No Favorites




หมวด/เล่ม
พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๕ – หน้าที่ 728 (เล่ม 89)

นิพพาน เป็นปัจจัยแก่โคตรภู, แก่โวทาน, แก่มรรคที่เป็นสวิตักก-
ธรรม, แก่ผล ด้วยอำนาจของอธิปติปัจจัย.
บุคคลย่อมยินดี ย่อมเพลิดเพลินยิ่ง เพราะกระทำจักษุ ฯลฯ หทย-
วัตถุ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นอวิตักกธรรม และวิตกให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น
ครั้นกระทำจักษุเป็นต้นนั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่นแล้ว ราคะ ย่อม
เกิดขึ้น ทิฏฐิ ย่อมเกิดขึ้น.
เพราะกระทำขันธ์ทั้งหลายที่เป็นอวิตักกธรรม และวิตก ให้เป็น
อารมณ์อย่างหนักแน่น ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นสวิตักกธรรม ย่อมเกิดขึ้น.
๖. อวิตักกธรรม เป็นปัจจัยแก่สวิตักกธรรม และ
อวิตักกธรรม ด้วยอำนาจของอธิปติปัจจัย
มีอย่างเดียว คือที่เป็น อารัมมณาธิปติ ได้แก่
พระอริยะทั้งหลายออกจากฌานที่เป็นอวิตักกธรรม ฯลฯ ออกจาก
ผล พิจารณาผล พิจารณานิพพาน.
นิพพาน เป็นปัจจัยแก่โคตรภู, แก่โวทาน, แก่มรรคที่เป็นสวิตักก-
ธรรม, แก่ผล, และแก่วิตก ด้วยอำนาจของอธิปติปัจจัย.
บุคคลย่อมยินดี ย่อมเพลิดเพลินยิ่งเพราะกระทำจักษุ ฯลฯ หทยวัตถุ
ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นอวิตักกธรรม และวิตกให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ครั้น
กระทำจักษุเป็นต้นนั้น ให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่นแล้ว ราคะ ย่อมเกิดขึ้น
ทิฏฐิ ย่อมเกิดขึ้น.
เพราะกระทำขันธ์ทั้งหลายที่เป็นอวิตักกธรรม และวิตกให้เป็นอารมณ์
อย่างหนักแน่น ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นสวิตักกธรรม และวิตก ย่อมเกิดขึ้น.

728
หมวด/เล่ม
พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๕ – หน้าที่ 729 (เล่ม 89)

๗. สวิตักกธรรม และอวิตักกธรรม เป็นปัจจัยแก่
สวิตักกธรรม ด้วยอำนาจของอธิปติปัจจัย
มีอย่างเดียว คือที่เป็น อารัมมณาธิปติ ได้แก่
เพราะกระทำขันธ์ทั้งหลายที่เป็นสวิตักกธรรม และวิตกให้เป็นอารมณ์
อย่างหนักแน่น ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นสวิตักกธรรม ย่อมเกิดขึ้น.
พึงกระทำมูล (วาระที่ ๘)
เพราะกระทำขันธ์ทั้งหลายที่เป็นสวิตักกธรรม และวิตกให้เป็นอารมณ์
อย่างหนักแน่น วิตก ย่อมเกิดขึ้น.
พึงกระทำมูล (วาระที่ ๙)
เพราะกระทำขันธ์ทั้งหลายที่เป็นสวิตักกธรรม และวิตกให้เป็นอารมณ์
อย่างหนักแน่น ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นสวิตักกธรรม และวิตก ย่อมเกิดขึ้น.
๔. อนันตรปัจจัย
[๖๕๙] ๑. สวิตักกธรรม เป็นปัจจัยแก่สวิตักกธรรม ด้วย
อำนาจของอนันตรปัจจัย
คือ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นสวิตักกธรรม ที่เกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่
ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นสวิตักกธรรม ที่เกิดหลัง ๆ ด้วยอำนาจของอนันตรปัจจัย.
๒. สวิตักกธรรม เป็นปัจจัยแก่อวิตักกธรรม ด้วย
อำนาจของอนันตรปัจจัย
คือ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นสวิตักกธรรม ที่เกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่
อวิตักกธรรม ที่เกิดหลัง ๆ ด้วยอำนาจของอนันตรปัจจัย.

729
หมวด/เล่ม
พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๕ – หน้าที่ 730 (เล่ม 89)

จุติจิต ที่เป็นสวิตักกธรรม เป็นปัจจัยแก่อุปปัตติจิตที่เป็นอวิตักก-
ธรรม ด้วยอำนาจของอนันตรปัจจัย.
อาวัชชนะ เป็นปัจจัยแก่ปัญจวิญญาณ ด้วยอำนาจของอนันตรปัจจัย.
ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นอวิตักกธรรม เป็นปัจจัยแก่ วุฏฐานะ ที่เป็น
อวิตักกธรรม ด้วยอำนาจของอนันตรปัจจัย.
บริกรรมแห่งทุติยฌาน เป็นปัจจัยแก่ทุติยฌาน ด้วยอำนาจของ
อนันตรปัจจัย.
บริกรรมแห่งตติยฌาน ฯลฯ
บริกรรมแห่งเนวสัญญานาสัญญายตนะ เป็นปัจจัยแก่ เนวสัญญานา-
สัญญายตนะ.
บริกรรมแห่งทิพยจักษุ ฯลฯ
บริกรรมแห่งทิพโสตธาตุ ฯลฯ
บริกรรมแห่งอิทธิวิธญาณ ฯลฯ แห่งเจโตปริยญาณ ฯลฯ แห่ง
ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ ฯลฯ บริกรรมแห่งยถากัมมูปคญาณ เป็นปัจจัยแก่
ยถากัมมูปคญาณ.
บริกรรมแห่งอนาคตังสญาณ เป็นปัจจัยแก่อนาคตังสญาณ ด้วย
อำนาจของอนันตรปัจจัย.
โคตรภู เป็นปัจจัยแก่มรรคที่เป็นอวิตักกธรรม, โวทาน เป็นปัจจัย
แก่มรรคที่เป็นอวิตักกธรรม, อนุโลมเป็นปัจจัยแก่ผลสมาบัติ ที่เป็นอวิตักก-
ธรรม ด้วยอำนาจของอนันตรปัจจัย.

730
หมวด/เล่ม
พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๕ – หน้าที่ 731 (เล่ม 89)

๓. สวิตักกธรรม เป็นปัจจัยแก่สวิตักกธรรม และ
อวิตักกธรรม ด้วยอำนาจของอนันตรปัจจัย
คือ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นสวิตักกธรรม ที่เกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่
ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นสวิตักกธรรม ที่เกิดหลัง ๆ และวิตก ด้วยอำนาจของ
อนันตรปัจจัย.
๔. อวิตักกธรรม เป็นปัจจัยแก่อวิตักกธรรม ด้วย
อำนาจของอนันตรปัจจัย
คือ วิตกที่เกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่วิตก ที่เกิดหลัง ๆ ด้วย
อำนาจของอนันตรปัจจัย.
ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นอวิตักกธรรม ที่เกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์
ทั้งหลายที่เป็นอวิตักกธรรม ที่เกิดหลัง ๆ ด้วยอำนาจของอนันตรปัจจัย.
มรรคที่เป็นอวิตักกธรรม เป็นปัจจัยแก่ผลที่เป็นอวิตักกธรรม, ผล
ที่เป็นอวิตักกธรรม เป็นปัจจัยแก่ผลที่เป็นอวิตักกธรรม.
เนวสัญญานาสัญญายตนะของผู้ออกจากนิโรธ เป็นปัจจัยแก่ผลสมาบัติ
ที่เป็นอวิตักกธรรม ด้วยอำนาจของอนันตรปัจจัย.
๕. อวิตักกธรรม เป็นปัจจัยแก่สวิตักกธรรม ด้วย
อำนาจของอนันตรปัจจัย
คือ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นอวิตักกธรรม ที่เกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่
ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นสวิตักกธรรม ที่เกิดหลัง ๆ ด้วยอำนาจของอนันตรปัจจัย.
จุติจิตที่เป็นอวิตักกธรรม เป็นปัจจัยแก่อุปปัตติจิต ที่เป็นสวิตักกธรรม
ภวังค์ที่เป็นอวิตักกธรรม เป็นปัจจัยแก่อาวัชชนะ.
ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นอวิตักกธรรม เป็นปัจจัยแก่วุฏฐานะที่เป็นสวิตักก-
ธรรม ด้วยอำนาจของอนันตรปัจจัย.

731
หมวด/เล่ม
พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๕ – หน้าที่ 732 (เล่ม 89)

๖. อวิตักกธรรม เป็นปัจจัยแก่สวิตักกธรรม และ
อวิตักกธรรม ด้วยอำนาจของอนันตรปัจจัย
คือ วิตกที่เกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นสวิตักก-
ธรรม ที่เกิดหลัง ๆ และวิตก ด้วยอำนาจของอนันตรปัจจัย.
๗. สวิตักกธรรม และอวิตักกธรรม เป็นปัจจัยแก่
สวิตักกธรรม ด้วยอำนาจของอนันตรปัจจัย
คือ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นสวิตักกธรรม ที่เกิดก่อน ๆ และวิตก เป็น
ปัจจัยแก่ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นสวิตักกธรรม ที่เกิดหลัง ๆ ด้วยอำนาจของ
อนันตรปัจจัย.
๘. สวิตักกธรรม และอวิตักกธรรม เป็นปัจจัยแก่
อวิตักกธรรม ด้วยอำ นาจของอนันตรปัจจัย
คือ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นสวิตักกธรรม ที่เกิดก่อน ๆ และวิตก เป็น
ปัจจัยแก่วิตก ที่เกิดหลัง ๆ ด้วยอำนาจของอนันตรปัจจัย, จุติจิตที่เป็น
สวิตักกธรรม และวิตก เป็นปัจจัยแก่อุปปัตติจิตที่เป็นอวิตักกธรรม ฯลฯ
อาวัชชนะ และวิตก เป็นปัจจัยแก่ปัญจวิญญาณ, ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นสวิตักก-
ธรรม และวิตก เป็นปัจจัยแก่วุฏฐานะที่เป็นอวิตักกธรรม ด้วยอำนาจของ
อนันตรปัจจัย.
บริกรรมแห่งทุติยฌาน และ วิตก ฯลฯ
ข้อความที่เขียนไว้ข้างต้น พึงเห็นโดยเหตุนี้.
อนุโลมและวิตก เป็นปัจจัยแก่ผลสมาบัติที่เป็นอวิตักกธรรม ด้วย
อำนาจของอนันตรปัจจัย.

732
หมวด/เล่ม
พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๕ – หน้าที่ 733 (เล่ม 89)

๙. สวิตักกธรรม และอวิตักกธรรม เป็นปัจจัยแก่
สวิตักกธรรม เเละอวิตักกธรรม ด้วยอำนาจของอนันตรปัจจัย
คือ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นสวิตักกธรรม ที่เกิดก่อน ๆ และวิตก เป็น
ปัจจัยแก่ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นสวิตักกธรรม ที่เกิดหลัง ๆ และวิตก ด้วย
อำนาจของอนันตรปัจจัย.
๕. สมนันตรปัจจัย ฯลฯ ๘. นิสสยปัจจัย
ฯลฯ เป็นปัจจัย ด้วยอำนาจของสมนันตรปัจจัย
ฯลฯ เป็นปัจจัย ด้วยอำนาจของสหชาตปัจจัย มี ๙ วาระ.
ฯลฯ เป็นปัจจัย ด้วยอำนาจของอัญญมัญญปัจจัย มี ๙ วาระ.
ฯลฯ เป็นปัจจัย ด้วยอำนาจของนิสสยปัจจัย มี ๙ วาระ.
๙. อุปนิสสยปัจจัย
[๖๖๐] ๑. สวิตักกธรรม เป็นปัจจัยแก่สวิตักกธรรม ด้วย
อำนาจของอุปนิสสยปัจจัย
มี ๓ อย่าง คือที่เป็น อารัมมณูปนิสสยะ อนันตรูปนิสสยะ และ
ปกตูปนิสสยะ
ที่เป็น ปกตูปนิสสยะ ได้แก่
ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นสวิตักกธรรม เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ทั้งหลายที่เป็น
สวิตักกธรรม ด้วยอำนาจของอุปนิสสยปัจจัย.
พึงกระทำ มูล (วาระที่ ๒)

733
หมวด/เล่ม
พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๕ – หน้าที่ 734 (เล่ม 89)

ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นสวิตักกธรรม เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ทั้งหลายที่เป็น
อวิตักกธรรม และวิตก ด้วยอำนาจของอุปนิสสยปัจจัย.
พึงกระทำมูล (วาระที่ ๓)
ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นสวิตักกธรรม เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ทั้งหลายที่เป็น
สวิตักกธรรม และวิตก ด้วยอำนาจของอุปนิสสยปัจจัย.
๔. อวิตักกธรรม เป็นปัจจัยแก่อวิตักกธรรม ด้วย
อำนาจของอุปนิสสยปัจจัย
มี ๓ อย่าง คือที่เป็น อารัมมณูปนิสสยะ อนันตรูปนิสสยะ และ
ปกตูปนิสสยะ
ที่เป็น ปกตูปนิสสยะ ได้แก่
บุคคลเข้าไปอาศัยศรัทธาที่เป็นอวิตักกธรรม แล้วยังฌานที่เป็นอวิ-
ตักกธรรมให้เกิดขึ้น ฯลฯ ยังอภิญญาให้เกิดขึ้น ยังสมาบัติให้เกิดขึ้น.
บุคคลเข้าไปอาศัยศีลที่เป็นอวิตักกธรรม ฯลฯ ปัญญา ฯลฯ สุขทาง-
กาย ทุกข์ทางกาย อุตุ โภชนะ ฯลฯ เสนาสนะ วิตกแล้ว ยังฌานที่เป็น
อวิตักกธรรม ฯลฯ มรรค ฯลฯ อภิญญา ฯลฯ สมาบัติให้เกิดขึ้น.
ศรัทธาที่เป็นอวิตักกธรรม ฯลฯ เสนาสนะ และวิตก เป็นปัจจัยแก่
ศรัทธาที่เป็นอวิตักกธรรม ฯลฯ แก่ปัญญา แก่สุขทางกาย แก่ทุกข์ทางกาย
แก่มรรคที่เป็นอวิตักกธรรม แก่ผลสมาบัติ ด้วยอำนาจของอุปนิสสยปัจจัย.
๕. อวิตักกธรรม เป็นปัจจัยแก่สวิตักกธรรม ด้วย
อำนาจของอุปนิสสยปัจจัย พึงทำอุปนิสสยปัจจัยทั้ง ๓ นัย ในที่ทั้งปวง.

734
หมวด/เล่ม
พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๕ – หน้าที่ 735 (เล่ม 89)

บุคคลเข้าไปอาศัยศรัทธาที่เป็นอวิตักกธรรม แล้วให้ทาน สมาทาน-
ศีล ทำอุโบสถกรรม ยังฌานที่เป็นสวิตักกธรรม ฯลฯ วิปัสสนา มรรค
อภิญญา ฯลฯ สมาบัติให้เกิดขึ้น ก่อมานะ ถือทิฏฐิ.
บุคคลเข้าไปอาศัยศีลที่เป็นอวิตักกธรรม ฯลฯ เสนาสนะ วิตก แล้ว
ให้ทาน ฯลฯ ยังสมาบัติให้เกิดขึ้น ฆ่าสัตว์ ฯลฯ ทำลายสงฆ์.
ศรัทธาที่เป็นอวิตักกธรรม ฯลฯ เสนาสนะ และวิตก เป็นปัจจัยแก่
ศรัทธาที่เป็นสวิตักกธรรม แก่ผลสมาบัติ ด้วยอำนาจของอุปนิสสยปัจจัย.
๖. อวิตักกธรรม เป็นปัจจัยแก่สวิตักกธรรม และ
อวิตักกธรรม ด้วยอำนาจของอุปนิสสยปัจจัย
คือ บุคคลเข้าไปอาศัยศรัทธาที่เป็นอวิตักกธรรม แล้วให้ทาน ฯลฯ
ในทุติยวาระ พึงทำบทที่เขียนไว้ทั้งหมด ยังสมาบัติให้เกิดขึ้น ก่อมานะ
ถือทิฏฐิ.
บุคคลเข้าไปอาศัยศีล ฯลฯ ปัญญา ฯลฯ เสนาสนะ วิตก แล้ว
ให้ทาน ฯลฯ ฆ่าสัตว์ ฯลฯ ทำลายสงฆ์.
ศรัทธาที่เป็นอวิตักกธรรม ฯลฯ เสนาสนะ และวิตก เป็นปัจจัยแก่
ศรัทธาที่เป็นสวิตักกธรรม ฯลฯ แก่ปัญญา แก่ราคะ แก่ความปรารถนา
แก่มรรคที่เป็นสวิตักกธรรม แก่ผลสมาบัติ และแก่วิตก ด้วยอำนาจของ
อุปนิสสยปัจจัย.
๗. สวิตักกธรรม และอวิตักกธรรม เป็นปัจจัยแก่
สวิตักกธรรม ด้วยอำนาจของอุปนิสสยปัจจัย

735
หมวด/เล่ม
พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๕ – หน้าที่ 736 (เล่ม 89)

คือขันธ์ทั้งหลายที่เป็นสวิตักกธรรม และวิตก เป็นปัจจัยแก่ขันธ์
ทั้งหลายที่เป็นสวิตักกธรรม ด้วยอำนาจของอุปนิสสยปัจจัย.
พึงกระทำมูล (วาระที่ ๘)
ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นสวิตักกธรรม และวิตก เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ทั้งหลาย
ที่เป็นอวิตักกธรรม และวิตก ด้วยอำนาจของอุปนิสสยปัจจัย.
พึงกระทำมูล (วาระที่ ๙)
ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นสวิตักกธรรม และวิตก เป็นปัจจัยแก่ขันธ์
ทั้งหลายที่เป็นสวิตักกธรรม และวิตก ด้วยอำนาจของอุปนิสสยปัจจัย.
๑๐. ปุเรชาตปัจจัย
[๖๖๑] ๑. อวิตักกธรรม เป็นปัจจัยแก่อวิตักกธรรม ด้วย
อำนาจของปุเรชาตปัจจัย
มี ๒ อย่าง คือที่เป็น อารัมมณปุเรชาตะ และ วัตถุปุเรชาตะ
ที่เป็น อารัมมณปุเรชาตะ ได้แก่
บุคคลพิจารณาเห็นจักษุ ฯลฯ หทยวัตถุ โดยความเป็นของไม่เที่ยง
ฯลฯ ย่อมยินดี ย่อมเพลิดเพลินยิ่ง เพราะปรารภหทยวัตถุนั้น วิตก ย่อม
เกิดขึ้น.
ฯลฯ ด้วยทิพยจักษุ ฯลฯ โผฏฐัพพายตนะ เป็นปัจจัยแก่กายวิญญาณ.
ที่เป็น วัตถุปุเรชาตะ ได้แก่
จักขายตนะ เป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณ ฯลฯ กายายตนะ ฯลฯ

736
หมวด/เล่ม
พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๕ – หน้าที่ 737 (เล่ม 89)

หทยวัตถุ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นอวิตักกธรรม และวิตก
ด้วยอำนาจของปุเรชาตปัจจัย.
๒. อวิตักกธรรม เป็นปัจจัยแก่สวิตักกธรรม ด้วย
อำนาจของปุเรชาตปัจจัย
มี ๒ อย่าง คือที่เป็น อารัมมณปุเรชาตะ และ วัตถุปุเรชาตะ
ที่เป็น อารัมมณปุเรชาตะ ได้แก่
บุคคลพิจารณาเห็นจักษุ ฯลฯ หทยวัตถุ โดยความเป็นของไม่เที่ยง
ฯลฯ ย่อมยินดี ย่อมเพลิดเพลินยิ่ง เพราะปรารภจักษุเป็นต้นนั้น ขันธ์
ทั้งหลายที่เป็นสวิตักกธรรม ย่อมเกิดขึ้น
ที่เป็น วัตถุปุเรชาตะ ได้แก่
หทยวัตถุ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นสวิตักกธรรม ด้วยอำนาจ
ของปุเรชาตปัจจัย.
๓. อวิตักกธรรม เป็นปัจจัยแก่สวิตักกธรรม และ
อวิตักกธรรม ด้วยอำนาจของปุเรชาตปัจจัย
มี ๒ อย่าง คือที่เป็น อารัมมณปุเรชาตะ และ วัตถุปุเรชาตะ
ที่เป็น อารัมมณปุเรชาตะ ได้แก่
บุคคลพิจารณาเห็นจักษุ ฯลฯ หทยวัตถุ โดยความเป็นของไม่เที่ยง
ฯลฯ ย่อมยินดี ย่อมเพลิดเพลินยิ่ง เพราะปรารภจักษุเป็นต้นนั้น ขันธ์
ทั้งหลายที่เป็นสวิตักกธรรม และวิตก ย่อมเกิดขึ้น.
ที่เป็น วัตถุปุเรชาตะ ได้แก่

737