No Favorites




หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก จุลวรรค เล่ม ๖ ภาค ๑ – หน้าที่ 581 (เล่ม 8)

[๖๗๗] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ถ้าภิกษุเหล่านั้นสามารถระงับ
อธิกรณ์นั้น ด้วยอุพพาหิกวิธี นี้เรียกว่า อธิกรณ์ระงับแล้ว ระงับ
ด้วยอะไร ? ด้วยสัมมุขาวินัย ในสัมมุขาวินัยนั้นมีอะไรบ้าง? มีความ
พร้อมหน้าธรรม ความพร้อมหน้าวินัย ความพร้อมหน้าบุคคล....
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ถ้าอธิกรณ์ระงับแล้วอย่างนี้ ผู้ทำรื้อฟื้น
เป็นปาจิตตีย์ที่รื้อฟื้น.
[๖๗๘] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ถ้าเมื่อภิกษุเหล่านั้นวินิจฉัยอธิกรณ์
นั้นอยู่ในบริษัทนั้นพึงมีภิกษุธรรมกถึก เธอจำสูตรไม่ได้เลย จำวิภังค์
แห่งสูตรก็ไม่ได้ เธอไม่ได้สังเกตใจความ ย่อมค้านใจความตามเค้า
พยัญชนะ ภิกษุผู้ฉลาด ผู้สามารถ พึงประกาศให้ภิกษุเหล่านั้นทราบ
ด้วยคณะญัตติ ว่าดังนี้:-
กรรมวาจาคณะญัตติ
ขอท่านทั้งหลายจงฟังข้าพเจ้า ภิกษุมีชื่อนี้รูปนี้
เป็นธรรมกถึก เธอจำสูตรไม่ได้เลย จำวิภังค์แห่งสูตรก็
ไม่ได้ เธอไม่ได้สังเกตใจความ ย่อมค้านใจความตาม
เค้าพยัญชนะ ถ้าความพร้อมพรั่งของท่านทั้งหลายถึงที่
แล้ว พวกเราพึงขับภิกษุมีชื่อนี้ให้ออกไป แล้วที่เหลือ
พึงระงับอธิกรณ์นี้
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ถ้าภิกษุเหล่านั้นขับภิกษุนั้นออกไปแล้ว
สามารถระงับอธิกรณ์นั้นได้ นี้เรียกว่า อธิกรณ์ระงับแล้ว ระงับด้วย

581
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก จุลวรรค เล่ม ๖ ภาค ๑ – หน้าที่ 582 (เล่ม 8)

อะไร ? ด้วยสัมมุขาวินัย ในสัมมุขาวินัยนั้นมีอะไรบ้าง ? มีความพร้อม
หน้าธรรม ความพร้อมหน้าวินัย ความพร้อมหน้าบุคคล....
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย หากอธิกรณ์ระงับแล้วอย่างนี้ ผู้ทำรื้อฟื้น
เป็นปาจิตตีย์ที่รื้อฟื้น.
[๖๗๙] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ถ้าเมื่อภิกษุเหล่านั้นวินิจฉัยอธิกรณ์
นั้นอยู่ ในบริษัทนั้นพึงมีภิกษุธรรมกถึก เธอจำสูตรได้ แต่จำวิภังค์
แห่งสูตรไม่ได้เลย เธอไม่สังเกตใจความ ย่อมค้านใจความตามเค้า
พยัญชนะ ภิกษุผู้ฉลาด ผู้สามารถ พึงประกาศให้ภิกษุเหล่านั้นทราบ
ด้วยคณะญัตติ ว่าดังนี้ :-
กรรมวาจาคณะญัตติ
ขอท่านทั้งหลายจงฟังข้าพเจ้า ภิกษุมีชื่อนี้รูปนี้
เป็นธรรมกถึก เธอจำสูตรได้ แต่จำวิภังค์แห่งสูตรไม่ได้
เลย เธอไม่สังเกตใจความ ย่อมค้านใจความตามเค้า
พยัญชนะ ถ้าความพร้อมพรั่งของท่านทั้งหลายถึงที่แล้ว
พวกเราพึงขับภิกษุชื่อนี้ให้ออกไป แล้วที่เหลือพึงระงับ
อธิกรณ์นี้
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ถ้าภิกษุเหล่านั้นขับภิกษุนั้นออกไปแล้ว
สามารถระงับอธิกรณ์นั้นได้ นี้เรียกว่า อธิกรณ์ระงับแล้ว ระงับด้วยอะไร ?
ด้วยสัมมุขาวินัย ในสัมมุขาวินัยนั้นมีอะไรบ้าง ? มีความพร้อมหน้าธรรม
ความพร้อมหน้าวินัย ความพร้อมหน้าบุคคล.....

582
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก จุลวรรค เล่ม ๖ ภาค ๑ – หน้าที่ 583 (เล่ม 8)

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย หากอธิกรณ์ระงับแล้วอย่างนี้ ผู้ทำรื้อฟื้น
เป็นปาจิตตีย์ที่รื้อฟื้น.
[๖๘๐] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ถ้าภิกษุเหล่านั้น ไม่สามารถระงับ
อธิกรณ์นั้น ด้วยอุพพาหิกวิธี พวกเธอพึงมอบอธิกรณ์นั้นแก่สงฆ์ว่า
ท่านเจ้าข้า พวกข้าพเจ้าไม่สามารถระงับอธิกรณ์นี้ด้วยอุพพาหิกวิธี ขอ
สงฆ์นั่นแหละจงระงับอธิกรณ์นี้
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาต ให้ระงับอธิกรณ์เห็นปานนี้ด้วย
เยภุยยสิกา พึงสมมติภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์คุณ ๕ ให้เป็นผู้ให้จับสลาก
คือ
๑. ไม่ถึงความลำเอียงเพราะความชอบพอ
๒. ไม่ถึงความลำเอียงเพราะความเกลียดชัง
๓. ไม่ถึงความลำเอียงเพราะความงมงาย
๔. ไม่ถึงความลำเอียงเพราะความกลัว และ
๕. พึงรู้จักสลากที่จับแล้วและยังไม่จับ.
ก็แล สงฆ์พึงสมมติอย่างนี้ พึงขอร้องภิกษุก่อน ครั้นแล้วภิกษุ
ผู้ฉลาด ผู้สามารถ พึงประกาศให้สงฆ์ทราบด้วยญัตติทุติยกรรมวาจา
ว่าดังนี้ :-
กรรมวาจาสมมติ
ท่านเจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า ถ้าความพร้อม
พรั่งของสงฆ์ถึงที่แล้ว สงฆ์พึงสมมติภิกษุมีชื่อนี้ ให้เป็น
ผู้ให้จับสลาก นี้เป็นญัตติ

583
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก จุลวรรค เล่ม ๖ ภาค ๑ – หน้าที่ 584 (เล่ม 8)

ท่านเจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า สงฆ์สมมติ
ภิกษุมีชื่อนี้ ให้เป็นผู้จับสลาก การสมมติภิกษุมีชื่อนี้
ให้เป็นผู้ให้จับสลาก ชอบแก่ท่านผู้ใด ท่านผู้นั้นพึงเป็น
ผู้นิ่ง ไม่ชอบแก่ท่านผู้ใด ท่านผู้นั้นพึงพูด
ภิกษุมีชื่อนี้อันสงฆ์สมมติแล้ว ให้เป็นผู้ให้จับ
สลาก ชอบแก่สงฆ์ เหตุนั้นจึงนิ่ง ข้าพเจ้าทรงความ
นี้ไว้ อย่างนี้.
ภิกษุผู้ให้จับสลากนั้น พึงให้ภิกษุทั้งหลายจับสลาก ภิกษุพวก
ธรรมวาทีมากกว่า ย่อมกล่าวฉันใด พึงระงับอธิกรณ์นั้น ฉันนั้น นี้
เรียกว่า อธิกรณ์ระงับแล้ว ระงับด้วยอะไร? ด้วยสัมมุขาวินัย และ
เยภุยยสิกา ในสัมมุขาวินัยนั้นมีอะไรบ้าง? มีความพร้อมหน้าสงฆ์ ความ
พร้อมหน้าธรรม ความพร้อมหน้าวินัย ความพร้อมหน้าบุคคล
ก็ความพร้อมหน้าสงฆ์ ในสัมมุขาวินัยนั้นอย่างไร ? คือ ภิกษุผู้เข้า
กรรมมีจำนวนเท่าไร ? ภิกษุเหล่านั้นมาประชุมกัน นำฉันทะของผู้ควร
ฉันทะมา ผู้อยู่พร้อมหน้ากันไม่คัดค้าน นี้ชื่อว่า ความพร้อมหน้าสงฆ์
ในสัมมุขาวินัยนั้น
ก็ความพร้อมหน้าธรรม ความพร้อมหน้าวินัย ในสัมมุขาวินัย
นั้นอย่างไร ? คือ อธิกรณ์นั้นระงับโดยธรรม โดยวินัย และโดย
สัตถุศาสน์ใด นี้ชื่อว่า ความพร้อมหน้าธรรม ความพร้อมหน้าวินัย
ในสัมมุขาวินัยนั้น

584
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก จุลวรรค เล่ม ๖ ภาค ๑ – หน้าที่ 585 (เล่ม 8)

ก็ความพร้อมหน้าบุคคล ในสัมมุขาวินัยนั้นอย่างไร ? คือโจทก์
และจำเลยทั้งสอง เป็นคู่ต่อสู้ในคดีอยู่พร้อมหน้ากัน นี้ชื่อว่าความพร้อม
หน้าบุคคล ในสัมมุขาวินัยนั้น
ก็ในเยภุยยสิกานั้นมีอะไรบ้าง? มีกิริยา ความกระทำ ความเข้าไป
ความเข้าไปเฉพาะ ความรับรอง ความไม่คัดค้านกรรมในเยภุยยสิกาอัน
ใด นี้มีในเยภุยยสิกานั้น
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย หากอธิกรณ์ระงับอย่างนี้ ผู้ทำรื้อฟื้นเป็น
ปาจิตตีย์ที่รื้อฟื้น ผู้ให้ฉันทะติเตียน เป็นปาจิตตีย์ที่ติเตียน.
วิธีจับสลาก ๓ วิธี
[๖๘๑] โดยสมัยนั้นแล อธิกรณ์เกิดแล้วอย่างนี้ อุบัติแล้ว
อย่างนี้ ในพระนครสาวัตถี ภิกษุเหล่านั้นจึงไม่พอใจด้วยการระงับ
อธิกรณ์ของสงฆ์ ในพระนครสาวัตถี ได้ทราบข่าวว่า ในอาวาสโน้น
มีพระเถระอยู่หลายรูป เป็นผู้คงแก่เรียน ชำนาญในคัมภีร์ ทรงธรรม
ทรงวินัย ทรงมาติกา ฉลาด เฉียบแหลม มีปัญญา เป็นลัชชี มี
ความรังเกียจ ใคร่ต่อสิกขา หากพระเถระเหล่านั้นพึงระงับอธิกรณ์นี้
โดยธรรม โดยวินัย และโดยสัตถุศาสน์ อย่างนี้อธิกรณ์นี้พึงระงับด้วย
ดี จึงไปสู่อาวาสนั้น แล้วเรียนกะพระเถระพวกนั้นว่า ท่านเจ้าข้า
อธิกรณ์นี้เกิดแล้วอย่างนี้ อุบัติแล้วอย่างนี้ ขอโอกาส ขอรับ ขอ
พระเถระทั้งหลายจงระงับอธิกรณ์นี้ โดยธรรม โดยวินัย และโดย
สัตถุศาสน์ ตามวิถีทางที่อธิกรณ์นี้พึงระงับด้วยดี

585
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก จุลวรรค เล่ม ๖ ภาค ๑ – หน้าที่ 586 (เล่ม 8)

จึงพระเถระพวกนั้นช่วยระงับอธิกรณ์นั้นแล้ว เหมือนอย่างที่สงฆ์
ในพระนครสาวัตถีระงับแล้ว ตามวิธีที่ระงับด้วยดีแล้วฉะนั้น ครั้งนั้น
ภิกษุผู้ไม่ยินดี ไม่พอใจด้วยการระงับอธิกรณ์ของสงฆ์ในพระนครสาวัตถี
นั้น ไม่พอใจด้วยการระงับ อธิกรณ์ของพระเถระมากรูป ได้ทราบข่าวว่า
ในอาวาสโน้น มีพระเถระอยู่ ๓ รูป..... มีพระเถระอยู่ ๒ รูป.......
พระเถระอยู่รูปเดียว เป็นผู้คงแก่เรียน ชำนาญในคัมภีร์ ทรงธรรม
ทรงวินัย ทรงมาติกา ฉลาด เฉียบแหลม มีปัญญา เป็นลัชชี มี
ความรังเกียจ ใคร่ต่อสิกขา หากพระเถระนั้นพึงระงับอธิกรณ์นี้โดย
ธรรม โดยวินัย และโดยสัตถุศาสน์ อย่างนี้ อธิกรณ์นี้พึงระงับด้วย
ดี จึงไปสู่อาวาสนั้น แล้วเรียนกะพระเถระนั้นว่า ท่านขอรับ อธิกรณ์
นี้เกิดแล้วอย่างนี้ อุบัติแล้วอย่างนี้ ขอโอกาส ขอรับ ขอพระเถระ
จงระงับอธิกรณ์นี้ โดยธรรม โดยวินัย และโดยสัตถุศาสน์ ตามวิถี
ทางที่อธิกรณ์นี้จะพึงระงับด้วยดี
พระเถระนั้นจึงช่วยระงับอธิกรณ์นั้นแล้ว เหมือนอย่างที่สงฆ์ใน
พระนครสาวัตถีระงับแล้ว เหมือนอย่างที่พระเถระมากรูประงับแล้ว
เหมือนอย่างที่พระเถระ ๓ รูประงับแล้ว และเหมือนอย่างที่พระเถระ ๒ รูป
ระงับแล้ว ตามวิธีที่ระงับด้วยดีแล้ว ฉะนั้น
ครั้งนั้นภิกษุผู้ที่ไม่พอใจด้วยการระงับอธิกรณ์ของสงฆ์ในพระนคร
สาวัตถี ไม่พอใจด้วยการระงับอธิกรณ์ของพระเถระมากรูป ไม่พอใจ
ด้วยการระงับอธิกรณ์ของพระเถระ ๓ รูป ไม่พอใจด้วยการระงับอธิกรณ์

586
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก จุลวรรค เล่ม ๖ ภาค ๑ – หน้าที่ 587 (เล่ม 8)

ของพระเถระ ๒ รูป ไม่พอใจด้วยการระงับอธิกรณ์ของพระเถระรูปเดียว
จึงเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า แล้วกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค
เจ้า ๆ ตรัสว่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อธิกรณ์ที่พิจารณาแล้วนั้นเป็นอันสงบระงับดี
แล้ว ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตวิธีจับสลาก ๓ อยู่ คือ ปก
ปิด ๑ กระซิบบอก ๑ เปิดเผย ๑ ตามความยินยอมของภิกษุพวกนั้น
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็วิธีจับสลากปกปิด เป็นไฉน?
ภิกษุผู้ให้จับสลากนั้น พึงทำสลากให้มีสี และไม่มีสี แล้วเข้า
ไปหาภิกษุทีละรูป ๆ แล้วแนะนำอย่างนี้ว่า นี้สลากของผู้กล่าวอย่างนี้
นี้สลากของผู้กล่าวอย่างนี้ ท่านจงจับสลากที่ชอบใจ เมื่อภิกษุนั้นจับแล้ว
พึงแนะนำว่า ท่านอย่าแสดงแก่ใคร ๆ ถ้ารู้ว่าอธรรมวาทีมากกว่า พึง
บอกว่า สลากจับไม่ดี แล้วให้จับใหม่ ถ้ารู้ว่าธรรมวาทีมากกว่า พึง
ประกาศว่า สลากจับดีแล้ว ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย วิธีจับสลากปกปิด
เป็นอย่างนี้แหละ
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็วิธีจับสลากกระซิบบอก เป็นไฉน?
ภิกษุผู้ให้จับสลากนั้น พึงกระซิบบอกที่ใกล้หูของภิกษุแต่ละรูป ๆ
ว่า นี้สลากของผู้กล่าวอย่างนี้ นี้สลากของผู้กล่าวอย่างนี้ ท่านจงจับ
สลากที่ชอบใจ เมื่อภิกษุนั้นจับแล้ว พึงแนะนำว่า ท่านอย่าบอกแก่
ใคร ๆ ถ้ารู้ว่า อธรรมวาทีมากกว่า พึงบอกว่า สลากจับไม่ดี แล้ว
ให้จับ ใหม่ ถ้ารู้ว่าธรรมวาทีมากกว่า พึงประกาศว่า สลากจับดีแล้ว

587
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก จุลวรรค เล่ม ๖ ภาค ๑ – หน้าที่ 588 (เล่ม 8)

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย วิธีจับสลากกระซิบบอกเป็นอย่างนี้แหละ
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็วิธีจับสลากเปิดเผย เป็นไฉน ?
ถ้ารู้ว่าธรรมวาทีมากกว่า พึงให้จับสลากเปิดเผย อย่างแจ่มแจ้ง
วิธีจับสลากเปิดเผยเป็นอย่างนี้แหละ
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย วิธีจับสลาก ๓ อย่างนี้แล.
อนุวาทาธิกรณ์ระงับด้วยสมถะ ๔ อย่าง
[๖๘๒] อนุวาทาธิกรณ์ย่อมระงับด้วยสมถะอย่างไร?
อนุวาทาธิกรณ์ย่อมระงับด้วยสมถะ ๔ อย่าง คือ สัมมุขาวินัย ๑
สติวินัย ๑ อมูฬหวินัย ๑ ตัสสปาปิยสิกา ๑
[๖๘๓] บางทีอนุวาทาธิกรณ์ ไม่อาศัยสมถะ ๒ อย่าง คือ
อมูฬหวินัย ๑ ตัสสปาปิยสิกา ๑ ระงับด้วยสมถะ ๒ อย่าง คือ สัม
มุขาวินัย ๑ สติวินัย ๑ บางทีพึงตกลงกันได้ สมจริงดังที่ตรัสไว้ว่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุทั้งหลายในธรรมวินัยนี้ โจทภิกษุด้วยศีลวิบัติ
อันไม่มีมูล สงฆ์พึงให้สติวินัยแก่ภิกษุนั้น ผู้ถึงความไพบูลย์แห่งสติ
อยู่แล้ว ก็แล สงฆ์พึงให้สติวินัยอย่างนี้ :-
วิธีให้สติวินัย
ภิกษุนั้นพึงเข้าไปหาสงฆ์ ห่มผ้าอุตราสงค์เฉวียงบ่า ไหว้เท้าภิกษุ
ผู้แก่กว่า นั่งกระโหย่งประคองอัญชลี แล้วกล่าวคำขอ ว่าดังนี้:-

588
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก จุลวรรค เล่ม ๖ ภาค ๑ – หน้าที่ 589 (เล่ม 8)

คำขอสติวินัย
ท่านเจ้าข้า ภิกษุทั้งหลายย่อมโจทข้าพเจ้าด้วยศีล
วิบัติ อันไม่มีมูล ท่านเจ้าข้า ข้าพเจ้านั้นถึงความไพบูลย์
แห่งสติแล้ว ขอสติวินัยกะสงฆ์
พึงขอแม้ครั้งที่สอง พึงขอแม้ครั้งที่สาม.
[๖๘๔] ภิกษุผู้ฉลาด ผู้สามารถ พึงประกาศให้สงฆ์ทราบด้วย
ญัตติจตุตถกรรมวาจา ว่าดังนี้:-
กรรมวาจาให้สติวินัย
ท่านเจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า ภิกษุทั้งหลาย
ย่อมโจทภิกษุมีชื่อนี้ ด้วยศีลวิบัติอันไม่มีมูล เธอถึงความ
ไพบูลย์แห่งสติแล้ว ขอสติวินัยกะสงฆ์ ถ้าความพร้อม
พรั่งของสงฆ์ถึงที่แล้ว สงฆ์พึงให้สติวินัยแก่ภิกษุมีชื่อนี้
ผู้ถึงความไพบูลย์แห่งสติแล้ว นี้เป็นญัตติ
ท่านเจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า ภิกษุทั้งหลาย
ย่อมโจทภิกษุมีชื่อนี้ ด้วยศีลวิบัติอันไม่มีมูล เธอถึงความ
ไพบูลย์แห่งสติแล้ว ขอสติวินัยกะสงฆ์ สงฆ์ให้สติวินัย
แก่ภิกษุมีชื่อนี้ ผู้ถึงความไพบูลย์แห่งสติแล้ว การให้
สติวินัยแก่ภิกษุมีชื่อนี้ ผู้ถึงความไพบูลย์แห่งสติแล้ว
ชอบแก่ท่านผู้ใด ท่านผู้นั้นพึงเป็นผู้นิ่ง ไม่ชอบแก่ท่าน
ผู้ใด ท่านผู้นั้นพึงพูด

589
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก จุลวรรค เล่ม ๖ ภาค ๑ – หน้าที่ 590 (เล่ม 8)

ข้าพเจ้ากล่าวความนี้ แม้ครั้งที่สอง.......
ข้าพเจ้ากล่าวความนี้ แม้ครั้งที่สาม.......
สติวินัยอันสงฆ์ให้แล้วแก่ภิกษุมีชื่อนี้ ผู้ถึงความ
ไพบูลย์แห่งสติแล้ว ชอบแก่สงฆ์ เหตุนั้นจึงนิ่ง ข้าพเจ้า
ทรงความนี้ไว้ อย่างนี้.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย นี้เรียกว่า อธิกรณ์ระงับแล้ว ระงับด้วย
อะไร? ด้วยสัมมุขาวินัยกับสติวินัย ในสัมมุขาวินัยนั้นมีอะไรบ้าง? มี
ความพร้อมหน้าสงฆ์ ความพร้อมหน้าธรรม ความพร้อมหน้าวินัย
ความพร้อมหน้าบุคคล....
ก็ความพร้อมหน้าบุคคลในสัมมุขาวินัยนั้นอย่างไร? คือ โจทก์และ
จำเลยทั้งสองอยู่พร้อมหน้ากัน นี้ชื่อว่า ความพร้อมหน้าบุคคลในสัมมุขา
วินัยนั้น
ในสติวินัยนั้นมีอะไรบ้าง ? มีกิริยา ความกระทำ ความเข้าไป
ความเข้าไปเฉพาะ ความรับรอง ความไม่คัดค้านกรรม คือสติวินัย
อันใด นี้มีในสติวินัยนั้น
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย หากอธิกรณ์ระงับแล้วอย่างนี้ ผู้ทำรื้อฟื้น
เป็นปาจิตตีย์ที่รื้อฟื้น ผู้ให้ฉันทะติเตียน เป็นปาจิตตีย์ที่ติเตียน
[๖๘๕] บางทีอนุวาทาธิกรณ์ไม่อาศัยสมถะ ๒ อย่าง คือ สติ
วินัย ๑ ตัสสปาปิยสิกา ๑ พึงระงับด้วยสมถะ ๒ อย่าง สัมมุขาวินัย ๑
อมูฬหวินัย ๑ บางทีพึงตกลงกันได้ สมจริงดังที่ตรัสไว้ว่า

590