บ้าแล้วไปกราบชูชก ชูชก คือ อดีตชาติของพระเทวทัต แล้วพระเทวทัตตอนนี้อยู่นรกอเวจี
ชูชกในครั้งนั้นได้เป็นเทวทัตในครั้งนี้ นางอมิตตตาปนา คือนางจิญจมาณวิกา เจตบุตร คือพระฉันนะ อจุตดาบส คือพระสารีบุตรเถระ ท้าวสักกะ คือพระอนุรุทธะ พระนางมัทรี คือมารดาพระราหุล ชาลีกุมาร คือพระราหุล กัณหาชินา คือนางอุบลวรรณา พระชนกชนนี คือตระกูลมหาราช บริษัทที่เหลือ คือพุทธบริษัท พระเวสสันดรราช คือพระโลกนาถ
แล้วพระเทวทัตตอนนี้อยู่นรกอเวจี
...พระเทวทัตเกิดในอเวจีถูกตรึงด้วยหลาวเหล็กจริงอยู่ พระเทวทัตนั้น จักเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า นามว่าอัฏฐิสสระ ในที่สุดแห่งแสนกัลป์แต่กัลป์นี้ พระเทวทัตนั้นจมดินไปแล้วเกิดในอเวจี...
ถือศาสนาพุทธแต่ไปกราบชูชก ก็เป็นการ ไม่พิจารณาไตร่ตรอง เลื่อมใสในสิ่งที่ไม่ควรเลื่อมใส ไม่เลื่อมใสในสิ่งที่ควรเลื่อมใส คือคนชั่ว ทั้งโง่เขลา ไม่เฉียบแหลม ทั้งได้ประสบบาปเป็นอันมากอีกด้วย
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อสัตบุรุษผู้เขลา ไม่เฉียบแหลม ประกอบด้วยธรรม ๒ ประการ ย่อมบริหารคนให้ถูกกำจัด ให้ถูกทำลาย เขาย่อมเป็นไปกับด้วยโทษ ถูกผู้รู้ติเตียน ทั้งได้ประสบบาปเป็นอันมากอีกด้วย ธรรม ๒ ประการเป็นไฉน คือ ไม่พิจารณาไตร่ตรองแล้ว เกิดเลื่อมใสในฐานะอันไม่เป็นที่ตั้งแห่งความเลื่อมใส ๑ ไม่พิจารณาไตร่ตรองแล้ว เกิดไม่เลื่อมใสในฐานะอันเป็นที่ตั้งแห่งความเลื่อมใส ๑ ดูก่อนภิกษุทั้งหลา อสัตบุรุษผู้เขลา ไม่เฉียบแหลม ประกอบด้วยธรรม ๒ ประการนี้แล ย่อมบริหารคนให้ถูกกำจัด ถูกทำลาย เขาย่อมเป็นไปกับด้วยโทษ ถูกผู้รู้ติเตียน ทั้งได้ประสบบาปเป็นอันมากอีกด้วย