บทว่า สมฺปชฺชลิตาย แปลว่า รุ่งโรจน์ คือปล่อยเปลวไฟขึ้น
โดยรอบด้าน.
บทว่า สญฺโชติภูตาย แปลว่า มีแสงสว่าง. มีคำอธิบายว่า มีความ
เกิดขึ้นแห่งแสงสว่างเป็นอันเดียวกันจากเปลวไฟ ที่ลุกโพลงขึ้นโดยรอบด้าน.
ในคำว่า ตํ กิสฺส เหตุ นี้ หากจะมีผู้ถาม ถามว่า คำที่เรากล่าวว่า
ยังประเสริฐกว่า เป็นเหตุแห่งอะไร คือเพราะเหตุไหน?
แก้ว่า เพราะพึงประสบความตาย อธิบายว่า ผู้ใดพึงสอดองค์กำเนิด
เข้าไปในปากงูเป็นต้นนั้น, ผู้นั้นพึงประสบความตาย.
หลายบทว่า อิโตนิทานญฺจ โข ฯเปฯ อุปปชฺเชยฺย มีความว่า
บุคคลผู้ทำการสอดองค์กำเนิด เข้าในองค์กำเนิดของมาตุคามนั้น พึงเข้าถึงนรก
ซึ่งมีการทำนี้เหตุ.
พระผู้มีพระภาคเจ้า เมื่อทรงแสดงถึงข้อที่กรรมเป็นของมีโทษมาก
อย่างนั้น แล้วจึงทรงตำหนิพระสุทินน์นั้น หาได้ทรงตำหนิมุ่งให้พระสุทินน์
นั้นประสบความทุกข์ไม่.
หลายบทว่า ตตฺถ นาม ตฺวํ ความว่า เมื่อกรรมอันนั้น คือเห็น
ปานนั้น แม้เป็นของมีโทษมากอย่างนี้ เธอ (ยังชื่อว่าได้ต้องอสัทธรรมอันเป็น
เรื่องของชาวบ้าน เป็นมรรยาทของคนชั้นต่ำ).
ศัพท์ว่า ยํ ซึ่งมีอยู่ในคำว่า ยํ ตฺวํ นี้ เป็นนิบาตลงในอรรถแห่ง
ความดูถูก. บทว่า ตฺวํ เป็นไวพจน์แห่ง ตํ ศัพท์. ท่านกล่าวอธิบายไว้
แม้ด้วยบททั้งสองว่า ได้แก่ ความดูถูก คือความดูหมิ่นอย่างใดอย่างหนึ่ง.
บทว่า อสทฺธมฺมํ ได้แก่ธรรมของอสัตบุรุษ คือคนชั้นต่ำ อธิบายว่า
อันคนชั้นต่ำเหล่านั้น พึงเสพ.