No Favorites

คนที่กล่าวว่าอุทเทสิกเจดีย์คือการสร้างวัตถุ เอาอรรถกถาและฎีกามางัดกับพุทธพจน์

ไปอ่านเห็นอรรถกถาและฎีกาที่อธิบายเรื่องพระปฏิมา และอุทเทสิกเจดีย์ว่า คือ การสร้างรูปปั้น มีเขียนแค่นี้ ไม่มีพุทธพจน์ข้ออื่นมาสนับสนุนเลย แต่ก็ไปลงให้ ส่วนพุทธพจน์ตรัสไว้เต็มไปหมดว่า อุทเทสิกเจดีย์ ไม่ใช่การสร้างรูปปั้น แต่กลับไม่ลงให้ ไม่ถือเอา ก็เป็นการเอาอรรถกถาและฎีกามางัดกับพุทธพจน์

พระศาสดาท่านให้เทียบมาใส่คำของท่าน ท่านไม่ให้ยึดคำของคนอื่นเป็นหลัก แต่ผู้อื่นสามารถอธิบายได้ แต่ไม่ให้ขัดแย้งกับที่ท่านสอน ถ้าขัดก็ให้ละ ไม่ให้ถือเอา ฉะนั้น ใครจะพูดไปไหนก็ตาม จะอ้างอรรถกถาหรือฎีกาไหนก็ตาม แต่ถ้าขัดกับพุทธพจน์ ไม่ได้ทั้งนั้น

...พวกเธอไม่พึงชื่นชม ไม่พึงคัดค้านคำกล่าวของภิกษุนั้น ครั้นไม่ชื่นชม ไม่คัดค้านแล้ว พึงเรียนบทพยัญชนะเหล่านั้นให้ดีแล้ว สอบสวนในพระสูตรเทียบเคียงในพระวินัย ถ้าสอบสวนในพระสูตร เทียบเคียงในพระวินัย ลงในพระสูตรไม่ได้ เทียบเคียงในพระวินัยไม่ได้ พึงถึงความตกลงใจในข้อนี้ว่านี้ไม่ใช่คำสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น และภิกษุนี้จำมาผิดแล้วแน่นอน ดังนั้น พวกเธอพึงทิ้งคำกล่าวนั้นเสีย...

มีเขียนไว้ชัดเจนอยู่ว่า "ไม่มีวัตถุปรากฏ" และเนื้อความก็ชัดเจน มีหลายสูตรสอดคล้องสนับสนุน ยังจะให้เป็นอื่น นี้ก็เป็นตัวอย่างของการบิดเบือนหนีแนวไปจากคำสอนของพระพุทธเจ้า กล่าวตู่พระพุทธเจ้า

พระพุทธเจ้าให้ ฟัง > จำ > พิจารณาเนื้อความ ถ้าเรียนโดยไม่รู้จักเทียบ ไม่รู้จักพิจารณาเนื้อความ พระพุทธเจ้าตรัสว่า เป็นผู้ปฏิบัติผิด

...ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ศรัทธาก็ดี การเข้าไปใกล้ก็ดี การนั่งใกล้ก็ดี การเงี่ยโสตลงก็ดี การฟังธรรมก็ดี การทรงจำธรรมก็ดี การพิจารณาเนื้อความก็ดี ธรรมอันได้ซึ่งความพินิจก็ดี ฉันทะก็ดี อุตสาหะก็ดี การไตร่ตรองก็ดี การตั้งความเพียรก็ดี นั้น ๆ ไม่ได้มีแล้ว เธอทั้งหลายย่อมเป็นผู้ปฏิบัติพลาด ย่อมเป็นผู้ปฏิบัติผิด ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย โมฆบุรุษเหล่านี้ได้หลีกไปจากธรรมวินัยนี้ ไกลเพียงไร...