No Favorites




หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๑ ภาค ๑ – หน้าที่ 791 (เล่ม 1)

โวหารของชาวอริยกะ หรือโวหารของชาวมิลักขะก็ดี เมื่อเธอกล่าวเนื้อความ
นั้นอย่างนี้แล้ว ถ้าผู้ที่ตนบอกเข้าใจ, สิกขาก็ย่อมเป็นอันบอกลา
ใน ๗ บท มีว่า อุปาสโก เป็นต้นแม้ที่เหลือ ก็นัยนั่น. ก็ ๘ บท
เหล่านี้ และ ๑๔ บทเบื้องต้น จึงรวมเป็น ๒๒ บท ฉะนี้แล. ถัดจาก ๘ บท
นั้นไป ท่านกล่าวประมวล ๑๔ บทเบื้องต้นนั่นแลเข้าด้วย ๔ บทเหล่านั้น คือ
อลมฺเม, กินฺนุเม, ม มมตฺโถ, สุมุตฺตาหํ, จึงเป็น ๕๖ บท.
พระบรรดาบทเหล่านั้น บทว่า อลํ แปลว่า ช่างเถิด, อธิบายว่า
พอละ.
บทว่า กินฺนุเม ความว่า กิจอะไรของข้าพเจ้า ? คือกิจอะไรที่
ข้าพเจ้าควรทำ? อธิบายว่า กิจอะไร ที่ข้าพเจ้าจะพึงทำให้สำเร็จ?
บทว่า น มมตฺโถ ความว่า ข้าพเจ้าไม่มีความต้องการ.
บทว่า สุมุตฺตาหํ ตัดเป็น สุมุตฺโต อหํ แปลว่า ข้าพเจ้าพ้น
ดีแล้ว (จากพระพุทธเจ้า).
คำที่เหลือใน ๕๖ บทนี้ มีนัยดังกล่าวมาแล้วทีเดียว. ก็ ๕๖ บท
เหล่านี้ และ ๒๒ บทข้างต้น จึงรวมเป็น ๗๘ บท ท่านกล่าวไว้โดยสรุป
เท่านั้น ด้วยประการอย่างนี้. ก็เพราะการบอกลาสิกขาย่อมมีได้แม้ด้วยคำเป็น
ไวพจน์แห่งบทอันเป็นเขตเหล่านั้น เพราะฉะนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า จึงตรัส
คำว่า ยานิ วาปนญฺญนิปิ เป็นต้น
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ยานิ วาปนญฺญานิปิ ความว่ายกเว้น
บทซึ่งมาในบาลีว่า พุทฺธํ เป็นต้นเสียแล้ว คำไวพจน์เหล่าอื่นใดเล่า ยังมี
อยู่อีก.

791
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๑ ภาค ๑ – หน้าที่ 792 (เล่ม 1)

บทว่า พุทฺธเววจนานิ วา ได้แก่ พระนามโดยปริยายแห่งพระ-
พุทธเจ้า ฯลฯ หรือนามโดยปริยายแห่งผู้มิใช่เชื้อสายพระศากยบุตร.
บรรดาพระนามที่เป็นไวพจน์แห่งพระพุทธเจ้าเป็นต้นเหล่านั้น พระ-
นามตั้งพันมาแล้วในวรรณปัฏฐาน๑ พระนามร้อยหนึ่งมาแล้วในอุบาลีคาถา๒
และพระนามอย่างอื่นที่ได้อยู่โดยพระคุณ พึงทราบว่า เป็นไวพจน์แห่งพระ-
พุทธเจ้า. ชื่อแห่งพระธรรมแม้ทั้งหมด พึงทราบว่า เป็นไวพจน์แห่งพระธรรม.
ในไวพจน์แห่งพระสงฆ์เป็นต้นทั้งหมด ก็นัยนั่น.
[การบอกลาสิกขาระบุพระนามที่เป็นไวพจน์ของพระพุทธเจ้า]
ก็ในพระนามที่เป็นไวพจน์แห่งพระพุทธเจ้าเป็นต้นนี้ มีโยชนาดังต่อ
ไปนี้:-
การบอกลาด้วยคำว่า พุทฺธํ ปจฺจกฺขามิ ไม่ใช่เป็นการบอกลาด้วย
ไวพจน์ตามที่กล่าวเลย. การบอกลาเป็นต้นอย่างนี้ คือ:-
สมฺมาสมฺพุทฺธํ ปจฺจกฺขามิ ข้าพเจ้าบอกคืนพระพุทธเจ้า
ผู้ตรัสรู้ชอบด้วยพระองค์เอง.
อนนฺตพุทฺธึ " ข้าพเจ้าบอกคืนพระพุทธเจ้า ผู้มี
ความตรัสรู้ไม่มีที่สุด.
อโนมพุทฺธึ " ข้าพเจ้าบอกคืนพระพุทธเจ้าผู้มี
ตรัสรู้ไม่ต่ำทราม.
โพธึปฺปญฺญาณํ " ข้าพเจ้าบอกคืนพระพุทธเจ้าผู้มี
ความตรัสรู้เป็นเครื่องปรากฏ
๑. วรรณปัฏฐาน เป็นคัมภีร์แสดงพุทธคุณฝ่ายมหาสังฆิก พวกมหายาน. ๒. อุบาลีวาทสูตร
ม.ม. ๑๓/๑๗-๘.

792
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๑ ภาค ๑ – หน้าที่ 793 (เล่ม 1)

ธีรํ ปจฺจกฺขามิ ข้าพเจ้าบอกคืนพระพุทธเจ้าผู้มี
ปัญญาเป็นเครื่องทรงจำ.
วิคตโมหํ " ข้าพเจ้าบอกคืนพระพุทธเจ้า ผู้
ปราศจากโมหะ.
ปภินฺนขีลํ " ข้าพาเจ้าบอกคืนพระพุทธเจ้า ผู้
ทรงทำลายตะปูใจ.
วิชิตวิชยํ " ข้าพเจ้าบอกคืนพระพุทธเจ้า ผู้
ทรงชำนะวิเศษ.
จัดเป็นการบอกลาสิกขาด้วยคำไวพจน์แห่งพระพุทธเจ้า.
[วิธีลาสิกขาระบุคำไวพจน์พระธรรม]
การบอกลาด้วยคำว่า ธมฺมํ ปจฺจกฺขามิ ไม่ใช่เป็นการบอกลาด้วย
ไวพจน์ตามที่กล่าวเลย.
ชื่อแม้แห่งพระธรรมขันธ์ ๆ หนึ่ง ในบรรดาแปดหมื่นสี่พันพระ-
ธรรมขันธ์ (เหล่านี้) คือ:-
สฺวากฺขาตํ ธมฺมํ ปจฺจกฺขามิ ข้าพเจ้าบอกคืนพระธรรมที่พระ-
ผู้มีพระภาคตรัสดีแล้ว.
สนฺทิฎฐิกํ ธมฺมํ " ข้าพเจ้าบอกคืนพระธรรมอันผู้
ได้บรรลุพึงเห็นเอง.
อกาลิกํ ธมฺมํ " ข้าพเจ้าบอกคืนพระธรรมอันไม่
ประกอบด้วยกาล.

793
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๑ ภาค ๑ – หน้าที่ 794 (เล่ม 1)

เอหิปสฺสิกํ ธมฺมํ ปจฺจกฺขามิ ข้าพเจ้าบอกคืนพระธรรมที่ควร
เรียกให้มาดู.
โอปนยิกํ ธมฺมํ " ข้าพเจ้าบอกคืนพระธรรมอัน
ควรน้อมเข้ามาใส่ใจ.
ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺพํ วิญฺญูหิ ข้าพเจ้าบอกคืนพระธรรมอัน
ธมฺมํ ปจฺจกฺขามิ วิญญูชนพึงรู้เฉพาะตน.
อสงฺขตํ ธมฺมํ " ข้าพเจ้าบอกคืนพระธรรมอัน
ปัจจัยมิได้ปรุงแต่ง.
วิราคํ ธมฺมํ " ข้าพเจ้าบอกคืนพระธรรมอัน
ปราศจากราคะ.
นิโรธํ ธมฺมํ " ข้าพเจ้าบอกคืนพระธรรมอันดับ
สนิท.
อมตํ ธมฺมํ ข้าพเจ้าบอกคืนพระธรรมอัน
เป็นอมตะ.
ทีฆนิกายํ " ข้าพเจ้าบอกคืนทีฆนิกาย.
พฺรหฺมชาลํ " ข้าพเจ้าบอกคืนพรหมชาลสูตร
มชฺฌิมนิกายํ " ข้าพเจ้าบอกคืนมัชฌิมนิกาย.
มูลปริยายํ " ข้าพเจ้าบอกคืนมูลปริยายสูตร.
สํยุตฺตนิกายํ " ข้าพเจ้าบอกคืนสังยุตนิกาย.
องฺคุตฺตรนิกายํ " ข้าพเจ้าบอกคืนอังคุตตรนิกาย.
ชาตกนิกายํ " ข้าพเจ้าบอกคืนชาดกนิกาย.

794
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๑ ภาค ๑ – หน้าที่ 795 (เล่ม 1)

อภิธมฺมํ ปจฺจกฺขามิ ข้าพเจ้าบอกคืนพระอภิธรรม
กุสลํ ธมฺมํ " ข้าพเจ้าบอกคืนกุศลธรรม
อกุสลํ ธมฺมํ " ข้าพเจ้าบอกคืนอกุศลธรรม
อพฺยากตํ ธมฺมํ " ข้าพเจ้าบอกคืนอัพยากตธรรม
สติปฏฐานํ " ข้าพเจ้าบอกคืนสติปัฏฐาน
สมฺมปฺปธานํ " ข้าพเจ้าบอกคืนสัมมัปธาน
อิทฺธิปาทํ " ข้าพเจ้าบอกคืนอิทธิบาท
อินฺทฺริยํ " ข้าพเจ้าบอกคืนอินทรีย์
พลํ " ข้าพเจ้าบอกคืนพละ
โพชฺฌงฺคํ " ข้าพเจ้าบอกคืนโพชฌงค์
มคฺคํ " ข้าพเจ้าบอกคืนมรรค
ผลํ " ข้าพเจ้าบอกคืนผล
นิพฺพานํ " ข้าพเจ้าบอกคืนพระนิพพาน
จัดเป็นไวพจน์แห่งพระธรรมทีเดียว.
การบอกลาสิกขา ย่อมมีได้ด้วยคำไวพจน์แห่งพระธรรมดังพรรณนา
มาฉะนี้.
[วิธีลาสิกขาระบุคำไวพจน์พระสงฆ์]
การบอกลาด้วยคำว่า สงฺฆํ ปจฺจกฺขามิ ไม่ใช่การบอกลาด้วย
คำไวพจน์. การบอกลาสิกขาย่อมมีได้ด้วยคำไวพจน์แห่งพระสงฆ์อย่างนี้คือ:-
สุปฏิปนฺนํ สงฺฆํ ปจฺจกฺขามิ ข้าพเจ้าบอกคืนพระสงฆ์ผู้ปฏิ-
บัติดี
อุชุปฏิปนฺนํ " " ข้าพเจ้าบอกคืนพระสงฆ์ผู้ปฏิ
บัติตรง

795
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๑ ภาค ๑ – หน้าที่ 796 (เล่ม 1)

ญายปฏิปนฺนํ สงฺฆํ ปจฺจกฺขามิ ข้าพเจ้าบอกคืนพระสงฆ์ผู้ปฏิ-
บัติเป็นธรรม
สามีจิปฏิปนฺนํ " " ข้าพเจ้าบอกค้นพระสงฆ์ผู้ปฏิ-
บัติสมควร
จตุปฺปริสยุคํ " " ข้าพเจ้าบอกคืนพระสงฆ์คู่บุรุษ
สี่
อฏฺฐปุริสปุคฺคลํ " " ข้าพเจ้าบอกคืนพระสงฆ์คือ
บุรุษบุคคลแปด
อาหุเนยฺยํ " " ข้าพเจ้าบอกคืนพระสงฆ์ผู้ควร
คำนับ
ปาหุเนยฺยํ " " ข้าพเจ้าบอกคืนพระสงฆ์ผู้ควร
ของต้อนรับ
ทกฺขิเณยฺยํ " " ข้าพเจ้าบอกคืนพระสงฆ์ผู้ควร
ของทำบุญ
อญฺชลิกรณียํ " " ข้าพเจ้าบอกคืนพระสงฆ์ผู้ควร
ทำอัญชลี
อนุตฺตรํ ปุญฺญฺเขตฺตํ สงฺฆํ ข้าพเจ้าบอกคืนพระสงฆ์ผู้เป็น
ปจฺจกฺขามิ ข้าพเจ้าบอกคืนพระสงฆ์ผู้เป็น
อื่นยิ่งกว่า
[อรรถาธิบายวิธีลาสิกขาทั่วไป]
การบอกลาด้วยคำว่า สิกฺขํ ปจฺจกฺขามิ ไม่ใช่เป็นการบอกลาด้วย
คำไวพจน์. การบอกลาสิกขา ย่อมมีได้ด้วยคำไวพจน์แห่งสิกขาอย่างนี้ คือ:-

796
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๑ ภาค ๑ – หน้าที่ 797 (เล่ม 1)

ภิกฺขุสิกฺขํ ปจฺจกฺขามิ ข้าพเจ้าบอกคืนสิกขาของภิกษุ
ภิกฺขุนีสิกฺข " ข้าพเจ้าบอกคืนสิกขาของภิกษุณี
อธิสีลสิกฺขํ " ข้าพเจ้าบอกคืนอธิสีลสิกขา
อธิจิตฺตสิกฺขํ " ข้าพเจ้าบอกคืนอธิจิตสิกขา
อธิปญฺญาสิกฺขํ " ข้าพเจ้าบอกคืนอธิปัญญาสิกขา.
การบอกลาด้วยคำว่า วินยํ ปจฺจกฺขามิ ไม่ใช่เป็นการบอกลาด้วย
คำไวพจน์. การบอกลาสิกขา ย่อมมีได้ด้วยคำไวพจน์แห่งวินัย มีอาทิอย่างนี้
คือ:-
ภิกฺขุวินยํ ปจฺจกฺขามิ ข้าพเจ้าบอกคืนวินัยของภิกษุ
ภิกฺขุนีวินยํ " ข้าพเจ้าบอกคืนวินัยของนางภิกษุณี
ปฐมํ ปาราชิกกํ " ข้าพเจ้าบอกคืนปฐมปาราชิก
ทุติยํ " " ข้าพเจ้าบอกคืนทุติยปาราชิก
ตติยํ " " ข้าพเจ้าบอกคืนตติยปาราชิก
จตุตฺถํ " " ข้าพเจ้าบอกคืนจตุตถปาราชิก
สงฺฆาทิเสสํ " ข้าพเจ้าบอกคืนสังฆาทิเสส
ถุลฺลจฺจยํ " ข้าพเจ้าบอกคืนถุลลัจจัย
ปาจิตฺติยํ " ข้าพเจ้าบอกคืนปาจิตติยะ
ปาฏิเทสนียํ " ข้าพเจ้าบอกคืนปาฏิเทสนียะ
ทุกฺกฏํ " ข้าพเจ้าบอกคืนทุกกฏ
ทุพฺภาสิตํ " ข้าพเจ้าบอกคืนทุพภาษิต.
การบอกลาด้วยคำว่า ปาฏิโมกฺขํ ปจฺจกฺขามิ ไม่ใช่เป็นการบอกลา
ด้วยคำไวพจน์. การบอกลาสิกขา ย่อมมีได้ด้วยคำไวพจน์แห่งปาฏิโมกข์อย่างนี้
คือ:-

797
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๑ ภาค ๑ – หน้าที่ 798 (เล่ม 1)

ภิกขุปาฏิโมกฺขํ ปจฺจกฺขามิ ข้าพเจ้าบอกคืนภิกขุปาฏิโมกข์
ภิกขุนีปาฏิโมกฺขํ " ข้าพเจ้าบอกคืนภิกขุนีปาฏิโมกข์.
การบอกลาด้วยคำว่า อุทฺเทสํ ปจฺจกฺขามิ ไม่ใช่เป็นการบอกลา
ด้วยคำไวพจน์. การบอกลาสิกขา ย่อมมีได้ด้วยคำไวพจน์แห่งอุเทศ มีอาทิ
อย่างนี้คือ:-
ภิกขุปาฏิโมกฺขุทฺเทสํ ปจฺจกฺขามิ ข้าพเจ้าบอกคืนปาฏิโมก-
ขุทเทส
ปฐมํ ปาฏิโมกฺขุทฺเทสํ " ข้าพเจ้าบอกคืนปาฏิโมก-
ขุทเทสที่ ๑
ทุติยํ " " ข้าพเจ้าบอกคืนปาฏิโมก-
ขุทเทสที่ ๒
ตติยํ " " ข้าพเจ้าบอกคืนปาฏิโมก-
ขุทเทสที่ ๓
จตุตฺถํ " " ข้าพเจ้าบอกคืนปาฏิโมก-
ขุทเทสที่ ๔
ปญฺจมํ " " ข้าพเจ้าบอกคืนปาฏิโมกขุท-
เทสที่ ๕
สมฺมาสมฺพุทฺธุทฺเทสํ " ข้าพเจ้าบอกคืนอุเทศแห่ง
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
อนนฺตพุทฺธิอุทฺเทสํ " ข้าพเจ้าบอกคืนอุเทศแห่ง
พระอนันตพุทธิเจ้า

798
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๑ ภาค ๑ – หน้าที่ 799 (เล่ม 1)

อโนมพุทฺธิอุทฺเทสํ ปจฺจกฺขามิ ข้าพเจ้าบอกคืนอุเทศแห่ง
พระอโนมพุทธิเจ้า
โพธิปฺปญฺญาณุทฺเทสํ " ข้าพเจ้าบอกคืนอุเทศแห่ง
พระโพธิปัญญาณเจ้า
ธีรุทฺเทสํ " ข้าพเจ้าบอกคืนอุเทศแห่ง
พระธีรเจ้า
วิคตโมหุทฺเทสํ " ข้าพเจ้าบอกคืนอุเทศแห่ง
พระวิคตโมหเจ้า
ปภินฺนขีลุทฺเทสํ " ข้าพเจ้าบอกคืนอุเทศแห่ง
พระปภินนขีลเจ้า
วิชิตวิชยุทฺเทสํ " ข้าพเจ้าบอกคืนอุเทศแห่ง
พระวิชิตวิชัยเจ้า.
การบอกลาด้วยคำว่า อหุปชฺฌายํ ปจฺจกฺขามิ ไม่ใช่เป็นการบอกลา
คำไวพจน์. การบอกลาสิกขา ย่อมมีได้ด้วยคำไวพจน์แห่งอุปัชฌายะ
อย่างนี้คือ :-
ภิกษุใด ให้ข้าพเจ้าบรรพชา ภิกษุใด ให้ข้าพเจ้าอุปสมบท ข้าพเจ้า
บรรพชาแล้ว เพราะมีภิกษุใดเป็นประธาน ข้าพเจ้าอุปสมบทแล้ว เพราะมี
ภิกษุใดเป็นประธาน บรรพชาของข้าพเจ้ามีภิกษุใดเป็นประธาน อุปสมบทของ
ข้าพเจ้ามีภิกษุใดเป็นประธาน ข้าพเจ้าบอกคืนภิกษุนั้น.
การบอกลาด้วยคำว่า อาจริยํ ปจฺจกฺขามฺ ไม่ใช่เป็นการบอกลา
ด้วยคำไวพจน์. การบอกลาสิกขา ย่อมมีได้ด้วยคำไวพจน์แห่งอาจารย์อย่างนี้
คือ:-

799
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๑ ภาค ๑ – หน้าที่ 800 (เล่ม 1)

ภิกษุใดให้ข้าพเจ้าบรรพชา ภิกษุใดสวดประกาศข้าพเจ้า ข้าพเจ้า
อาศัยภิกษุใดอยู่ ข้าพเจ้าให้ภิกษุใดแสดงอุเทศให้ ข้าพเจ้าสอบถามอุเทศกะ
ภิกษุใด ภิกษุใดแสดงอุเทศแก่ข้าพเจ้า ภิกษุใดอนุญาตให้ข้าพเจ้าถามอุเทศ
ข้าพเจ้าบอกคืนภิกษุนั้น.
การบอกลาด้วยคำว่า สทฺธิวิหาริกํ ปจฺจกฺขามิ ไม่ใช่เป็นการบอก
ลาด้วยคำไวพจน์. การบอกลาสิกขา ย่อมมีได้ด้วยคำไวพจน์แห่งสัทธิวิหาริก
อย่างนี้ คือ:-
ข้าพเจ้าให้สามเณรใดบรรพชา ข้าพเจ้าให้ภิกษุใดอุปสมบท สามเณร
ใดบรรพชาแล้ว เพราะมีข้าพเจ้าเป็นประธาน ภิกษุใดอุปสมบทแล้ว เพราะ
มีข้าพเจ้าเป็นประธาน บรรพชาของสามเณรใด มีข้าพเจ้าเป็นประธาน อุปสมบท
ของภิกษุใด มีข้าพเจ้าเป็นประธาน ข้าพเจ้าบอกคืนสามเณรและภิกษุนั้น.
การบอกลาด้วยคำว่า อนฺเตวาสิกํ ปจฺจกฺขามิ ไม่ใช่เป็นการ
บอกลาด้วยคำไวพจน์. การบอกลาสิกขา ย่อมมีได้ด้วยคำไวพจน์แห่งอันเตวาสิก
อย่างนี้คือ:-
ข้าพเจ้าให้สามเณรใดบรรพชา ข้าพเจ้าสวดประกาศให้ภิกษุใด ภิกษุ
ใดอาศัยข้าพเจ้าอยู่ ภิกษุใดให้ข้าพเจ้าแสดงอุเทศให้ ภิกษุใดสอบถามอุเทศ
กะข้าพเจ้า ข้าพเจ้าแสดงอุเทศแก่ภิกษุใด ข้าพเจ้าอนุญาตให้ภิกษุใดสอบถาม
อุเทศ ข้าพเจ้าบอกคืนภิกษุนั้น.
การบอกลาด้วยคำว่า สมานูปชฺฌายกํ ปจฺจกฺขามิ ไม่ใช่เป็นการ
บอกลาด้วยคำไวพจน์. การบอกลาสิกขา ย่อมมีได้ด้วยคำไวพจน์แห่งพระผู้ร่วม
อุปัชฌายะอย่างนี้ คือ:-

800