มาในป่านั้น ภูมิภาคอันน่ารื่นรมย์ใจในที่ไม่ไกล
อาศรมนั้น มีสระโบกขรณีดารดาษไปด้วยปทุมชาติ
และอุบล เหมือนดังที่มีอยู่ในนันทวันของทวยเทพ
ดูก่อนพราหมณ์ ในสระนั้นมีอุบลชาติ ๓ ชนิด คือ
เขียว ขาว และแดง งามวิจิตรมากมาย.
พระดาบสกล่าวว่า
[๑๑๕๐] ในสระนั้นมีปทุมชาติดาษดื่น สีขาว
ดังผ้าโขมพัสตร์ สระนั้นชื่อว่า มุจลินท์ ดารดาษไป
ด้วยอุบลขาว จงกลณี และผักทอดยอด อนึ่งเล่า
ปทุมชาติในสระนั้นมีดอกบานสะพรั่ง ปรากฏหา
กำหนดประมาณมิได้ บ้างก็บานในคิมหันตฤดู บ้าง
ก็บานในเหมันตฤดู ปรากฏเหมือนตั้งอยู่ในน้ำลึก
ประมาณเพียงเข้า ปทุมชาติอันงามวิจิตรชูดอกสะพรั่ง
ส่งกลิ่นหอมฟุ้งตระหลบไป หมู่ภมรโผผินบินว่อน
เสียงวู่ ๆ อยู่โดยรอบ เพราะกลิ่นหอมแห่งบุปผชาติ.
[๑๑๕๑] ดูก่อนพราหมณ์ อนึ่งเล่า ที่ใกล้ขอบ
สระนั้นมีต้นไม้หลากหลายขึ้นออกสะพรั่ง คือ ต้น
กระทุ่ม ต้นแคฝอย และต้นทองหลาง ผลิดอกออก
สะพรั่ง ไม้ปรู ไม่ทราก ต้นปาริชาตดอกบานสะพรั่ง
ต้นกากะทิง ต้นไม้เหล่านี้มีอยู่ที่สองฟากปากสระมุจ-
ลินท์ ต้นซึก ต้นแคขาว บัวบก ส่งกลิ่นหอมฟุ้งไป
ต้นคนทิสอ ต้นคนทิเขมา และต้นประดู่มีอยู่ ณ ที่