กาย แม้เขาบริหารอย่างนี้ ก็แตกกายกระจัดกระจายเป็นธรรมดา
เพราะเหตุนั้นกายจึงต้องแตกและเรี่ยรายไป อธิบายว่า มีสภาวะเป็นอย่าง
นั้น. ในพระสูตรนั้น ตรัสถึงความเจริญด้วยบทว่า กาย เกิดแต่มารดาบิดา
การเติบโตด้วย ข้าวสุกและขนมสด และการประคบประหงม. ตรัสถึง
ความเสื่อมด้วยบทว่าไม่เที่ยง แตก และการกระจัดกระจาย อีกอย่างหนึ่ง
ตรัสการเกิดขึ้นด้วยบทก่อน ๆ และการดับไปด้วยบทหลัง ๆ. ทรงแสดง
ความต่างแห่งการเจริญ การเสื่อมและการบังเกิดแห่งกาย ซึ่งประชุมด้วย
มหาภูตรูป ๔ ด้วยประการฉะนี้. คำที่เหลือมีอรรถง่ายทั้งนั้นแล.
จบ อรรถกถาอุททกสูตรที่ ๑๐
รวมพระสูตรที่มีในวรรคนี้ คือ
๑. ปฐมสังคัยหสูตร ๒. ทุติยสังคัยหสูตร ๓. ปริหานสูตร
๔. ปมาทวิหารสูตร ๕. สังวรสูตร ๖. สมาธิสูตร ๗ ปฏิสัลลีนสูตร
๘. ปฐมนตุมหากสูตร ๙. ทุติยนตุมหากสูตร ๑๐. อุททกสูตร
รวมวรรคที่มีในทุติยปัณณาสก์ คือ
๑. อวิชชาวรรค ๒. มิคชาลวรรค ๓. คิลานวรรค ๔. ฉันนวรรค
๕. ฉฬวรรค.
จบ ฉฬวรรคที่ ๕
จบ ทุติยปัณณาสก์