และเป็นผู้ตั้งอยู่ในธรรมอันไม่เสมอ มีกายทุจริตเป็นต้น กุลบุตรผู้รักตนพึง
เว้นสหายลามกนั้น ผู้ชี้บอกความฉิบหายมิใช่ประโยชน์ ผู้ดังอยู่ในธรรม
ไม่เสมอ ไม่ควรเสพด้วยตนเอ ง คือด้วยอำนาจของตน ด้วยประการฉะนี้.
ท่านกล่าวว่า ก็ผิว่าเป็นอำนาจของผู้อื่น สามารถจะทำอย่างไร.
บทว่า ปสุตํ ขวนขวาย อธิบายว่า ติดอยู่ในบาปธรรมนั้น ๆ ด้วยอำนาจ
แห่งทิฏฐิ. บทว่า ปมตฺตํ คนประมาท คือผู้ปล่อยจิตไปแล้วในกามคุณ
หรือเว้นจากกุศลภาวนา. บุคคลไม่พึงเสพ คือไม่พึงคบ ได้แก่ไม่พึง
เข้าใกล้บุคคลเห็นปานนั้น โดยที่แท้พึงเที่ยวไปผู้เดียวเหมือนนอแรดฉะนั้น.
พึงทราบวินิจฉัยในนิเทศ ดังต่อไปนี้ บทว่า สยํ น เสเวยฺย
คือ ไม่พึงเข้าไปหาด้วยตนเอง. บทว่า สามํ น เสเวยฺย คือ ไม่พึง
เข้าไปใกล้แม้ด้วยใจ บทว่า น เสเวยฺย คือ ไม่พึงคบ. บทว่า น
นิเสเวยฺย ไม่ควรอาศัยเสพ คือไม่เข้าไปแม้ในที่ใกล้. บทว่า น
สํเสเวยฺย ไม่ควรร่วมเสพ คือพึงอยู่ให้ไกล. น ปฏิเสเวยฺย ไม่ควร
ซ่องเสพ คือหลีกไปเสีย.
จบคาภาที่ ๓
คาถาที่ ๔
๒๔) พหุสฺสตํ ธมฺมธรํ ภเชถ
มิตฺติ อุฬารํ ปฏิภาณวนฺติ
อญฺญาย อตฺถานิ วิเนยฺย กงฺขํ
เอโก จเร ขคฺควิสาณกปฺโป.