No Favorites




หมวด/เล่ม
พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต เล่ม ๔ – หน้าที่ 498 (เล่ม 37)

คำท่าน นี้ชื่อว่าเป็นทางไปแห่งสัมผัปปลาปะ. บทว่า อมฺมตฺตกสํ-
วตฺตนิโก โหติ ความว่า ย่อมยังความเป็นบ้าให้เป็นไป จริงอยู่
มนุษย์เป็นบ้ามีจิตฟุ้งซ่านหรือเป็นใบ้ เพราะการดื่มสุรานั้น นี้
เป็นวิบากเครื่องใหลออกแห่งสุราปานะ. สูตรนี้ ตรัสเฉพาะวัฏฏะ
เท่านั้นแล.
จบ อรรถกถาสัพพลหุสสูตรที่ ๑๐
รวมพระสูตรที่มีในวรรคนี้ คือ
๑. ทานสูตรที่ ๑ ๒. ทานสูตรที่ ๒ ๓. ทานวัตถุสูตร ๔. เขตต-
สูตร ๕. ทานูปปัตติสูตร ๖. บุญกิริยาวัตถุสูตร ๗. สัปปุริสสูตรที่ ๑
๘. สัปปุริสสูตรที่ ๒ ๙. ปญญาภิสันทสูตร ๑๐. สัพพลหุสสูตร.
จบ ทานวรรคที่ ๔

498
หมวด/เล่ม
พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต เล่ม ๔ – หน้าที่ 499 (เล่ม 37)

อุโปสถวรรคที่ ๕
๑. สังขิตตสูตร
[๑๓๑] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้ :-
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน
อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้กรุงสาวัตถี ครั้งนั้นแล
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
ภิกษุเหล่านั้นทูลรับพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้า
ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อุโบสถประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ
อันบุคคลเข้าอยู่แล้ว ย่อมมีผลมาก มีอานิสงส์มาก มีความรุ่งเรือง
มาก มีความแพร่หลายมาก ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็อุโบสถประกอบ
ด้วยองค์ ๘ ประการ อันบุคคลเข้าอยู่แล้วอย่างไร จึงมีผลมาก
มีอานิสงส์มาก มีความรุ่งเรื่องมาก มีความแพร่หลายมาก อริยสาวก
ในธรรมวินัยนี้ ตระหนักชัดดังนี้ว่า พระอรหันต์ทั้งหลายละ
ปาณาติบาต งดเว้นจากปาณาติบาต วางท่อนไม้ วางศาตรา
มีความละอาย เอื้อเอ็นดู อนุเคราะห์เกื้อกูลสรรพสัตว์อยู่ตลอดชีวิต
ในวันนี้ แม้เราก็ละปาณาติบาต งดเว้นจากปาณาติบาต วางท่อนไม้
วางศาตรา มีความละอาย เอื้อเอ็นดู อนุเคราะห์เกื้อกูลสรรพสัตว์
อยู่ ตลอดคืนและวันนี้ เราชื่อว่ากระทำตามพระอรหันต์แม้ด้วยองค์นี้
และอุโบสถชื่อว่าจักเป็นอันเราเข้าอยู่แล้ว อุโบสถประกอบด้วย
องค์ที่ ๑ นี้.

499
หมวด/เล่ม
พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต เล่ม ๔ – หน้าที่ 500 (เล่ม 37)

ฯลฯ พระอรหันต์ทั้งหลายละทินนาทาน งดเว้นจากอทินนาทาน
ถือเอาแต่สิ่งของที่เขาให้ หวังแต่สิ่งของที่เขาให้ มีตนไม่เป็นขโมย
สะอาดอยู่ตลอดชีวิต ในวันนี้ แม้เราก็ละอทินนาทาน งดเว้นจาก
อทินนาทาน ถือเอาแต่สิ่งของที่เขาให้ หวังแต่สิ่งของที่เขาให้ มีตน
ไม่เป็นขโมย สะอาดอยู่ตลอดคืนและวันนี้ เราชื่อว่ากระทำตาม
พระอรหันต์แม้ด้วยองค์นี้ และอุโบสถชื่อว่าจักเป็นอันเราเข้าอยู่แล้ว
อุโบสถประกอบด้วยองค์ที่ ๒ นี้.
ฯลฯ พระอรหันต์ทั้งหลายละอพรหมจรรย์ ประพฤติพรหม-
จรรย์ ประพฤติห่างไกล เว้นจากเมถุนอันเป็นธรรมของชาวบ้าน
ตลอดชีวิต ในวันนี้ แม้เราก็ละอพรหมจรรย์ ประพฤติพรหมจรรย์
ประพฤติห่างไกล เว้นจากเมถุนอันเป็นธรรมของชาวบ้านอยู่
ตลอดคืนและวันนี้ เราชื่อว่ากระทำตามพระอรหันต์ทั้งหลายแม้ด้วย
องค์นี้ และอุโบสถชื่อว่าจักเป็นอันเราเข้าอยู่แล้ว อุโบสถประกอบ
ด้วยองค์ที่ ๓ นี้.
ฯลฯ พระอรหันต์ทั้งหลายละมุสาวาท งดเว้นจากมุสาวาท
พูดแต่คำสัตย์ ส่งเสริมคำจริง มั่นคง ควรเชื่อถือได้ ไม่กล่าวให้
คลาดจากความจริงแก่โลกตลอดชีวิต ในวันนี้ แม้เราก็ละมุสาวาท
งดเว้นจากมุสาวาท พูดแต่คำสัตย์ ส่งเสริมคำจริง มั่นคง ควร
เชื่อถือได้ ไม่แกล้งกล่าวให้คลาดจากความจริงแก่โลก ตลอดคืน
และวันนี้ เราชื่อว่าทำตามพระอรหันต์ทั้งหลายแม้ด้วยองค์นี้
และอุโบสถชื่อว่าจักเป็นอันเราเข้าอยู่แล้ว อุโบสถประกอบด้วย
องค์ที่ ๔ นี้.

500
หมวด/เล่ม
พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต เล่ม ๔ – หน้าที่ 501 (เล่ม 37)

ฯลฯ พระอรหันต์ทั้งหลาย ละการดื่มน้ำเมา คือ สุราและเมรัย
อันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท งดเว้นการดื่มน้ำเมา คือ สุราและ
เมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาทตลอดชีวิต ในวันนี้ แม้เราก็
ละการดื่มน้ำเมา คือ สุราและเมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท
งดเว้นจากการดื่มน้ำเมา คือ สุราและเมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่งความ
ประมาทตลอดคืนและวันนี้ เราชื่อว่ากระทำตามพระอรหันต์ทั้งหลาย
แม้ด้วยองค์นี้ และอุโบสถชื่อว่าจักเป็นอันเราเข้าอยู่แล้ว อุโบสถ
ประกอบด้วยองค์ที่ ๕ นี้.
ฯลฯ พระอรหันต์ทั้งหลายเป็นผู้บริโภคอาหารครั้งเดียว
งดบริโภคอาหารในกลางคืน เว้นจากการบริโภคอาหารในเวลา
วิกาลอยู่ตลอดชีวิต ในวันนี้ แม้เราก็บริโภคอาหารครั้งเดียว
งดการบริโภคอาหารในกลางคืน เว้นจากการบริโภคอาหาร
ในเวลาวิกาล ตลอดคืนและวันนี้ เราชื่อว่ากระทำตามพระอรหันต์
ทั้งหลายแม้ด้วยองค์นี้ และอุโบสถชื่อว่าจักเป็นอันเราเข้าอยู่แล้ว
อุโบสถประกอบด้วยองค์ที่ ๖ นี้.
ฯลฯ พระอรหันต์ทั้งหลายงดเว้นจากการฟ้อนรำ ขับร้อง
การประโคม ดูการเล่นอันเป็นข้าศึก และการทัดทรง ประดับ
ตกแต่งด้วยดอกไม้ ของหอมและเครื่องลูบไล้อันเป็นฐานแห่งการ
แต่งตัวตลอดชีวิต ในวันนี้ แม้เราก็งดเว้นจากการฟ้อนรำ ขับร้อง
การประโคม ดูการเล่นอันเป็นข้าศึก และงดเว้นการทัดทรง ประดับ
ตกแต่งด้วยดอกไม้ ของหอม และเครื่องลูบไล้ อันเป็นฐานแห่งการ
แต่งตัว ตลอดคืนและวันนี้ เราชื่อว่ากระทำตามพระอรหันต์

501
หมวด/เล่ม
พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต เล่ม ๔ – หน้าที่ 502 (เล่ม 37)

ทั้งหลายแม้ด้วยองค์นี้ และอุโบสถชื่อว่าจักเป็นอันเราเข้าอยู่แล้ว
อุโบสถประกอบด้วยองค์ที่ ๗ นี้.
ฯลฯ พระอรหันต์ทั้งหลายละการนั่งการนอนบนที่นั่งที่นอน
สูงใหญ่ งดเว้นจากการนั่งการนอนบนที่นั่งที่นอนสูงใหญ่ สำเร็จ
การนั่งการนอนบนที่นั่งที่นอนต่ำ คือ บนเตียงหรือเครื่องลาด
ด้วยหญ้า ตลอดชีวิต ในวันนี้ แม้เราก็ละการนั่งการนอนบนที่นั่ง
ที่นอนสูงใหญ่ งดเว้นจากการนั่งการนอนบนที่นั่งที่นอนสูงใหญ่
สำเร็จการนั่งการนอนบนที่นั่งที่นอนต่ำ คือ บนเตียงหรือเครื่องลาด
ด้วยหญ้าตลอดคืนและวันนี้ เราชื่อว่ากระทำตามพระอรหันต์ทั้งหลาย
ด้วยองค์นี้ และอุโบสถชื่อว่าจักเป็นอันเราเข้าอยู่แล้ว อุโบสถ
ประกอบด้วยองค์ที่ ๘ นี้ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อุโบสถประกอบด้วย
องค์ ๘ ประการ บุคคลเข้าอยู่แล้วอย่าง . จึงมีผลมาก มีอานิสงส์
มาก มีความรุ่งเรื่องมาก มีความแพร่หลายมาก.
จบ สังขิตตสูตรที่ ๑

502
หมวด/เล่ม
พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต เล่ม ๔ – หน้าที่ 503 (เล่ม 37)

๒. วิตถตสูตร
[๑๓๒] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อุโบสถประกอบด้วยองค์ ๘
ประการ บุคคลเข้าอยู่แล้ว มีผลมาก มีอานิสงส์มาก มีความ
รุ่งเรื่องมาก มีความแพร่หลายมาก และอุโบสถประกอบด้วยองค์ ๘
ประการบุคคลเข้าอยู่แล้วอย่างไร จึงมีผลมาก มีอานิสงส์มาก
มีความแพร่หลายมาก ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อริยสาวกในธรรม.
วินัยนี้ ตระหนักชัดดังนี้ว่า พระอรหันต์ทั้งหลายละปาณาติบาต
งดเว้นจากปาณาติบาต วางท่อนไม้ วางศาตรา มีความละอาย
เอื้อเอ็นดู อนุเคราะห์เกื้อกูลต่อสรรพสัตว์อยู่ตลอดชีวิต ในวันนี้
แม้เราก็ละปาณาติบาต งดเว้นจากปาณาติบาต วางท่อนไม้ วาง
ศาตรา มีความละอาย เอื้อเอ็นดู อนุเคราะห์เกื้อกูลต่อสรรพสัตว์
ตลอดคืนและวันนี้ เราชื่อว่ากระทำตามพระอรหันต์ทั้งหลายแม้
ด้วยองค์นี้ และอุโบสถจักชื่อว่าเป็นอันเราเข้าอยู่แล้ว อุโบสถ
ประกอบด้วยองค์ที่ ๑ นี้ ฯลฯ
อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ ย่อมตระหนักชัดดังนี้ว่า พระอรหันต์
ทั้งหลาย ละการนั่งการนอนบนที่นั่งที่นอนอันสูงใหญ่ งดเว้น
จากการนั่งการนอนนั้นที่นั่งที่นอนอันสูงใหญ่ สำเร็จการนั่งการ
นอนบนที่นั่งที่นอนต่ำ คือ บนเตียงหรือเครื่องลาด้วยหญ้า ตลอด
ชีวิต ในวันนี้ แม้เราก็ละการนั่งการนอนบนที่นั่งที่นอนอันสูงใหญ่
สำเร็จการนั่งการนอนบนที่นั่งที่นอนต่ำ คือ บนเตียงหรือเครื่องลาด
ด้วยหญ้า ตลอดคืนและวันนี้ เราชื่อว่ากระทำตามพระอรหันต์

503
หมวด/เล่ม
พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต เล่ม ๔ – หน้าที่ 504 (เล่ม 37)

ทั้งหลายแม้ด้วยองค์นี้ และอุโบสถจักชื่อว่าเป็นอันเราเข้าอยู่แล้ว
อุโบสถประกอบด้วยองค์ที่ ๘ นี้ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อุโบสถ
ประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ บุคคลเข้าอยู่อย่างนี้แล จึงมีผลมาก
มีอานิสงส์มาก มีความรุ่งเรื่องมาก มีความแพร่หลายมาก.
อุโบสถประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ บุคคลเข้าอยู่แล้ว
มีผลมาก มีอานิสงส์มาก มีความรุ่งเรื่องมาก มีความแพร่หลายมาก
เพียงไร ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนพระราชาเสวยราชย์
ดำรงอิสรภาพและอธิปไตยในชนบทใหญ่ ๆ ๑๖ รัฐ มีรัตนะ ๗
ประการมากมาย เหล่านี้ คือ อังคะ มคธะ กาสี โกสละ วัชชี
มัลละ เจดีย์ วังสะ กุรุ ปัญจาละ มัจฉะ สุรเสนะ อัสสกะ
อวันตี คันธาระ กัมโพชะ การเสวยราชย์ดำรงอิสรภาพและ
อธิปไตยของพระราชานั้น ย่อมไม่ถึงเสี้ยวที่ ๑๖ แห่งอุโบสถที่
ประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะราชสมบัติ
มนุษย์เป็นเหมือนของตนกำพร้า เมื่อเทียบสุขอันเป็นทิพย์ ดูก่อน
ภิกษุทั้งหลาย ๕๐ ปีมนุษย์ เป็นคืนหนึ่งวันหนึ่งของเทวดาชั้น
จาตุมมหาราช ๓๐ ราตรีโดยราตรีนั้นเป็นเดือนหนึ่ง ๑๒ เดือน
โดยเดือนนั้นเป็นปีหนึ่ง ๕๐๐ ปีทิพย์โดยปีนั้น เป็นประมาณอายุ
ของเทวดาชั้นจาตุมมหาราช ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ข้อที่บุคคล
บางคนในโลกนี้จะเป็นหญิงหรือชายก็ตาม เข้าอยู่อุโบสถอันประกอบ
ด้วยองค์ ๘ ประการแล้ว เมื่อตายไป พึงเข้าถึงความเป็นสหาย
แห่งเทวดาชั้นจาตุมมหาราช นี้เป็นฐานะที่จะมีได้ ดูก่อนภิกษุ

504
หมวด/เล่ม
พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต เล่ม ๔ – หน้าที่ 505 (เล่ม 37)

ทั้งหลาย เราหมายเอาข้อนี้จึงกล่าวว่า ราชสมบัติมนุษย์เป็นเหมือน
ของคนกำพร้า เมื่อเทียบกับสุขอันเป็นทิพย์.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ๑๐๐ ปี มนุษย์เป็นคืนหนึ่งของเทวดา
ชั้นดาวดึงส์ ๓๐ ราตรีโดยราตรีนั้นเป็นเดือนหนึ่ง ๑๒ เดือนโดย
เดือนนั้นเป็นหนึ่ง พันปีทิพย์โดยปีนั้น เป็นประมาณอายุของ
เทวดาชั้นดาวดึงส์ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ข้อที่บุคคลบางคนในโลกนี้
จะเป็นหญิงหรือชายก็ตาม เข้าอยู่อุโบสถอันประกอบด้วยองค์ ๘
ประการแล้ว เมื่อตายไป พึงเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดา
ชั้นดาวดึงส์นี้เป็นฐานะที่จะมีได้ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราหมายเอา
ข้อนี้จึงกล่าวว่า ราชสมบัติมนุษย์เป็นเหมือนของคนกำพร้า เมื่อ
เทียบกับสุขอันเป็นทิพย์.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ๒๐๐ มนุษย์เป็นคืนหนึ่งวันหนึ่ง
ของเทวดาชั้นยามา ๓๐ ราตรีโดยราตรีนั้นเป็นเดือนหนึ่ง ๑๒ เดือน
โดยเดือนนั้นเป็นปีหนึ่ง ๒,๐๐๐ ปีทิพย์โดยปีนั้น เป็นประมาณ
ของอายุเทวดาชั้นยามา ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ข้อที่บุคคลบางคน
ในโลกนี้ จะเป็นหญิงหรือชายก็ตาม เข้าอยู่อุโบสถอันประกอบ
ด้วยองค์ ๘ ประการแล้ว เมื่อตายไป พึงเข้าถึงความเป็นสหาย
แห่งเทวดาชั้นยามานี้เป็นฐานะที่จะมีได้ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เรา
หมายเอาข้อนี้จึงกล่าวว่า ราชสมบัติมนุษย์เป็นเหมือนของคน
กำพร้า เมื่อเทียบกับสุขอันเป็นทิพย์.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ๔๐๐ มนุษย์เป็นคืนหนึ่งวันหนึ่งของ
เทวดาชั้นดุสิต ๓๐ ราตรีโดยราตรีนั้นเป็นเดือนหนึ่ง ๑๒ เดือน

505
หมวด/เล่ม
พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต เล่ม ๔ – หน้าที่ 506 (เล่ม 37)

โดยเดือนนั้นเป็นปีหนึ่ง ๔,๐๐๐ ปีทิพย์โดยปีนั้น เป็นประมาณ
อายุของเทวดาชั้นดุสิต ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ข้อที่บุคคลบางคน
ในโลกนี้จะเป็นหญิงหรือชายก็ตาม เข้าอยู่อุโบสถอันประกอบ
ด้วยองค์ ๘ ประการแล้ว เมื่อตายไป พึงเข้าถึงความเป็นสหาย
แห่งเทวดาชั้นดุสิตนี้เป็นฐานะที่จะมีได้ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เรา
หมายเอาข้อนี้จึงกล่าวว่า ราชสมบัติมนุษย์เป็นเหมือนของคน
กำพร้า เมื่อเทียบกับสุขอันเป็นทิพย์.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ๘๐๐ มนุษย์เป็นคืนหนึ่งวันหนึ่ง
ของเทวดาชั้นนิมมานรดี ๓๐ ราตรีโดยราตรีนั้นเป็นเดือนหนึ่ง
๑๒ เดือนโดยเดือนนั้นเป็นปีหนึ่ง ๘,๐๐๐ ปีทิพย์โดยปีนั้น เป็น
ประมาณอายุของเทวดาชันนิมมานรดี ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ข้อที่
บุคคลบางคนในโลกนี้จะเป็นหญิงหรือชายก็ตาม เข้าอยู่อุโบสถ
อันประกอบด้วยองค์ ๘ ประการแล้ว เมื่อตายไป พึงเข้าถึงความ
เป็นสหายแห่งเทวดาชั้นนิมมานรดี นี้เป็นฐานะที่จะมีได้ ดูก่อน
ภิกษุทั้งหลาย เราหมายเอาข้อนี้จึงกล่าวว่า ราชสมบัติมนุษย์
เป็นเหมือนของคนกำพร้า เมื่อเทียบกับสุขอันเป็นทิพย์.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ๑,๖๐๐ มนุษย์เป็นคืนหนึ่งวันหนึ่ง
ของเทวดาชั้นปรนิมมิตวสวัตตี ๓๐ ราตรีโดยราตรีอันเป็นเดือน
หนึ่ง ๑๒ เดือนโดยเดือนนั้นเป็นปีหนึ่ง ๑๖,๐๐๐ ปีทิพย์โดยปีนั้น
เป็นประมาณอายุของเทวดาชั้นปรนิมมิตวสวัตตี ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
ข้อที่บุคคลบางคนในโลกนี้ จะเป็นหญิงหรือชายก็ตาม เข้าอยู่อุโบสถ
อันประกอบด้วยองค์ ๘ ประการแล้ว เมื่อตายไป พึงเข้าถึงความ

506
หมวด/เล่ม
พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต เล่ม ๔ – หน้าที่ 507 (เล่ม 37)

เป็นสหายแห่งเทวดาชั้นปรนิมมิตวสวัตตี นี้เป็นฐานะที่จะมีได้
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราหมายเอาข้อนี้จึงกล่าวว่า ราชสมบัติ
มนุษย์เป็นเหมือนของคนกำพร้า เมื่อเทียบกับสุขอันเป็นทิพย์.
บุคคลไม่พึงฆ่าสตว์ ไม่พึงถือเอาสิ่งของ
ที่เจ้าของไม่ให้ พึงเว้นจากเมถุนธรรม อันมิใช่
ความประพฤติของพรหม ไม่พึงพูดเท็จ ไม่พึง
ดื่มน้ำเมา ไม่พึงบริโภคอาหารในเวลาวิกาล ใน
ราตรี ไม่พึงทัดทรงดอกไม้และของหอม พึงนอน
บนเตียง บนแผ่นดิน หรือบนเครื่องลาดด้วยหญ้า
บัณฑิตทั้งหลายกล่าวอุโบสถ ๘ ประการนี้แล
ที่พระพุทธเจ้าผู้ถึงที่สุดแห่งทุกข์ทรงประกาศ
แล้ว พระจันทร์เเละพระอาทิตย์ทั้งสองส่องสว่าง
ไสว ย่อมโคจรไปตามวิถีเพียงไร พระจันทร์และ
พระอาทิตย์นั้นก็ขจัดมืดได้เพียงนั้น ลอยอยู่บน
อากาศ ส่องแสงสว่างทั่วทุกทิศในท้องฟ้า ทรัพย์
ใดอันมีอยู่ในระหว่างนี้ คือ แก้วมุกดา แก้วมณี
แก้วไพฑูรย์ อย่างดี หรือทองมีสีสุกใส ที่เรียก
กันว่า หตกะ พระจันทร์ พระอาทิตย์และทรัพย์
นั้น ๆ ก็ยังไม่ได้แม้เสี้ยวที่ ๑๖ แห่งอุโบสถอัน
ประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ เปรียบเหมือนรัศมี
พระจันทร์ ข่มหมู่ดวงดาวทั้งหมด ฉะนั้น เพราะ

507