อาจนำเอานักบวชเปลือยชื่อ ปาฏิกบุตร มาสู่บริษัทได้. ครั้งนั้นศิษย์
ช่างกลึงบาตรไม้ชื่อว่า ชาลิยะ จึงเข้าไปหานักบวชเปลือยชื่อ ปาฏิก-
บุตร ที่อารามของปริพาชกชื่อ ติณฑุกขานุ แล้วจึงกล่าวว่า ท่าน
ปาฏิกบุตร ท่านจงกลับไป การกลับไปของท่านเป็นการดี พวก
เจ้าลิจฉวีผู้มีชื่อเสียง และพราหมณ์มหาศาล คฤหบดีผู้มั่งคั่ง เหล่า
เดียรถีย์ต่าง ๆ และสมณพราหมณ์ผู้มีชื่อเสียงได้พากันออกมาแล้ว
แม้พระสมณโคดมก็ประทับนั่งพักผ่อนกลางวันที่อารามของท่าน อนึ่ง
ท่านได้กล่าววาจาในบริษัท ที่เมืองเวสาลีว่า แม้พระสมณโคดมก็เป็น
ญาณวาทะ แม้ว่าเราจะเป็นญาณวาทะ อนึ่ง ระหว่างผู้เป็นญาณวาทะ
ทั้งสองฝ่าย ควรแสดงอิทธิปาฏิหาริย์ที่ยิ่งยวดกว่าธรรมของมนุษย์
พระสมณโคดมพึงเสด็จมากึ่งหนทาง แม้เราก็พึงไปกึ่งหนทาง ในที่
พบกันนั้น แม้เราทั้งสอง พึงกระทำอิทธิปาฏิหาริย์ที่ยิ่งยวดกว่าธรรม
ของมนุษย์ ถ้าพระสมณโคดมทรงทำอิทธิปาฏิหาริย์ที่ยิ่งยวดกว่าธรรม
ของมนุษย์ ๑ อย่าง เราจะทำ ๒ อย่าง ถ้าพระสมณโคดมจะทรงทำ ๒
อย่าง เราจะทำ ๔ อย่าง ถ้าพระสมณโคดมจะทรงทำ ๔ อย่าง เราจะ
ทำ ๘ อย่าง พระสมณโคดมจักทรงกระทำเท่าใด ๆ เราจักทำให้มาก
กว่านั้นเป็นทวีคูณๆ ดังนี้ ท่านปาฏิบุตร ท่านจงออกไปกึ่งหนทาง
พระสมณโคดมเสด็จมาก่อนคนทั้งปวงทีเดียว ประทับนั่งพักผ่อน
กลางวันที่อารามของท่าน อนึ่ง พระสมณโคดมได้ตรัสวาจาในบริษัท
ว่า นักบวชเปลือยชื่อ ปาฏิกบุตร เมื่อไม่ละวาจา จิต และสละคืนทิฏฐิ
เช่นนั้น ก็ไม่สามารถที่จะมาพบเห็นเราได้ แม้ถ้าเขาพึงคิดเห็นอย่าง
นี้ว่า เราไม่ละวาจา จิต และสละคืนทิฏฐิเช่นนั้น ก็พึงไปพบเห็น
พระสมณโคดมได้ ดังนี้ แม้ศีรษะของเขาจะพึงแตกออก แม้ถ้า
พวกเจ้าลิจฉวีจะพึงคิดเห็นอย่างนี้ว่า พวกเราจักเอาเชือกมัดนักบวช