No Favorites

เปรียบมารดาและบิดาว่าเป็นพระอรหันต์ของลูกก็ได้ ไม่ผิด

ในสูตรนี้ หรือในสพรหมสูตร พระพุทธเจ้าพูดถึงคุณของมารดาและบิดาว่าเป็นสิ่งที่ประเสริฐที่สุดสำหรับบุตร เป็นอาหุไนยบุคคลสำหรับบุตร (สำหรับบุตรเท่านั้นแต่ไม่ใช่สำหรับผู้อื่น)

...[๒๘๖] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ตระกูลใด บุตรบูชามารดาและบิดาอยู่ในเรือนของตน ตระกูลนั้นชื่อว่ามีพรหม มีบุรพเทวดา มีบุรพาจารย์มีอาหุไนยบุคคล ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คำว่าพรหม เป็นชื่อของมารดาและบิดาคำว่าบุรพเทวดา เป็นชื่อของมารดาและบิดา คำว่าบุรพาจารย์ เป็นชื่อของมารดาและบิดา คำว่าอาหุไนยบุคคล เป็นชื่อของมารดาและบิดา ข้อนั้นเพราะเหตุไร ? เพราะมารดาและบิดาเป็นผู้มีอุปการะมาก เป็นผู้ถนอมเลี้ยง เป็นผู้แสดงโลกนี้แก่บุตร...

คำว่า "พรหม" ใช้เรียกสิ่งที่ประเสริฐที่สุด และสิ่งที่ประเสริฐที่สุดสำหรับบุตรก็คือมารดาและบิดานั่นเอง จึงเรียก มารดาและบิดาว่าเป็น พรหม ของบุตร ฉะนั้น จะเปรียบว่าเป็นพระอรหันต์ของบุตรก็ได้ ไม่ผิด ในความหมายเดียวกัน ไม่ได้หมายความว่าเป็นอรหันต์ที่ไกลจากกิเลส

...อีกอย่างหนึ่งท้าวมหาพรหมก็ดี พระตถาคตก็ดี พราหมณ์ก็ดี มารดาบิดาก็ดี สิ่งที่ประเสริฐที่สุดก็ดี ท่านก็เรียกว่า พรหม จริงอยู่ ท้าวมหาพรหม ท่านเรียกว่า พรหม (ดัง) ในประโยคเป็นต้นว่า พรหม ๑,๐๐๐ ๒,๐๐๐ พระตถาคต ท่านก็เรียกว่า พรหม (ดัง) ในประโยคนี้ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คำว่า พรหมนี้ เป็นชื่อของพระตถาคตนั่นแล พราหมณ์ ท่านเรียกว่า พรหม (ดัง) ในประโยคนี้ว่า พระพุทธเจ้า ผู้บรรเทาความมืด ผู้มีพระจักษุรอบคอบผู้ถึงที่สุดแห่งโลก ผู้ก้าวล่วงภพทั้งปวง ผู้ไม่มีอาสวะผู้ละทุกข์ทั้งปวงได้แล้ว ผู้กล่าวสัจจะ ผู้อันพรหมบำเรอแล้ว ดังนี้ มารดาบิดา ท่านเรียกว่า พรหม (ดัง) ในประโยคนี้ว่า มารดาบิดา ท่านเรียกว่า พรหม มารดาบิดา ท่านเรียกว่า บุพพาจารย์ สิ่งที่ประเสริฐที่สุด ท่านเรียกว้า พรหม (ดัง) ในประโยคนี้ว่า พระผู้มีพระภาคเจ้ายังจักรอันประเสริฐให้เป็นไป ดังนี้...

ฉะนั้น ที่อรรถกถาอธิบาย เปรียบมารดาและบิดาว่าเป็นพระอรหันต์ของลูกนั้นไม่ผิด แต่คนไม่เข้าใจเนื้อความ ก็จะเถียงเอาแต่ด้านเดียวว่า พระอรหันต์ไม่มีกิเลส แล้วไม่ให้มีการทำอุปมา เปรียบใดๆทั้งสิ้น

...จาตุมมหาราชิกา จนถึงภวัคคพรหม ชื่อว่า อุปปัตติเทพ พระขีณาสพชื่อว่า วิสุทธิเทพ เพราะหมดจดจากกิเลสทั้งมวล ในข้อนั้นมีอรรถพจน์ดังต่อไปนี้ เหล่าสัตว์ชื่อว่าเทพ เพราะเล่น, สนุกสนาน, เฮฮา, รุ่งเรื่องอยู่และชนะฝ่ายตรงข้าม บรรดาเทพ ๓ จำพวกเหล่านั้น วิสุทธิเทพประเสริฐกว่าเทพทุกเหล่า วิสุทธิเทพเหล่านั้นมุ่งแต่ความเสื่อมไปแห่งสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ และการเกิดขึ้นแห่งประโยชน์แก่เขาเหล่านั้น โดยส่วนเดียว ไม่คำนึงถึงความผิดที่พาลชนทำไว้เลย ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ เพื่อเกื้อกูล เพื่อความสุข โดยการประกอบพรหมวิหารธรรมตามที่กล่าวแล้ว และนำความที่สักการะมีผลมากและอานิสงส์มากมายมาให้ชนเหล่านั้น เพราะเป็นทักขิไณยบุคคล ฉันใด แม้มารดาบิดาทั้งหลาย ก็เช่นนั้น...

ถ้าจะยึดเอาแต่ตัวพยัญชนะและเอาคำว่าไม่มีกิเลสมาเป็นประเด็นแบบนี้ งั้นทำไม พระพุทธเจ้าเอาการฆ่ามารดาและฆ่าบิดา ไปใส่ในหมวดเดียวกันกับ ฆ่าพระอรหันต์ ในอนันตริยกรรม 5 ล่ะ ? จะไปเถียงพระพุทธเจ้าได้ไหมว่า มารดาและบิดายังมีกิเลสอยู่ ทำไมเอามาใส่ในหมวดนี้ ? และในเรื่องสันตติมหาอำมาตย์ก็เหมือนกัน ทำไมพระพุทธเจ้าเรียกบุตรตถาคตที่เป็นอุบาสก อุบาสิกาว่า เป็นพราหมณ์ก็ได้ เป็นสมณะก็ได้ เป็นภิกษุก็ได้ ? ไม่ไปเถียงท่านหรือว่า อุบาสก อุบาสิกา จะเป็นสมณะ เป็นภิกษุได้อย่างไร เพราะไม่ได้บวช? คือคนไม่เข้าใจเนื้อความก็จะเถียงเอาแต่ด้านเดียว จะไม่รู้จักเทียบดูให้ตนเองมีความเข้าใจที่กว้างขวาง

อาหุไนยบุคคลสำหรับส่วนรวม ก็คือพระอรหันต์ที่ไกลจากกิเลส ส่วนใครจะเรียกอาหุไนยบุคคลสำหรับบุตร ว่าพระอรหันต์ของลูกในแง่ที่ว่ามีคุณอันสูงสุดต่อลูกก็ได้ ไม่ผิด ฉะนั้น ต้องเข้าใจอัธยาศัยของผู้พูด ว่าเขาไม่ได้หมายถึงพระอรหันต์ที่ไกลจากกิเลส

กระทู้เกี่ยวข้อง :  #กรณีเอาคำสมมุติมาโต้เถียงกัน (เรื่องนิพพานไม่ใช่สถานที่ เจ้ากรรมนายเวรไม่มี)