• อุเทศ (อุทฺเทส) = การยกขึ้นแสดง ยกขึ้นพูด นำมากล่าว (อุด-เด-สิ = ยกเอาพระธรรมขึ้นแสดง , กะ = บุคคลผู้กำลังทำงาน , เจ-ดี = ที่ควรเคารพบูชา , อุด-เท-สิ-กะ-เจ-ดี = ยกเอาพระธรรมขึ้นแสดง เห็นใครยกพระธรรมขึ้นแสดง นั้นคือสิ่งที่ควรเคารพบูชา เรียกว่า อุทเทสิกเจดีย์)
• "ไม่มีวัตถุปรากฏเป็นเพียงเนื่องด้วยตถาคต" = พระธรรม

อุทเทสิกเจดีย์ คือการยกเอาพระธรรมขึ้นแสดง อันเดียวกันกับธรรมเจดีย์ ในธรรมเจติยสูตร พระเจ้าปเสนทิโกศล ตรัสธรรมเจดีย์ มีพระวาจาเคารพธรรม คือกล่าวชม พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นสูตรเฉพาะ

ส่วนอุทเทสิกเจดีย์ จะสูตรไหนก็ได้ แต่ต้องยกขึ้นแสดง ถ้าธรรมมีอยู่ รู้ธรรมอยู่ แต่ไม่ยกขึ้นแสดง อันนี้ไม่เรียกว่า อุทเทสิกเจดีย์ ธรรมเจดีย์ไม่ใช่วัตถุ เพราะพระธรรมเป็นนาม พระธรรมไม่ใช่สิ่งของ แม้แต่ตู้พระไตรปิฎกก็ไม่ใช่พระธรรม กระดาษที่ใช้บันทึกก็ไม่ใช่พระธรรม เป็นเพียงแต่เครื่องบันทึกเท่านั้น สอดคล้องกับที่ตรัสไว้ว่า อุทเทสิกเจดีย์ไม่มีวัตถุปรากฏ และเจดีย์ที่ไม่มีวัตถุปรากฏก็คือพระธรรม สิ่งที่เนื่องด้วยตถาคตก็คือพระธรรม แม้พระพุทธเจ้าก็ทรงเคารพธรรม ธรรมจึงเป็นเจดีย์ (ที่ไม่ใช่วัตถุ) การยกเอาธรรมขึ้นแสดง จึงเรียกว่าอุทเทสิกเจดีย์ สงเคราะเข้าปฏิบัติบูชาหรือบูชาด้วยธรรม

แม้จะไม่มีเขียนไว้ตรงตามตัวอักษรว่า "อุทเทสิกเจดีย์คือธรรมเจดีย์" ก็ตาม แต่เนื้อความเข้ากันได้ และศาสนานี้ไม่ได้สอนให้ยึดแต่ตัวหนังสือโดยไม่เอาเนื้อความ พระพุทธเจ้าตรัสไว้ชัดเจนว่า ให้พิจารณาเนื้อความ ให้เทียบในหลายๆที่ นอกจากนี้ยังสอดคล้องกับมหาประเทศ ๔

สิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสห้ามไว้ แม้ไม่มีคำว่า "ห้าม" ก็ตาม จะมาเถึยงว่าท่านไม่ไดห้าม เพียงเพราะไม่มีคำว่า "ห้าม" จะได้ไหม? เช่น ท่านตรัสว่า "จักษุเป็นของร้อน รูปทั้งหลายเป็นของร้อน" จะมาเถึยงว่า ท่านไม่ได้ห้ามให้ยึดในรูป เพราะไม่มีคำว่า "ห้าม" จะได้ไหม ฉะนั้น การยึดดูแต่ตัวหนังสือโดยไม่พิจารณาเนื้อความ พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่าเป็นการปฏิบัติผิด