ของข้าพเจ้าให้มีความสุข มโหสถย่อมเห็นแจ่มแจ้ง
ซึ่งความเจริญทุกอย่างทั้งอนาคตและปัจจุบัน ข้าพเจ้า
ไม่ยอมให้มโหสถบัณฑิตผู้ไม่มีความผิดเลยแก่ผีเสื้อ
น้ำ.
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า กิมฺหิจิ กาเล แปลว่า ในกาลไหน ๆ
บทว่า สุขาเปยฺย ความว่า พึงให้ตั้งอยู่ในความสุขทีเดียว. บทว่า สพฺพมตฺถํ
ความว่า มโหสถย่อมเห็นแจ่มแจ้งซึ่งความเจริญทุกอย่างทั้งอนาคตและปัจจุบัน
หรืออดีต ราวกะพระพุทธเจ้าผู้สัพพัญญู. บทว่า อนาปราธกมฺมนฺต
ความว่า เว้นจากความผิดทางกายกรรมเป็นต้น. บทว่า น ทชฺชํ ความว่า
ข้าแต่แม่เจ้า ข้าพเจ้าจักไม่ให้บัณฑิตผู้มีธุระไม่มีใครเสมอเหมือนอย่างนี้ แก่
ผีเสื้อน้ำ.
พระเจ้าจุลนีทรงยกเกียรติคุณของพระมหาสัตว์ขึ้นประกาศ ประหนึ่ง
ทรงยกดวงจันทร์ขึ้นฉะนั้น ด้วยประการฉะนี้ ชาดกนี้มีเนื้อความคิดต่อกัน
ด้วยประการฉะนี้.
ลำดับนั้น นางเภรีปริพาชิกาคิดว่า เกียรติคุณของมโหสถบัณฑิต
ปรากฏเพียงเท่านี้ ยังไม่เพียงพอ เราจักกระทำเกียรติคุณของมโหสถบัณฑิต
ให้ปรากฏในท่ามกลางชาวเมืองทั้งสิ้นทีเดียว ให้เป็นประหนึ่งว่ารดน้ำมันลง
บนผิวแม่น้ำแผ่ขยายไปฉะนั้น คิดฉะนี้แล้วจึงเชิญพระเจ้าจุลนีลงจากปราสาท
ให้ปูลาดอาสนะพระลานหลวงนั่งบนอาสนะนั้นแล้ว ประกาศให้ชาวเมืองมา
ประชุมกัน แล้วทูลถามพระเจ้าจุลนีถึงปัญหาผีเสื้อน้ำ ตั้งแต่ต้นอีกในเวลาที่
พระเจ้าจุลนีตรัสโดยนัยที่ตรัสแล้วในหนหลัง นางเภรีปริพาชิกาได้กล่าวประ-
กาศแก่ชาวเมืองว่า
ชาวปัญจาละทั้งหลาย ท่านทั้งหลายจงพึงพระ-
ดำรัสของพระเจ้าจุลนีนี้ พระองค์ทรงปกป้องมโหสถ