ดิถีเพ็ญเตือน ๘ อีกก็ควร. แต่ถ้าในอาสาฬหมาส อาจารย์ไม่มา ควรไปในที่
ซึ่งตนจะได้นิสัย.
อรรถกถาเอกานุสสาวนากถา
สองบทว่า โคตฺเตนปิ อนุสฺสาเวตุํ มีความว่า เราอนุญาตให้ภิกษุ
ระบุโคตรสวดประกาศอย่างนี้ว่า ผู้มีชื่ออย่างนี้เพ่งอุปสมบทแก่พระมหากัสสปะ.
สองบทว่า เทฺว เอกานุสฺสาวเน มีความว่า เราอนุญาตให้ภิกษุ
ทำการสวดประกาศอุปสัมปทาเปกขะ ๒ คนรวมกันได้. อธิบายว่า เราอนุณาต
ให้อาจารย์ ๒ รูปอย่างนี้ ถือ อาจารย์รูป ๑ สำหรับอุปสัมปทาเปกขะคน ๑
อาจารย์อื่นสำหรับอุปสัมปทาเปกขะอีกคน ๑ หรืออาจารย์รูปเดียวสวดกรรม
วาจาประกาศให้อุปสมบทในขณะเดียวกันได้.
คำว่า เทฺว เทฺว ตโย เอกานุสฺสาวเน กาตุ ตญฺจ โข เอเกน
อุปชฺฌาเยน มีความว่า เราอนุญาตให้ภิกษุทำการสวดประกาศชน ๒ คน
หรือ ๓ คนรวมกัน โดยนัยก่อนนั่นแล. และเราอนุญาตอนุสสาวนกิริยานั้นแล
ด้วยอุปัชฌาย์รูปเดียว. เพราะเหตุนั้นอุปสัมปทาเปกขะ ๒ คน หรือ ๓ คน
อันอาจารย์รูปเดียว พึงสวดประกาศ กรรมวาจา ๒ หรือ ๓ อันอาจารย์ ๒ รูป
หรือ ๓ รูป พึงสวดด้วยลงมือพร้อมกันทีเดียวอย่างนี้ คือ อาจารย์รูป ๑ พึง
สวดแก่อุปสัมปทาเปกขะรูป ๑. แยก ๆ กันไป. แต่ถ้าอาจารย์ก็ต่างรูป
อุปัชฌาย์ต่างรูปกัน คือ พระติสสเถระสวดประกาศสัทธิวิหาริกของพระสุมน-
เถระ พระสุมนเถระสวดประกาศสัทธิวิหาริกของพระติสสเถระ และต่างเป็น
คณปูรกะของกันและกัน อย่างนี้ควร. และถ้าอุปัชฌาย์ต่างรูปกัน อาจารย์รูป
เดียว อย่างชื่อว่าไม่ควร เพราะพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงห้ามไว้ว่า แต่เราไม่
อนุญาตด้วยอุปัชฌาย์ต่างรูปกันเลย ดังนี้ จริงอยู่การห้ามนี้หมายเอาคำบาลีนี้.