เพราะฉะนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงทราบความอยากของพระราชา
จึงรับสั่งให้ถวายบิณฑบาตหน่อยหนึ่ง ซึ่งเทวดายังมิได้แทรกโอชาลง แก่
พระราชา. ท้าวเธอเสวยแล้วทูลถามว่า โภชนะนำมาจากอุตตกุรุทวีปหรือ
พระเจ้าข้า ร พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า มหาบพิตร ไม่ได้นำมาจากอุตตร-
กุรุทวีป, โดยที่แท้นี่เป็นโภชนะของคฤหบดีบุตร ชาวแคว้นของพระองค์
นั่นเอง ดังนี้แล้ว ทรงบอกสมบัติของโสณะ. พระราชาทรงฟังเนื้อความ
นั้นแล้ว มีพระประสงค์จะทอดพระเนตรโสณะ ได้ทรงกระทำความมาของ
โสณะพร้อมด้วยกุลบุตรแปดหมื่นคน ตามนัยที่กล่าแล้วในจัมมขันธกะ.
กุลบุตรเหล่านั้นฟังพระธรรมเทศนาของพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว เป็นพระ-
โสดาบัน. ฝ่ายโสณะบวชแล้วทั้งอยู่ในพระอรหัต. ฝ่ายพระผู้มีพระภาคเจ้ารับ
สั่งให้ถวายบิณฑบาตแก่พระราชาก็เพื่อประโยชน์นี้แล.
เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงทำภัตกิจเสร็จแล้วอย่างนั้น, ลำดับนั้น
แล หมอชีวกโกมารภัจจ์ ถือคู่ผ้าสิเวยยกะนั้นแล้ว ฯลฯ ได้กราบทูลเนื้อความ
นั้น.
วินิจฉัยในคำว่า อติกฺกนฺตวรา นี้ พึงทราบตามนัยที่กล่าวแล้วใน
มหาขันธกะนั้นและ.
ข้อว่า ภควา ภนฺเต ปํสุกูลิโก ภิกฺขุสงฺโฆ จ มีความว่า จริง
อยู่ ในระหว่างนี้ คือ ตั้งแต่พระผู้มีพระภาคเจ้าถึงความเป็นพระพุทธเจ้า จน
ถึงเรื่องนี้เกิดขึ้น เป็นเวลา ๒๐ ปี, ภิกษุใด ๆ ไม่ยินดีคฤหบดีจีวร, ภิกษุทั้ง
ปวงได้เป็นผู้ถือผ้าบังสุกุลเท่านั้น: ด้วยเหตุนั้น หมอชีวกนี้ จึงกราบทูล
อย่างนั้น.