.
บุคคลย่อมยินดี ย่อมเพลิดเพลินยิ่ง เพราะกระทำจักษุ ฯลฯ หทยวัตถุ
ขันธ์ทั้งหลายที่ไม่ใช่รูปาวจรธรรมให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ครั้นกระทำ
จักษุเป็นต้นนั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่นแล้ว ราคะ ย่อมเกิดขึ้น ทิฏฐิ ฯลฯ
บุคคลกระทำอากาสานัญจายตนะ ให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่นแล้ว
พิจารณา, กระทำเนวสัญญานาสัญญายตนะให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่นแล้ว
พิจารณา.
ที่เป็น สหชาตาธิปติ ได้แก่
อธิปติธรรมที่ไม่ใช่รูปาวจรธรรม เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ และ
จิตตสมุฏฐานรูปทั้งหลาย ด้วยอำนาจของอธิปติปัจจัย.
๔. อนันตรปัจจัย
[๗๗๑] ๑. รูปาวจรธรรม เป็นปัจจัยแก่รูปาวจรธรรม ด้วย
อำนาจของอนันตรปัจจัย
คือ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นรูปาวจรธรรม ที่เกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่
ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นรูปาวจรธรรม ที่เกิดหลัง ๆ ด้วยอำนาจของอนันตรปัจจัย.
๒. รูปาวจรธรรม เป็นปัจจัยแก่ธรรมที่ไม่ใช่รูปาวจร-
ธรรม ด้วยอำนาจของอนันตรปัจจัย
คือ จุติจิตที่เป็นรูปาวจรธรรม เป็นปัจจัยแก่อุปปัตติจิตที่ไม่ใช่
รูปาวจรธรรม ด้วยอำนาจของอนันตรปัจจัย.

874
หมวด/เล่ม
พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๕ – หน้าที่ 875 (เล่ม 89)

ภวังค์ที่เป็นรูปาวจรธรรม เป็นปัจจัยแก่อาวัชชนะ.
ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นรูปาวจรธรรม เป็นปัจจัยแก่วุฏฐานะที่ไม่ใช่รูปา-
วจรธรรม ด้วยอำนาจของอนันตรปัจจัย.
๓. ธรรมที่ไม่ใช่รูปาวจรธรรม เป็นปัจจัยแก่ธรรม
ที่ไม่ใช่รูปาวจรธรรม ด้วยอำนาจของอนันตรปัจจัย
คือ ขันธ์ทั้งหลายที่ไม่ใช่รูปาวจรธรรม ที่เกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่
ขันธ์ทั้งหลายที่ไม่ใช่รูปาวจรธรรม ที่เกิดหลัง ๆ ด้วยอำนาจของอนันตรปัจจัย.
อนุโลม เป็นปัจจัยแก่โคตรภู, เนวสัญญานาสัญญายตนะ เป็นปัจจัย
แก่ผลสมาบัติ ด้วยอำนาจของอนันตรปัจจัย.
๔. ธรรมที่ไม่ใช่รูปาวจรธรรม เป็นปัจจัยแก่รูปาวจร-
ธรรม ด้วยอำนาจของอนันตรปัจจัย
คือ จุติจิตที่ไม่ใช่รูปาวจรธรรม เป็นปัจจัยแก่อุปปัตติจิตที่เป็น
รูปาวจรธรรม ด้วยอำนาจของอนันตรปัจจัย.
ขันธ์ทั้งหลายที่ไม่ใช่รูปาวจรธรรม เป็นปัจจัยแก่วุฏฐานะที่เป็น
รูปาวจรธรรม ด้วยอำนาจของอนันตรปัจจัย.
บริกรรมแห่งปฐมฌาน เป็นปัจจัยแก่ปฐมฌาน ด้วยอำนาจของ
อนันตรปัจจัย.
บริกรรมแห่งจตุตถฌาน ฯลฯ แห่งทิพยจักษุ ฯลฯ แห่งทิพโสตธาตุ
ฯลฯ แห่งอิทธิวิธญาณ ฯลฯ แห่งเจโตปริยญาณ ฯลฯ แห่งปุพเพนิวาสา-
นุสสติญาณ ฯลฯ แห่งยถากัมมูปคญาณ ฯลฯ บริกรรมแห่งอนาคตังสญาณ
เป็นปัจจัยแก่อนาคตังสญาณ ด้วยอำนาจของอนันตรปัจจัย.

875
หมวด/เล่ม
พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๕ – หน้าที่ 876 (เล่ม 89)

๕. สมนันตรปัจจัย ฯลฯ ๘. นิสสยปัจจัย
ฯลฯ เป็นปัจจัย ด้วยอำนาจของสมนันตรปัจจัย.
ฯลฯ เป็นปัจจัย ด้วยอำนาจของสหชาตปัจจัย มี ๗ วาระ.
ฯลฯ เป็นปัจจัย ด้วยอำนาจของอัญญมัญญปัจจัย มี ๖ วาระ.
ฯลฯ เป็นปัจจัย ด้วยอำนาจของนิสสยปัจจัย มี ๗ วาระ.
๙. อุปนิสสยปัจจัย
[๗๗๒] ๑. รูปาวจรธรรม เป็นปัจจัยแก่รูปาวจรธรรม ด้วย
อำนาจของอุปนิสสยปัจจัย
มี ๒ อย่าง คือที่เป็น อนันตรูปนิสสยะ และ ปกตูปนิสสยะ
ที่เป็น ปกตูปนิสสยะ ได้แก่
บุคคลเข้าไปอาศัยศรัทธาที่เป็นรูปาวจรธรรมแล้ว ยังฌานที่เป็น
รูปาวจรธรรมให้เกิดขึ้น ยังอภิญญา ฯลฯ ยังสมาบัติให้เกิดขึ้น.
บุคคลเข้าไปอาศัยศีลที่เป็นรูปาวจรธรรม ฯลฯ อาศัยปัญญาแล้ว
ยังฌานที่เป็นรูปาวจรธรรมให้เกิดขึ้น ฯลฯ ยังสมาบัติให้เกิดขึ้น.
ศรัทธาที่เป็นรูปาวจรธรรม ฯลฯ ปัญญา เป็นปัจจัยแก่ศรัทธา ที่เป็น
รูปาวจรธรรม ฯลฯ แก่ปัญญา ด้วยอำนาจของอุปนิสสยปัจจัย.
ปฐมฌาน เป็นปัจจัยแก่ทุติยฌาน ด้วยอำนาจของอุปนิสสยปัจจัย.
ทุติยฌาน เป็นปัจจัยแก่ตติยฌาน ด้วยอำนาจของอุปนิสสยปัจจัย.
ตติยฌาน เป็นปัจจัยแก่จตุตถฌาน ด้วยอำนาจของอุปนิสสยปัจจัย.

876
หมวด/เล่ม
พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๕ – หน้าที่ 877 (เล่ม 89)

๒. รูปาวจรธรรม เป็นปัจจัยแก่ธรรมที่ไม่ใช่รูปาวจร-
ธรรม ด้วยอำนาจของอุปนิสสยปัจจัย
มี ๓ อย่าง คือที่เป็น อารัมมณูปนิสสยะ อนันตรูปนิสสยะ และ
ปกตูปนิสสยะ
ที่เป็น ปกตูปนิสสยะ ได้แก่
บุคคลเข้าไปอาศัยศรัทธาที่เป็นรูปาวจรธรรม แล้วให้ทาน ฯลฯ ศีล
ฯลฯ อุโบสถกรรม ฯลฯ ยังฌานที่เป็นรูปาวจรธรรม ยังวิปัสสนา ยังมรรค
ยังอภิญญา ฯลฯ ยังสมาบัติให้เกิดขึ้น ก่อมานะ ถือทิฏฐิ.
บุคคลเข้าไปอาศัยศีลที่เป็นรูปาวจรธรรม ฯลฯ ปัญญา แล้วให้ทาน
ฯลฯ ก่อมานะ ถือทิฏฐิ.
ศรัทธาที่เป็นรูปาวจรธรรม ฯลฯ ปัญญา เป็นปัจจัยแก่ศรัทธาที่ไม่ใช่
รูปาวจรธรรม ฯลฯ แก่ปัญญา แก่ราคะ แก่ความปรารถนา แก่สุขทางกาย
แก่ทุกข์ทางกาย แก่มรรค แก่ผลสมาบัติ ด้วยอำนาจของอุปนิสสยปัจจัย.
๓. ธรรมที่ไม่ใช่รูปาวจรธรรม เป็นปัจจัยแก่ธรรม
ที่ไม่ใช่รูปาวจรธรรม ด้วยอำนาจของอุปนิสสยปัจจัย
มี ๓ อย่าง คือที่เป็น อารัมมณูปนิสสยะ อนันตรูปนิสสยะ และ
ปกตูปนิสสยะ
ที่เป็น ปกตูปนิสสยะ ได้แก่
บุคคลเข้าไปอาศัยศรัทธาที่ไม่ใช่รูปาวจรธรรม ทาน ฯลฯ ศีล ฯลฯ
อุโบสถกรรมแล้ว ยังฌานที่ไม่ใช่รูปาวจรธรรม ฯลฯ ยังวิปัสสนา ฯลฯ ยัง
มรรค ฯลฯ ยังอภิญญา ฯลฯ ฯลฯ ยังสมาบัติให้เกิดขึ้น ก่อมานะ ถือทิฏฐิ.

877