No Favorites


หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก จุลวรรค เล่ม ๗ ภาค ๒ – หน้าที่ 109 (เล่ม 9)

ก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตช่องเชือก ชักเชือกสำหรับชัก บานประตูปิดไม่
อยู่...ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตสายยู ไม้หัวลิง ลิ่ม กลอน.
พุทธานุญาตลูกดาล
[๒๐๕] สมัยนั้น ภิกษุทั้งหลายไม่สามารถปิดประตูได้ จึงกราบทูล
เรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาต
ช่องลูกดาล ลูกดาลมี ๓ ชนิด คือ ลูกดาลโลหะ ๑ ลูกดาลไม้ ๑ ลูกดาลเขา ๑
ภิกษุทั้งหลายไขลูกดาลเข้าไป วิหารยังคุ้มไม่ได้ จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่
พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตลิ่มยนต์.
[๒๐๖] สมัยนั้น วิหารมุงด้วยหญ้า ถึงฤดูหนาวก็หนาว ถึงฤดูร้อน
ก็ร้อน ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ ตรัสว่า ดูก่อน-
ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้รื้อลงแล้วฉาบด้วยดินทั้งข้างนอกและข้างใน.
พุทธานุญาตบานหน้าต่าง
[๒๐๗] สมัยนั้น วิหารยังไม่มีหน้าต่าง ไม่เป็นประโยชน์แก่นัยน์ตา
อบกลิ่นเหม็นไว้ ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ ตรัส
ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตหน้าต่าง ๓ ชนิด คือ หน้าต่างมีชุกชี ๑
หน้าต่างมีข่าย ๑ หน้าต่างมีซี่กรง ๑ ที่ซอกหน้าต่าง กระแตและค้างคาวเข้า
ไปได้ ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ ตรัสว่า ดูก่อน
ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตผ้าผืนเล็กสำหรับหน้าต่าง ที่ริมผ้าผืนเล็ก กระแต
และค้างคาวยังเข้าไปได้ . . . ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตบานหน้า
ต่าง มู่ลี่หน้าต่าง.

109
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก จุลวรรค เล่ม ๗ ภาค ๒ – หน้าที่ 110 (เล่ม 9)

พุทธานุญาตเครื่องลาด
[๒๐๘] สมัยนั้น ภิกษุทั้งหลายนอนบนพื้นดิน เนื้อตัวและจีวรแปด
เปื้อนด้วยฝุ่น จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลาย เราอนุญาตให้ลาดด้วยหญ้า หญ้าที่ลาดถูกหนูกัดบ้าง ปลวกกัดบ้าง...
ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตแผ่นกระดานคล้ายตั่ง เมื่อนอนบน
แผ่นกระดานคล้ายตั่งเนื้อตัวไม่สบาย . . . ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เรา
อนุญาตเตียงถักหรือสาน.
พุทธานุญาตเตียงและตั่งชนิดต่าง ๆ
[๒๐๙] สมัยนั้น เตียงมีแม่แคร่สอดเข้าในเท้า ซึ่งทอดทิ้งอยู่ในป่า
ช้าบังเกิดแก่สงฆ์ ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ ตรัส
ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตเตียงมีแคร่สอดเข้าในเท้า ตั่งมีแม่แคร่
สอดเข้าในเท้าบังเกิดแล้ว ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค-
เจ้า ๆ ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตตั่งมีแคร่สอดเข้าในเท้า.
[๒๑๐] สมัยนั้น เตียงมีแม่แคร่ติดกับเท้า ซึ่งทอดทิ้งอยู่ในป่าช้า
บังเกิดแก่สงฆ์ ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้น แด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ ตรัสว่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตเตียงมีแคร่ติดกับเท้า ตั่งมีแม่แคร่ติดกับเท้า
บังเกิดแล้ว ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ ตรัสว่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตตั่งมีแม่แคร่ติดกับเท้า.
พุทธานุญาตเตียงชนิดต่าง ๆ
[๒๑๑] สมัยนั้น เตียงมีเท้าดังก้ามปู ซึ่งทอดทิ้งอยู่ในป่าช้า บังเกิด
แก่สงฆ์ ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ ตรัสว่า ดู

110
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก จุลวรรค เล่ม ๗ ภาค ๒ – หน้าที่ 111 (เล่ม 9)

ก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตเตียงมีเท้าดังก้ามปู ตั่งมีเท้าดังก้ามปูเกิดแล้ว
ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลาย เราอนุญาตตั่งมีเท้าดังก้ามปู.
[๒๑๒] สมัยนั้น เตียงมีเท้าจดแม่แคร่ ซึ่งทอดทิ้งอยู่ในป่าช้า บังเกิด
แก่สงฆ์ ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ ตรัสว่า ดูก่อน
ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตเตียงมีเท้าจดแม่แคร่ ตั่งมีเท้าจดแม่แคร่บังเกิดแล้ว
ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลาย เราอนุญาตตั่งมีเท้าจดแม่แคร่.
พุทธานุญาตม้าชนิดต่าง ๆ
[๒๑๓] สมัยนั้น ม้าสี่เหลี่ยมบังเกิดแก่สงฆ์ ภิกษุทั้งหลายกราบทูล
เรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาต
ม้าสี่เหลี่ยม ม้าสี่เหลี่ยมชนิดสูงบังเกิดแล้ว ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่
พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตม้าสี่เหลี่ยม
ชนิดสูง ม้าสี่เหลี่ยม มีพนักสามด้านบังเกิดแล้ว ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่อง
นั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตม้า
สี่เหลี่ยมมีพนักสามด้าน ม้าสี่เหลี่ยมมีพนักสามด้านชนิดสูงบังเกิดแล้ว ภิกษุ
ทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
เราอนุญาตม้าสี่เหลี่ยมมีพนักสามด้านชนิดสูง ตั่งหวายบังเกิดแล้ว... ตรัสว่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตตั่งหวาย ตั่งหุ้มด้วยผ้าบังเกิดแล้ว ภิกษุ
ทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า

111
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก จุลวรรค เล่ม ๗ ภาค ๒ – หน้าที่ 112 (เล่ม 9)

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตตั่งหุ้มด้วยผ้า ตั่งขาทรายบังเกิดแล้ว ภิกษุ
ทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตตั่งขาทราย ตั่งก้ามมะขามป้อมบังเกิดแล้ว
ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรืองนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัส
ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตตั่งก้ามมะขามป้อม แผ่นกระดานบังเกิด
แล้ว ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระผู้มีพระภาคเจ้า
ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตแผ่นกระดาน เก้าอี้บังเกิดแล้ว ภิกษุ
ทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตเก้าอี้ ตั่งฟางบังเกิดแล้ว ภิกษุทั้งหลายกราบ
ทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลาย เราอนุญาตตั่งฟาง.
ทรงห้ามนอนบนเตียงสูง
[๒๑๔] สมัยนั้น พระฉัพพัคคีย์นอนบนเตียงสูง ชาวบ้านเที่ยวชม
วิหาร เห็นแล้วเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า.. . เหมือนพวกคฤหัสถ์ผู้
บริโภคกาม . .. ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ ตรัสว่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงนอนบนเตียงสูง รูปใดนอน ต้องอาบัติทุกกฏ.
พุทธานุญาตเขียงรองเท้าเตียง
[๒๑๕] สมัยนั้น ภิกษุรูปหนึ่งนอนบนเตียงต่ำ ถูกงูกัด ภิกษุทั้งหลาย
กราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อน
ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตเขียงรองเท้าเตียง.

112
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก จุลวรรค เล่ม ๗ ภาค ๒ – หน้าที่ 113 (เล่ม 9)

[๒๑๖] สมัยนั้น พระฉัพพัคคีย์ใช้เขียงรองเท้าเตียงสูงเจาะติดกับ
เขียงรองเท้าเตียง ชาวบ้านเที่ยวชมวิหาร เห็นแล้วเพ่งโทษ ติเตียน โพน-
ทะนาว่า. . . เหมือนพวกคฤหัสถ์ผู้บริโภคกาม ...ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้น
แด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุ
ไม่พึงใช้เขียงรองเท้าเตียงสูง รูปใดใช้ ต้องอาบัติทุกกฏ.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตเขียงรองเท้าเทียงสูง ๘ นิ้ว เป็น
อย่างยิ่ง.
พุทธานุญาตด้าย
[๒๑๗] สมัยนั้น ด้ายบังเกิดแก่สงฆ์ ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้น
แด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เรา
อนุญาตด้ายไว้ถักเตียง ตัวเตียงกินด้ายมาก . . . ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
เราอนุญาตให้เจาะตัวเตียงแล้วถักเป็นตาหมากรุก ผ้าสามัญผืนน้อย ๆ บังเกิด
แล้ว ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระผู้มีพระภาคเจ้า
ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ทำเป็นผ้ารองพื้น นุ่นบังเกิดแล้ว. . .
ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้สางออกทำเป็นหมอน นุ่นมี
๓ ชนิด คือ นุ่นต้นไม้ ๑ นุ่นเถาวัลย์ ๑ นุ่นหญ้า ๑.
พุทธานุญาตหมอน
[๒๑๘] สมัยนั้น พระฉัพพัคคีย์ใช้หมอนยาวกึ่งกาย ชาวบ้านเที่ยวชม
วิหารพบเห็นแล้ว เพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า...เหมือนพวกคฤหัสถ์ผู้
บริโภคกาม . . . ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระผู้
พระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงใช้หมอนยาวกึ่งกาย ภิกษุ
ใดใช้ ไม่ต้องอาบัติทุกกฏ เราอนุญาตให้ทำหมอนพอดีกับศีรษะ.

113
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก จุลวรรค เล่ม ๗ ภาค ๒ – หน้าที่ 114 (เล่ม 9)

พุทธานุญาตทำฟูก ๕ ชนิด
[๒๑๙] สมัยนั้น ในเมืองราชคฤห์มีมหรสพบนยอดเขา ชาวบ้าน
จัดแจงฟูกสำหรับพวกมหาอำมาตย์ คือ ฟูกขนสัตว์ ฟูกผ้า ฟูกเปลือกไม้
ฟูกหญ้า ฟูกใบไม้ ครั้นมหรสพเลิกแล้ว เขาก็เลิกผ้าหุ้มไป ภิกษุทั้งหลาย
ได้เห็นขนสัตว์บ้าง ท่อนผ้าบ้าง เปลือกไม้บ้าง หญ้าบ้าง ใบไม้บ้าง เป็น
อันมาก ซึ่งเขาทิ้งไว้ในที่เล่นมหรสพ ครั้นแล้วได้กราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มี
พระภาคเจ้า พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตฟูก
๕ ชนิด คือ ฟูกขนสัตว์ ฟูกผ้า ฟูกเปลือกไม้ ฟูกหญ้า ฟูกใบไม้.
[๒๒๐] สมัยนั้น ผ้าอันเป็นบริขารของเสนาสนะ บังเกิดแก่สงฆ์
ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้หุ้มมฟูก.
พุทธานุญาตเตียงหุ้มฟูก
[๒๒๑] สมัยนั้น ภิกษุทั้งหลายปูฟูกเตียงลงบนตั่ง ปูฟูกตั่งลงบนเตียง
ฟูกทั้งหลายขาดทำลาย ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตเตียงหุ้มฟูก ตั่ง-
หุ้มฟูก ภิกษุทั้งหลายปูลงไปไม่ได้ใช้ผ้ารองล่าง ฟูกย้อยลงข้างล่าง . . . ตรัสว่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ใช้ผ้ารองปูฟันแล้วหุ้มฟูก โจรเลิกผ้าหุ้มฟูก
ไป...ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้จดไว้ โจรก็ยังลักไป . . .
ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ทำรอยไว้ ถึงอย่างนั้นก็ยังลักไป
... ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้พิมพ์รอยนิ้วมือไว้.
[๒๒๒] สมัยนั้น ที่อยู่อาศัยของพวกเดียรถีย์ทาสีขาว พื้นเขาแต่ง
ให้เป็นสีดำ ฝาเขาทำบริกรรมให้เป็นสีเหลือง ชาวบ้านเป็นอันมาก พากัน

114
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก จุลวรรค เล่ม ๗ ภาค ๒ – หน้าที่ 115 (เล่ม 9)

ไปดูที่อยู่พวกเดียรถีย์ ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้น แด่พระผู้มีพระภาคเจ้า
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตสีขาว สีดำ ทำ
บริกรรมด้วยสีเหลือง ในวิหาร.
[๒๒๓] สมัยนั้น ฝาหยาบ สีขาวไม่จับ ภิกษุทั้งหลายกราบทูล
เรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
เราอนุญาตให้ใช้ดินปนแกลบ แล้วกวดด้วยเกรียง สีขาวจะได้จับ สีขาวยัง
ไม่ติด ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระผู้มีพระ-
ภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ใช้ดินละเอียด แล้วกวด
ด้วยเกรียงให้สีขาวจับ สีขาวก็ยังไม่จับ ... ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เรา
อนุญาตให้ใช้ยางไม้ แป้งเปียก.
พุทธานุญาตดินปนแกลบ
[๒๒๔] สมัยนั้น ฝาหยาบสีเหลืองไม่จับ ภิกษุทั้งหลายกราบทูล
เรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
เราอนุญาตให้ใช้ดินปนแกลบ แล้วกวดด้วยเกรียงให้มีเหลืองจับ สีเหลือง
ไม่ติด . . . ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ใช้ดินปนรำ แล้วกวด
ด้วยเกรียงให้สีเหลืองจับ สีเหลืองก็ยังไม่ติด ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้น
แด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เรา
อนุญาตให้ใช้แป้งเมล็ดพรรณผักกาด ขี้ผึ้งเหลว ครั้นหนาเกินไป ภิกษุทั้งหลาย
กราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อน
ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้เช็ดออกด้วยท่อนผ้า.
[๒๒๕] สมัยนั้น พื้นดินหยาบไป สีดำไม่จับ . .. ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลาย เราอนุญาตให้ใช้ดินปนแกลบ แล้วกวดด้วยเกรียง สีดำจะไม่จับ

115
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก จุลวรรค เล่ม ๗ ภาค ๒ – หน้าที่ 116 (เล่ม 9)

สีดำก็ยังไม่จับ ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระผู้มี
พระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ใช้ยางไม้ น้ำฝาด.
พุทธานุญาตภาพดอกไม้เป็นต้น
[๒๒๖] สมัยนั้น พระฉัพพัคคีย์ให้ช่างเขียนภาพสตรีบุรุษไว้ในวิหาร
ชาวบ้านเที่ยวชมวิหารเห็นเข้า จึงเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า. .. เหมือนพวก
คฤหัสถ์ผู้บริโภคกาม . . . ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงให้เขียนภาพสตรี
บุรุษ รูปใดให้เขียน ต้องอาบัติทุกกฏ เราอนุญาตภาพดอกไม้ ภาพเครือเถา
ฟันมังกร ดอกจอกห้ากลีบ.
เรื่องวิหารมีพื้นที่ต่ำ
[๒๒๗] สมัยนั้น วิหารมีพื้นต่ำ น้ำท่วมได้ ภิกษุทั้งหลายกราบทูล
เรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
เราอนุญาตให้ถมพื้นที่ให้สูง ดินที่ถมพัง . . . ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
เราอนุญาตก่อกรุ ๓ อย่าง คือ ก่อด้วยอิฐ ๑ ศิลา ๑ ไม้ ๑ ภิกษุทั้งหลายขึ้นลง
ลำบาก . . .ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตบันใด ๓ อย่าง คือ
บันใดอิฐ ศิลา ไม้ ภิกษุทั้งหลายขึ้นลงพลัดตก. . .ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลาย เราอนุญาตราวสำหรับยึด.
เรื่องวิหารมีพื้นโล่งโถง
[๒๒๘] สมัยนั้น วิหารมีพื้นโล่งโถง ภิกษุทั้งหลายละอายที่จะนอน
จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อน
ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตผ้าม่าน ภิกษุทั้งหลายเลิกผ้าม่านมองดูกัน ภิกษุ

116
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก จุลวรรค เล่ม ๗ ภาค ๒ – หน้าที่ 117 (เล่ม 9)

ทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตฝากึ่งหนึ่ง คนมองดูข้างบนจากฝากึ่งหนึ่งได้
ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัส
ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตห้อง ๓ ชนิด คือ ห้องสี่เหลี่ยมจตุรัส ๑
ห้องยาว ๑ ห้องคล้ายตึกโล้น ๑.
เรื่องวิหารเล็ก
[๒๒๙] สมัยนั้น วิหารเล็ก ภิกษุทั้งหลายกั้นห้องไว้ตรงกลาง
อุปจารไม่มี จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระผู้มีพระภาคเจ้า
ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ทำห้องไว้ส่วนข้างหนึ่งในวิหารเล็ก
แต่ในวิหารใหญ่ทำไว้ตรงกลางได้.
[๒๓๐] สมัยนั้น เชิงฝาวิหารเก่า ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่
พระผู้มีพระภาคเจ้า พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาต
กรอบเชิงฝา ฝาวิหารถูกฝนสาด ...ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาต
แผงกันสาด ดินปนเถ้ากับขี้วัว.
[๒๓๑] สมัยนั้น งูตกจากหลังคามุงหญ้าถูกคอภิกษุรูปหนึ่ง เธอกลัว
ร้องโวยวาย ภิกษุทั้งหลายรีบเข้าไปถามเธอว่า ทำไม คุณจึงได้ร้องโวยวาย
เธอจึงแจ้งเรื่องนั้นแก่ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มี
พระภาคเจ้า พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่าดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตเพดาน.
พุทธานุญาตไม้สำหรับแขวน
[๒๓๒] สมัยนั้น ภิกษุทั้งหลายแขวนถุงไว้ที่เท้าเตียงบ้าง ที่เท้าตั่ง
บ้าง หนูและปลวกกัดกิน ภิกษุทั้งหลายจึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระ-

117
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก จุลวรรค เล่ม ๗ ภาค ๒ – หน้าที่ 118 (เล่ม 9)

ภาคเจ้า พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตไม้เดือย
ติดฝา ไม้นาคทนต์.
พุทธานุญาตราวไม้เก็บจีวร
[๒๓๓] สมัยนั้น ภิกษุทั้งหลายเก็บจีวรไว้บนเตียงบ้าง บนตั่งบ้าง
จีวรขาด จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตราวจีวร สายระเดียง ในวิหาร.
[๒๓๔] สมัยนั้น วิหารยังไม่มีระเบียง หาที่พักอาศัยมิได้ ภิกษุ
ทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตระเบียง เฉลียงลับแล หน้ามุขมีหลังคา
ระเบียงโล่งโถง ภิกษุทั้งหลายละอายที่จะนอน...ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
เราอนุญาตกันสาดเลื่อนฝาค้ำ.
พุทธานุญาตหอฉัน
[๒๓๕] สมัยนั้น ภิกษุทั้งหลายฉันอาหารในที่แจ้ง ลำบากด้วยหนาว
บ้าง ร้อนบ้าง จึงกราบทูลเรื่องนั้นแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระผู้มีพระภาคเจ้า
ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตหอฉัน หอฉันมีพื้นที่ต่ำ น้ำท่วมได้
...ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ถมพื้นที่ให้สูง ดินที่ถมพัง...
ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ก่อกรุ ดินที่ถม ๓ ชนิด คือ อิฐ
ศิลา ไม้ ภิกษุทั้งหลายขึ้นลงลำบาก ... ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เรา
อนุญาตบันได ๓ ชนิด คือ บันไดอิฐ ศิลา ไม้ ภิกษุทั้งหลายขึ้นลงพลัดตก
... ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตราวสำหรับยึด ผงหญ้าที่มุงหอฉัน
ตกลงเกลื่อน ... ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้รื้อลงแล้วฉาบ

118