No Favorites

เหตุที่พระพุทธเจ้าใช้คำล็อกไว้ว่า ไม่มีวัตถุปรากฏ ตรงที่ อุทเทสิกเจดีย์

— ธาตุเจดีย์ : ที่ตรัสว่า "ธาตุเจดีย์นั้น จะมีได้ในกาลที่พระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว" ก็เพราะอนุปาทิเสสนิพพาน (ดับขันธ์) มีหลังสอุปาทิเสสนิพพาน (ดับกิเลส) เพราะจะเอามาเป็นเจดีย์ สร้างสถูปบรรจุไว้ได้ ก็ต่อเมื่อหลังขันธปรินิพพาน ฉะนั้น จะเอารูปปั้นมาใส่ในหมวดพระธาตุไม่ได้ เพราะรูปปั้นไม่ใช่พระธาตุ

— ปริโภคเจดีย์ : คือ วัตถุหรือสถานที่ที่ควรเคารพบูชา ที่พระพุทธเจ้าได้ใช้สอย เช่น ต้นมหาโพธิ์ที่ตรัสรู้ บาตร จีวร สังเวชนียสถาน เป็นต้น ปริโภคเจดีย์มีได้เมื่อพระพุทธเจ้ายังพระชนม์อยู่และหลังปรินิพพานไปแล้ว ดังที่ตรัสไว้ว่า "ถึงพระพุทธเจ้าจะยังทรงพระชนม์อยู่ก็ตาม ปรินิพพานแล้วก็ตาม เป็นเจดีย์ได้เหมือนกัน" แต่หลังปรินิพพานไปแล้ว จะไม่มีปริโภคเจดีย์อันใหม่เกิดขึ้นเพิ่มอีก เพราะพระพุทธเจ้าไม่ได้ใช้สอย สอดคล้องกับพรหมชาลสูตรที่ว่า เมื่อกายตถาคตแตกสิ้นชีวิตแล้ว เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายจะไม่เห็นตถาคต ฉะนั้น จะเอารูปปั้นมาใส่ในหมวดปริโภคเจดีย์ก็ไม่ได้อีก เช่น บางคนไปเทียบต้นโพธิ์มาใส่รูปปั้น ไม่ถูก เพราะรูปปั้นมีหลังพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว

— อุทเทสิกเจดีย์ : พระพุทธเจ้าตรัส ธาตุเจดีย์ และ ปริโภคเจดีย์ก่อน (ที่เป็นเจดีย์วัตถุ) จากนั้นจึงตรัสอุทเทสิกเจดีย์ แล้วใช้คำล็อกไว้ว่า ไม่มีวัตถุปรากฏ ก็เพื่อจำแนกให้รู้ว่า อุทเทสิกเจดีย์ ไม่ใช่วัตถุ เพราะอันทีเป็นวัตถุได้พูดไปแล้ว คือ มีอยู่ 2 อย่าง ถ้าเจดีย์ทั้ง 3 อย่างนี้เป็นวัตถุหมดเลย พระองค์จะไม่ใช้คำล็อกไว้ว่า ไม่มีวัตถุปรากฏ ตรงที่ อุทเทสิกเจดีย์ จึงเป็นไปไม่ได้ที่อุทเทสิกเจดีย์จะหมายถึงการสร้างวัตถุรูปปั้น นอกจากนี้ ยังมีหลักฐานอีกหลายข้อที่ยืนยันความเป็นไปไม่ได้นี้ ดูเพิ่ม กระทู้เกี่ยวกับประเด็นอุทเทสิกเจดีย์ไม่ใช่การสร้างรูปปั้น

...พระอานนทเถระรับว่า ดีละ แล้วทูลถามพระตถาคตว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เจดีย์มีกี่อย่าง

พระศาสดาตรัสตอบว่า มีสามอย่างอานนท์พระอานนทเถระทูลถามว่า สามอย่างอะไรบ้างพระเจ้าข้า พระศาสดาตรัสว่าธาตุเจดีย์ ๑ ปริโภคเจดีย์ ๑ อุทเทสิกเจดีย์ ๑ พระอานนทเถระทูลว่าข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เมื่อพระองค์เสด็จจาริกไป ข้าพระองค์อาจกระทำเจดีย์
ได้หรือ

พระศาสดาตรัสว่า อานนท์ สำหรับธาตุเจดีย์ไม่อาจทำได้ เพราะธาตุเจดีย์นั้น จะมีได้ในกาลที่พระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว สำหรับอุทเทสิกเจดีย์ก็ไม่มีวัตถุปรากฏ เป็นเพียงเนื่องด้วยตถาคตเท่านั้น ต้นมหาโพธิ์ที่พระพุทธเจ้า บาลีเป็น กาลิงคโพธิชาดก* อาศัยเป็นที่ตรัสรู้ ถึงพระพุทธเจ้าจะยังทรงพระชนม์อยู่ก็ตาม ปรินิพพานแล้วก็ตาม เป็นเจดีย์ได้เหมือนกัน

พระอานนท์ทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญเมื่อพระองค์เสด็จหลีกไป พระมหาวิหารเชตวันหมดที่พึ่งอาศัย มนุษย์ทั้งหลายไม่ได้สถานที่เป็นที่บูชา ข้าพระองค์จักนำพืชจากต้นมหาโพธิมาปลูกที่ประตูพระเชตวัน พระเจ้าข้า

พระศาสดาตรัสว่า ดีแล้วอานนท์ เธอจงปลูกเถิดเมื่อเป็นเช่นนั้น ในพระเชตวันก็จักเป็นดังตถาคตอยู่เป็นนิตย์....

ฉะนั้น รูปปั้นจึงไม่อยู่ในหมวดไหนเลยใน 3 อย่างนี้ รูปปั้นจึงไม่ใช่เจดีย์

กระทู้เกี่ยวข้อง :  #อุทเทสิกเจดีย์คือพระธรรมที่ยกขึ้นแสดง ไม่ใช่วัตถุใดๆ (โดยอาจารย์เกษม ดวงแพงมาต)  #อุทเทสิกเจดีย์คือการยกเอาพระธรรมที่พระพุธเจ้าครัสไว้ขึ้นแสดง อันเดียวกันกับธรรมเจดีย์  #อุทเทสิกเจดีย์ไม่ใช่การสร้างรูปปั้น  #ความหมายของอุทเทสิกเจดีย์ที่ถูกต้อง  #ตัวพระพุทธเจ้าเองท่านยังไม่ให้ยึดเลย เป็นไปไม่ได้ที่อุทเทสิกเจดีย์จะหมายถึงการสร้างรูปปั้น  #พระพุทธเจ้าไม่ได้หัวแหลม แต่ก็ไปปั้นให้หัวแหลมถือว่ากล่าวตู่พระองค์ไหม ?  #เหตุที่พระพุทธเจ้าใช้คำล็อกไว้ว่า ไม่มีวัตถุปรากฏ ตรงที่ อุทเทสิกเจดีย์