No Favorites

หลักธรรมข้อนี้คนส่วนมากเข้าใจได้ยากมาก (เอกปุคคลวรรคที่ ๑๓)

หนึ่งในหลักธรรมที่คนเข้าใจได้ยากมาก ไม่ต้องถึงขั้นพูดเรื่อง ไม่ยึดมั่นถือมั่นหรอก แค่นี้ก็ยากแล้ว เอกปุคคลวรรคที่ ๑๓ ทั้งพุทธพจน์ทั้งอรรถกถาครบคันเลย แต่คนไม่เข้าใจ เป็นหลักธรรมที่ฟังแล้วควรจะเข้าใจได้ แต่ไม่ใช่ เข้าใจได้ยากมาก พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า ธรรมเป็นของยากถูกแล้ว

พุทธพจน์ พระพุทธเจ้าตรัสว่า "ไม่มีอะไรเปรียบ" จบเลย จบตรงที่คําสั้นๆว่าไม่มีอะไรเปรียบ ครอบคลุมไว้หมด ไม่ว่ารูปใดๆรวมทั้งรูปปั้นรูปวาดด้วยสร้างมาเปรียบไม่ได้ อ่านผ่านไปเฉยๆ เห็นอยู่ว่า ไม่มีอะไรเปรียบ ก็แล้วไป ไม่ใช่นะ ห้ามปั้นด้วย ห้ามทำรูปเปรียบ เพราะเป็นไปไม่ได้ที่พระพุทธเจ้าจะให้ทำสิ่งที่ตรงกันข้ามกับสิ่งที่ตรัส เช่น ถ้าตรัสว่า "ไม่มีอะไรเปรียบ" จะให้ทำสิ่งที่ตรงกันข้ามคือ "ทำอะไรเปรียบ" เป็นไปไม่ได้ และไม่จำเป็นต้องมีคำว่า ห้าม

แต่คำว่า "ห้าม" กับ "ไม่ได้บังคับ" ต่างกัน คนที่ไม่สามารถที่จะรู้อรรถแห่งคำเป็นสุภาษิตของพระพุทธเจ้า เขาก็ทำ ไม่สน พระพุทธเจ้าจะไปบังคับเขาไม่ให้ทำได้ไหม ? ไม่ได้ แต่ถามว่า ห้ามไหม ? ห้าม แล้วละเมิดสิ่งที่พระพุทธเจ้าห้ามบาปไหม ? บาป เพราะพระพุทธเจ้าตรัสห้ามในสิ่งไหน สิ่งนั้นย่อมมีโทษ เป็นบาป อยู่ดีๆ จะไปพูดขึ้นมาว่าไม่มีอะไรเปรียบแล้วก็แล้ว ไม่ใช่ พุทธะไม่พูดมั่ว ประกอบด้วยประโยชน์ ท่านจึงพูด

[๑๔๓] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้เอก เมื่อเกิดขึ้นในโลกย่อมเกิดขึ้นเป็นผู้ไม่เป็นที่สองใคร ไม่มีใครเช่นกับพระองค์ ไม่มีใครเปรียบ ไม่มีใครเปรียบเสมอ ไม่มีส่วนเปรียบ ไม่มีบุคคลเปรียบ ไม่มีใครเสมอ เสมอด้วยพระพุทธเจ้าผู้ไม่มีใครเสมอ เป็นผู้เลิศกว่าคนทั้งหลาย บุคคลผู้เอกเป็นไฉน คือ พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้เอกนี้แล เมื่อเกิดขึ้นในโลกย่อมเกิดขึ้นเป็นผู้ไม่เป็นที่สองใคร ไม่มีใครเช่นกับพระองค์ ไม่มีใครเปรียบไม่มีใครเปรียบเสมอ ไม่มีส่วนเปรียบ ไม่มีบุคคลเปรียบ ไม่มีใครเสมอเสมอด้วยพระพุทธเจ้าผู้ไม่มีใครเสมอ เป็นผู้เลิศกว่าสัตว์สองเท้าทั้งหลาย

อรรถกถา ก็อธิบายชัดเจนว่า ทำรูปเปรียบไม่ได้

บทว่า อปฺปฎิโม (ไม่มีผู้เปรียบ) ความว่า อัตภาพเรียกว่ารูปเปรียบ ชื่อว่าไม่มีผู้เปรียบ เพราะรูปเปรียบอื่นเช่นกับอัตภาพของท่านไม่มี อีกอย่างหนึ่ง มนุษย์ทั้งหลายกระทำรูปเปรียบใดล้วนแล้วด้วยทองและเงินเป็นต้น ในบรรดารูปเปรียบเหล่านั้น ชื่อว่าผู้สามารถกระทำโอกาสแม้สักเท่าปลายขนทรายให้เหมือนอัตภาพของพระตถาคต ย่อมไม่มี เพราะเหตุนั้น จึงชื่อว่าไม่มีผู้เปรียบแม้โดยประการทั้งปวง บทว่า อปฺปฎิสโม (ไม่มีผู้เทียบ) ความว่า ชื่อว่าไม่มีผู้เทียบ เพราะใคร ๆ ชื่อว่าผู้จะเทียบกับอัตภาพของพระตถาคตนั้นไม่มี

ทั้งพุทธพจน์ทั้งอรรถกถาครบคัน ชัดเจน แต่คนไม่เข้าใจ ตรรกะง่ายๆว่า รูปปั้นกินน้ำไม่ได้ ก็งั้น ๆ บางคนถวายก็ได้ ไม่ถวายก็ได้ ว่างั้น (สักจะไม่แน่ใจละ) บางคนพูดแต่เรื่องจิตเรื่องธรรมขั้นสูง แต่พอมาเจอข้อนี้ ไม่เข้าใจ มันยากมากที่จะแบบว่า เข้าใจแล้วไม่ยุ่งเลย ไม่เอารูปปั้นมาเป็นที่พึ่งแทนพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์เลย ไม่ร่ำรี้ร่ำไร อยู่ที่ความเข้าใจของคน บังคับกันไม่ได้