คือ สงบ ไม่วุ่นวาย เนื่อง ๆ. บทว่า อนุธมฺมจารี ประพฤติธรรม
สมควร คือปรารภธรรมเหล่านั้นแล้วประพฤติวิปัสสนาธรรมไปตาม
สมควร. อีกอย่างหนึ่ง บทว่า ธมฺมา ได้แก่ โลกุตรธรรม ๙. ชื่อว่า
อนุธมฺโม คือ เพราะเป็นธรรมสมควรแก่โลกุตรธรรมเหล่านั้น. บทนี้
เป็นชื่อของวิปัสสนา. ในบทนั้นเมื่อควรจะกล่าวว่า ประพฤติธรรม
สมควรแก่ธรรมทั้งหลายเป็นนิจ ก็กล่าวเสียว่า ธมฺเมสุ ในธรรมทั้งหลาย
ด้วยการแปลงวิภัตติเพื่อสะดวกในการแต่งคาถา. คือควรจะเป็น ธมฺมานํ
แต่ในคาถาเป็น ธมฺเมสุ. บทว่า อาทีนวํ สมฺมสิตา ภเสุ พิจารณา
เห็นโทษในภพทั้งหลาย คือพิจารณาเห็นโทษมีอาการไม่เที่ยงเป็นต้นใน
ภพ ๓ ด้วยวิปัสสนา อันได้แก่ความเป็นผู้พระพฤติธรรมสมควรแก่ธรรม
นั้น ควรกล่าวว่าท่านได้บรรลุแล้วด้วยปฏิปทา กล่าวคือ กายวิเวก จิตต-
วิเวกและวิปัสสนาอัน ถึงความเป็นยอต้นอย่างนี้. พึงทราบการประกอ
อย่างนี้ว่า เอโก จเร พึงเที่ยวไปผู้เดียว.
จบคาถาที่ ๕
คาถาที่ ๖
๓๖) ตณฺหกฺขยํ ปตฺถยํ อปฺปมตฺโต
อเนลมูโค สุตฺวา สิติมา
สงฺขาตธมฺโม นิยโต ปธานวา
เอโก จเร ขคฺควิสาณกปฺโป.