อรรถกถาทักขิณาวิภังคสูตรที่ว่า “ตั้งพระพุทธรูปที่มีพระธาตุ” ขัดกับพุทธพจน์
...ถามว่า ก็เมือพระตถาคตปรินิพพานแล้วอาจเพื่อถวายทานแด่พระสงฆ์ ๒ ฝ่ายมีพระพุทธเจ้าเป็นประมุขหรือ ตอบว่าอาจ อย่างไร ก็พึงตั้งพระพุทธรูปที่มีพระธาตุในฐานะประมุขของสงฆ์ ๒ ฝ่ายในอาสนะ วางตั้ง ถวายวัตถุทั้งหมดมีทักขิโณทกเป็นต้นแด่พระศาสดาก่อนแล้วถวายแด่พระสงฆ์ ๒ ฝ่าย ทานเป็นอันชื่อว่าถวายสงฆ์ ๒ ฝ่าย มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข ด้วยประการฉะนี้...
อรรถกถาทักขิณาวิภังคสูตรที่ว่า "ตั้งพระพุทธรูปที่มีพระธาตุ" ขัดกับพุทธพจน์ ดังนี้
- ขัดกับ ถูปารหบุคคล ขัดกับมหาปรินิพพานสูตร ที่ว่าให้สร้างสถูปบรรจุพระธาตุ ไม่ใช่สร้างรูปปั้นบรรจุพระธาตุ
- ขัดกับเอกปุคคล ที่ว่าไม่มีรูปเปรียบพระพุทธเจ้า การสร้างรูปเปรียบไม่สามารถทำได้
- ขัดกับพรหมชาลสูตร ที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า "...กายของตถาคตมีตัณหาอันจะนำไปสู่ภพขาดแล้ว ยังดำรงอยู่ เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายย่อมเห็นตถาคตชั่วเวลาที่กายของตถาคตดำรงอยู่ ต่อเมื่อกายแตกสิ้นชีวิตแล้ว เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายจะไม่เห็นตถาคต..." นั้นก็หมายความว่า ปัจจุบันนี้ พระพุทธรูป (ตัวพระพุทธเจ้า) ไม่มี เมื่อไม่มี จะมานั่งเป็นประมุขได้อย่างไร เพราะในทักขิณาวิภังคสูตร พูดถึงผู้รับที่มีตัวตน
- ที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า "...ก็ในอนาคตกาล จักมีแต่เหล่าภิกษุโคตรภูมีผ้ากาสาวะพันคอ เป็นคนทุศีล มีธรรมลามก คนทั้งหลายจักถวายทานเฉพาะสงฆ์ได้ในเหล่าภิกษุทุศีลนั้น..." หมายความว่า จักถวายทานเฉพาะสงฆ์ได้ในเหล่าภิกษุทุศีลนั้น มันไม่ใช่มีพระพุทธเจ้ามานั่งเป็นประมุขแต่อย่างใด
- นอกจากนี้ ยังขัดกับหลักการพระนิพพาน เพราะเมื่อนิพพานแล้ว จะไม่มีตัวตนมานั่งรับทานของใครอีก เพราะไม่มีการจุติและอุปบัติ
- ในทักขิณาวิภังคสูตร หมายถึงให้ทานแก่สิ่งที่มีชีวิต ไม่ใช่ให้ทานแก่สิ่งที่ไม่มีชีวิต ปฏิคาหกคือสิ่งที่มีชีวิต ปฏิคาหกไม่ใช่รูปปั้น แต่ถ้าเป็น เจดีย์วัตถุ (ธาตุเจดีย์ และ ปริโภคเจดีย์) ก็ต้องเอาจำพวกดอกไม้ ของหอม ไปบูชา หรือจะไม่มีก็ได้ แค่ทำจิตให้เลื่อมใสก็ได้
พระพุทธเจ้าให้สอบสวนในพระสูตรเทียบเคียงในพระวินัย ถ้าไม่สอดคล้องกับพระธรรมที่ท่านสอน ท่านไม่ให้ถือเอา
...พวกเธอไม่พึงชื่นชม ไม่พึงคัดค้านคำกล่าวของภิกษุนั้น ครั้นไม่ชื่นชม ไม่คัดค้านแล้ว พึงเรียนบทพยัญชนะเหล่านั้นให้ดีแล้ว สอบสวนในพระสูตรเทียบเคียงในพระวินัย ถ้าสอบสวนในพระสูตร เทียบเคียงในพระวินัย ลงในพระสูตรไม่ได้ เทียบเคียงในพระวินัยไม่ได้ พึงถึงความตกลงใจในข้อนี้ว่านี้ไม่ใช่คำสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น และภิกษุนี้จำมาผิดแล้วแน่นอน ดังนั้น พวกเธอพึงทิ้งคำกล่าวนั้นเสีย...