No Favorites

พระพุทธเจ้าห้ามปั้นรูปพระองค์ ละเมิดสิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ ย่อมประสบบาปเป็นอันมาก

พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า รูปไหน ๆ ไม่สามารถเปรียบพระองค์ได้

[๑๔๓] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้เอก เมื่อเกิดขึ้นในโลกย่อมเกิดขึ้นเป็นผู้ไม่เป็นที่สองใคร ไม่มีใครเช่นกับพระองค์ ไม่มีใครเปรียบ ไม่มีใครเปรียบเสมอ ไม่มีส่วนเปรียบ ไม่มีบุคคลเปรียบ ไม่มีใครเสมอ เสมอด้วยพระพุทธเจ้าผู้ไม่มีใครเสมอ เป็นผู้เลิศกว่าคนทั้งหลาย บุคคลผู้เอกเป็นไฉน คือ พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้เอกนี้แล เมื่อเกิดขึ้นในโลกย่อมเกิดขึ้นเป็นผู้ไม่เป็นที่สองใคร ไม่มีใครเช่นกับพระองค์ ไม่มีใครเปรียบไม่มีใครเปรียบเสมอ ไม่มีส่วนเปรียบ ไม่มีบุคคลเปรียบ ไม่มีใครเสมอเสมอด้วยพระพุทธเจ้าผู้ไม่มีใครเสมอ เป็นผู้เลิศกว่าสัตว์สองเท้าทั้งหลาย

ปฺปฎิโม (ปฏิมากรรม) คือ การปั้น หรือ การสร้างรูปทรง อปฺปฎิโม คือสิ่งที่ตรงกันข้าม คือ ปั้นไม่ได้

บทว่า อปฺปฎิโม (ไม่มีผู้เปรียบ) ความว่า อัตภาพเรียกว่ารูปเปรียบ ชื่อว่าไม่มีผู้เปรียบ เพราะรูปเปรียบอื่นเช่นกับอัตภาพของท่านไม่มี อีกอย่างหนึ่ง มนุษย์ทั้งหลายกระทำรูปเปรียบใดล้วนแล้วด้วยทองและเงินเป็นต้น ในบรรดารูปเปรียบเหล่านั้น ชื่อว่าผู้สามารถกระทำโอกาสแม้สักเท่าปลายขนทรายให้เหมือนอัตภาพของพระตถาคต ย่อมไม่มี เพราะเหตุนั้น จึงชื่อว่าไม่มีผู้เปรียบแม้โดยประการทั้งปวง บทว่า อปฺปฎิสโม (ไม่มีผู้เทียบ) ความว่า ชื่อว่าไม่มีผู้เทียบ เพราะใคร ๆ ชื่อว่าผู้จะเทียบกับอัตภาพของพระตถาคตนั้นไม่มี

ศิลปินทั้งปวงหรือผู้มีฤทธิ์ทั้งปวงในโลก ไม่สามารถสร้างรูปเปรียบได้

...อัตตภาพของพระมหาบุรุษสะสมไว้ด้วยทานจิต บุญจิต ตระเตรียมไว้ด้วยบารมี ๑๐ ด้วยประการฉะนี้ ศิลปินทั้งปวงหรือผู้มีฤทธิ์ทั้งปวงในโลก ไม่สามารถสร้างรูปเปรียบได้...

เมื่อตรัสห้ามไว้แล้วว่า ปั้นไม่ได้ แต่ก็ยังปั้น ก็เป็นการละเมิดสิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ เมื่อละเมิด ย่อมประสบบาปเป็นอันมาก เพราะละเมิดสิ่งที่ผู้มีพระคุณสูงสุดตรัสไว้

...[๑๓๒] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุพวกที่แสดงธรรมว่า อธรรมฯลฯ ที่แสดงสิ่งที่มิใช่วินัยว่า วินัย ฯลฯ ที่แสดงวินัยว่า มิใช่วินัย ฯลฯ ที่แสดงคำพูดอันตถาคตมิได้ภาษิตไว้ มิได้กล่าวไว้ว่าตถาคตภาษิตไว้กล่าวไว้ ฯลฯ ที่แสดงคำพูดอันตถาคตได้ภาษิตไว้ กล่าวไว้ว่า ตถาคตมิได้ภาษิตไว้ มิได้กล่าวไว้ ฯลฯ ที่แสดงกรรมอันตถาคตมิได้สั่งสมว่าตถาคตสั่งสม ฯลฯ ที่แสดงกรรมอันตถาคตได้สั่งสมไว้ว่า ตถาคตมิได้สั่งสมไว้ ฯลฯ ที่แสดงสิ่งอันตถาคตบัญญัติไว้ว่า ตถาคตมิได้บัญญัติไว้ ภิกษุเหล่านั้นชื่อว่า เป็นผู้ปฏิบัติเพื่อไม่เป็นประโยชน์เกื้อกูล ไม่เป็นความสุขแก่ชนเป็นอันมาก เพื่ออนัตถะเพื่อมิใช่ประโยชน์กื้อกูล ชนเป็นอันมาก เพื่อทุกข์แก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ทั้งย่อมประสบบาปใช่บุญเป็นอันมาก และย่อมยังสัทธรรมนี้ให้อันตรธาน...

เป็นบาปมาก เพราะยังสัทธรรมนี้ให้อันตรธานด้วย ชักชวนผู้อื่นมากมายให้เข้าในธรรมที่กล่าวไว้ชั่วด้วย

...[๑๙๕] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ผู้ที่ชักชวนเข้าในธรรมวินัยที่กล่าวไว้ชั่ว ๑ ผู้ที่ถูกชักชวนแล้วปฏิบัติเพื่อความเป็นอย่างนั้น ๑ คนทั้งหมดนั้น ย่อมประสบกรรมมิใช่บุญเป็นอันมาก ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะธรรมท่านกล่าวไว้ชั่ว...

ชักชวนผู้อื่นให้เข้าในธรรมที่กล่าวไว้ชั่วมากเท่าใด บาปมากเท่านั้น

...ก็บุคคลผู้ชักชวน เมื่อชักชวนคน ๑๐๐ คน ในกรรมมีปาณาติบาตเป็นต้น ย่อมได้อกุศลเท่ากันกับอกุศลของคนผู้ถูกชักชวนแม้ทั้งหมดนั้น เพราะเหตุนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า คนเหล่านั้นทั้งหมดย่อมประสบกรรมมิใช่บุญเป็นอันมาก...

กระทู้เกี่ยวข้อง :  #สอนโลกุตระธรรมแต่เถียงให้ได้กราบวัตถุต่ำๆ (งง)  #พระรัตนตรัยไม่ใช่วัตถุ  #เจดีย์ทรายไม่ใช่รูปปั้น ไม่ใช่พระพุทธรูป อย่าเอามาอธิบายปนใส่กันให้เข้าใจผิด  #รูปปั้นไม่ใช่ พระธาตุเจดีย์ ปริโภคเจดีย์ และ อุทเทสิกเจดีย์ อย่าเอามาอธิบายปนใส่กันให้เข้าใจผิด  #อ้างว่ากราบรูปปั้นแล้วระลึกถึงพระพุทธเจ้า  #ในพุทธานุสติ ไม่มีบอกว่าต้องไปกราบรูปปั้นก่อน  #ท่านลกุณฏกภัททิยะเกิดมาเตี้ยเพราะไปทำประมาณของพระพุทธเจ้าผู้หาประมาณมิได้ แล้วผู้ที่สร้างรูปปั้น วาดรูปให้หัวโล้นไปเลยก็มี แบบนี้จะมีผลกรรมอย่างไร  #คนโง่มาค้านว่า พระพุทธเจ้าไม่ได้ห้ามปั้นรูปพระองค์