No Favorites


หมวด/เล่ม
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๙ ภาค ๑ – หน้าที่ 196 (เล่ม 72)

ทราบว่า ท่านพระสรณคมนิยเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วย
ประการฉะนี้แล.
จบสรณิคมนิยเถราปทาน
อัพภัญชนทายกเถราปทานที่ ๔ (๕๒๔)
ว่าด้วยผลแห่งการถวายยาหยอดตา
[๑๑๔] เราอยู่ใกล้พระราชอุทยาน ใน
พระนครพันธุมดี ครั้งนั้นเรานุ่งหนังเสือเหลือง
ถือคณโฑน้ำ
เราได้พบพระสยัมภูพุทธเจ้าผู้ปราศจาก
กิเลสธุลี ผู้ไม่ทรงพ่ายแพ้อะไร ๆ มีความเพียร
เผากิเลส มีพระหทัยแน่วแน่ มีปรกติเพ่งพินิจ
ยินดีในฌาน มีความชำนาญ สำเร็จความประสงค์
ทั้งปวง ข้ามพ้นโอฆะแล้ว ไม่มีอาสวะ
ครั้นเราพบแล้วก็เลื่อมใสโสมนัส ได้ถวายยา
หยอดตา
ในกัปที่ แต่กัปนี้ เราได้ถวายทานใด ใน
กาลนั้น ด้วยทานนั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็น
ผลแห่งยาหยอดตา
เราเผากิเลสทั้งหลายแล้ว . . . คำสอน
ของพระพุทธเจ้าเราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้

196
หมวด/เล่ม
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๙ ภาค ๑ – หน้าที่ 197 (เล่ม 72)

ทราบว่า ท่านพระอัพภัญชนทายกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วย
ประการฉะนี้แล.
จบอัพภัญชนทายกเถราปทาน
สุปฏทายกเถราปทานที่ ๕ (๕๒๕)
ว่าด้วยผลแห่งการถวายผ้าเนื้อดี
[๑๑๕] พระวิปัสสีสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้นำ
โลก เสด็จออกจากที่ประทับสำราญในกลางวัน
เราได้ถวายผ้าอย่างดีมีเนื้อเบา แล้วบันเทิงอยู่ใน
สวรรค์ตลอดกัป
ในกัปที่ ๙๑ แต่กัปนี้ เราได้ถวายผ้าใด
ด้วยการถวายผ้านั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็น
ผลแห่งผ้าอย่างดี
เราเผากิเลสทั้งหลายแล้ว...คำสอนของ
พระพุทธเจ้าเราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.
ทราบว่า ท่านพระสุปฏทายกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วย
จบสุปฏทายกเถราปทาน

197
หมวด/เล่ม
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๙ ภาค ๑ – หน้าที่ 198 (เล่ม 72)

ทัณฑทายกเถราปทานที่ ๖ (๕๒๖)
ว่าด้วยผลแห่งการถวายไม้เท้า
[๑๑๖] ครั้งนั้น เราเข้าไปยังป่าใหญ่
คัดเอาไม้ไผ่มาทำเป็นไม้เท้า ถวายแด่พระสงฆ์
เรากราบไหว้ท่านผู้มีวัตรอันงามด้วยจิต
เลื่อมใสนั้น ถวายไม้เท้าแล้วเดินบ่ายหน้าไปทาง
ทิศอุดร
ในกัปที่ ๙๔ แต่กัปนี้ เราได้ถวายไม้เท้า
ใดในกาลนั้น ด้วยการถวายไม้เท้านั้น เราไม่
รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งการถวายไม้เท้า
เราเผากิเลสทั้งหลายแล้ว...คำสอนของ
พระพุทธเจ้าเราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.
ทราบว่า ท่านพระทัณฑทายกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วย
ประการฉะนี้แล.
จบทัณฑทสยกเถราปทาน
คิริเนลปูชกเถราปทานที่ ๗ (๕๒๗)
ว่าด้วยผลแห่งการบูชาด้วยดอกอัญชันเขียว
[๑๑๗ ] เมื่อก่อน เราเป็นพรานเนื้อเที่ยว
อยู่ในป่า ได้พบพระพุทธเจ้าผู้ปราศจากกิเลสธุลี
ทรงรู้จบธรรมทั้งปวง

198
หมวด/เล่ม
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๙ ภาค ๑ – หน้าที่ 199 (เล่ม 72)

เรามีจิตเลื่อมใสมีใจโสมนัสในพระพุทธเจ้า
พระองค์นั้น ผู้ประกอบด้วยพระมหากรุณาทรง
ยินดีในประโยชน์เกื้อกูลแก่สรรพสัตว์ จึงได้
บูชาด้วยดอกอัญชันเขียว
ในกัปที่ ๓๑ แต่กัปนี้ เราได้บูชาพระ-
พุทธเจ้าด้วยดอกไม้ใด ด้วยการบูชานั้น เราไม่รู้จัก
ทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งพุทธบูชา
เราเผากิเลสทั้งหลายแล้ว. . .คำสอน
ของพระพุทธเจ้าเราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.
ทราบว่า ท่านพระคิริเนลปูชกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วย
ประการฉะนี้แล.
จบคิริปูชกเถราปทานที่ ๘ (๕๒๘)
โพธิสัมมัชชกเถราปทานที่ ๘ (๕๒๘)
ว่าด้วยผลแห่งการกวาดลานโพธิ์
[๑๑๘] ในกาลก่อน เราเก็บใบโพธิ์ที่
ถูกทิ้งไว้ ณ ลานพระเจดีย์เอาไปทิ้งเสีย เราจึงได้
คุณ ๒๐ ประการ
ด้วยเดชแห่งกรรมนั้น เมื่อเรายังท่อง-
เที่ยวอยู่ในภพน้อยภพใหญ่ ย่อมท่องเที่ยวไปแต่
ในสองภพ คือ ในเทวดาและมนุษย์

199
หมวด/เล่ม
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๙ ภาค ๑ – หน้าที่ 200 (เล่ม 72)

จุติจากเทวโลกแล้วมาสู่มนุษย์โลก ก็เกิด
แต่ในสองสกุล คือ สกุลกษัตริย์และสกุลพราหมณ์
เรามีอวัยวะน้อยใหญ่สมบูรณ์สูงใหญ่ รูป
สวย สะอาดสะอ้าน เต็มเปี่ยม ไม่บกพร่อง
เราเกิดในภพใดภพหนึ่ง คือ ในเทวโลก
หรือมนุษย์โลกในภพนั้น เรามีผิวพรรณเหมือน
ทองคำ เปรียบดังทองคำที่นายช่างหลอมแล้ว ผิว
ของเราอ่อนนุ่ม สนิท สุขุม ละเอียดอ่อนอยู่
ตลอดเวลา เพราะใบโพธิ์อันเราทิ้งดีแล้ว
ในคติไหน ๆ ก็ตามที ฝุ่นละอองย่อม
ไม่ติดในสรีระของเรา ผู้เป็นไปอยู่ นี้เป็นวิบาก
แห่งการทิ้งใบโพธิ์
เพราะความร้อน ลม แดด หรือเพราะ
ความร้อนของไฟก็ตาม ที่ตัวของเราไม่มีเหงื่อ
ไหล นี้เป็นวิบากแห่งการทิ้งใบโพธิ์
ในกายของเรา ไม่มีโรคเรื้อน ฝี กราก
ตกกระ หูดและหิดเปื่อยเลย นี้เป็นวิบากแห่งการ
ทิ้งใบโพธิ์
คุณแห่งการทิ้งใบโพธิ์อกข้อหนึ่ง คือ
บุคคลเกิดในภพน้อยภพใหญ่ ย่อมไม่มีโรคใน
กาย นี้เป็นวิบากแห่งการทิ้งใบโพธิ์

200
หมวด/เล่ม
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๙ ภาค ๑ – หน้าที่ 201 (เล่ม 72)

คุณอีกข้อหนึ่ง คือ เขาเกิดในภพน้อยภพ
ใหญ่ ย่อมไม่มีความบีบคั้นที่เกิดขึ้นทางใจเลย
นี้เป็นวิบากแห่งการทิ้งใบโพธิ์
คุณอีกข้อหนึ่ง คือ เขาเกิดในภพน้อย
ภพใหญ่ ย่อมไม่มีใครเป็นข้าศึกเลย นี้เป็นวิบาก
แห่งการทิ้งใบโพธิ์
คุณอีกข้อหนึ่ง คือ เขาเกิดในภพน้อยภพ
ใหญ่ ย่อมมีโภคทรัพย์ไม่บกพร่องเลย นี้เป็น
วิบากแห่งการทิ้งใบโพธิ์
คุณอีกข้อหนึ่ง คือ เขาเกิดในภพน้อยภพ
ใหญ่ ย่อมไม่มีภัยแต่ไฟ พระราชา โจรและน้ำ
คุณอีกข้อหนึ่ง คือ เขาเกิดในภพน้อย
ภพใหญ่ ทาสหญิงและชายและคนติดตาม ย่อม
ประพฤติตามต้องการของเขา
เขาเกิดในมนุษย์โลกในปริมาณอายุเท่าใด
อายุของเขา ย่อมไม่ลดไปจากปริมาณอายุนั้น
ย่อมดำรงอยู่ตราบเท่าสิ้นอายุ
คนใน คนนอก ตลอดถึงชาวนิคม ชาว
รัฐ ล้วนแต่เป็นผู้ช่วยเหลือ ใคร่ให้ความเจริญ
ปรารถนาให้ความสุขแก่เขาทั้งนั้น ในทุก ๆ ภพ
เราเป็นคนมีโภคทรัพย์ มียศ มีสิริ มีญาติพวกพ้อง
ไม่มีเวร หมดความสะดุ้ง ในทุกภพ เรามีทุกสิ่ง.

201
หมวด/เล่ม
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๙ ภาค ๑ – หน้าที่ 202 (เล่ม 72)

เมื่อเรายังท่องเที่ยวอยู่ในภพ เทวดา
มนุษย์ อสูร คนธรรพ์ ยักษ์และรากษส ล้วน
แต่ป้องกันรักษาเราทุกเมื่อ
เราเสวยยศสองอย่างทั้งในเทวโลกและ
มนุษยโลก ในอวสานกาล เราได้บรรลุศิวโมกข์
มหานฤพานอันยอดเยี่ยม
บุรุษใดประสพบุญเพราะเจาะจงพระสัมมา-
สัมพุทธเจ้า หรือโพธิ์พฤกษ์ของพระศาสดาพระ-
องค์นั้น สำหรับบุรุษเช่นนั้น สิ่งอะไรเล่าที่เขา
จะหาได้ยาก
เขาย่อมเป็นผู้ยิ่งใหญ่กว่าคนอื่น ๆ ใน
มรรค, ผล การศึกษาปริยัติและคุณ คือ ฌาน
และอภิญญา ไม่มีอาสวะ ปรินิพพาน
เมื่อก่อน เรามีใจยินดีเก็บใบโพธิ์เอาไป
ทิ้ง จึงเป็นผู้พร้อมเพรียงด้วยองค์คุณ ๒๐ ประการ
นี้ทุกทิพาราตรีกาล
เราเผากิเลสทั้งหลายแล้ว...คำสอนของ
พระพุทธเจ้าเราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.
ทราบว่า ท่านพระโพธิสัมมัชชกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วย
ประการฉะนี้แล.
จบโพธิสัมมัชชกเถราปทาน

202
หมวด/เล่ม
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๙ ภาค ๑ – หน้าที่ 203 (เล่ม 72)

อามัณฑผลทายกเถราปทานที่ ๙ (๕๒๙)
ว่าด้วยผลแห่งการถวายแฟง
[๑๑๙] พระพิชิตมารพระนามว่าปทุมุตตระ
ผู้ทรงรู้จบธรรมทั้งปวง เป็นนายกของโลก ออก
จากสมาธิแล้ว เสด็จจงกรมอยู่
ครั้งนั้น เราเอาผลไม้ใส่หาบ หาบมา ได้
พบพระพุทธเจ้ามหามุนีผู้ปราศจากกิเลสธุลี กำลัง
เสด็จจงกรมอยู่
เรามีจิตเลื่อมใสมีใจโสมนัส ประนมกรอัญชลี
เหนือเศียรเกล้า ถวายบังคมพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
แล้วถวายผลแฟง
ในกัปที่แสนแต่กัปนี้ เราได้ถวายผลไม้
ใด ในกาลนั้น ด้วยการถวายผลไม้นั้น เราไม่รู้จัก
ทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งผลแฟง
เราเผากิเลสทั้งหลายแล้ว. . .คำสอน
ของพระพุทธเจ้าเราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.
ทราบว่า ท่านพระอามัณฑผลทายกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วย
ประการฉะนี้แล.
จบอามัณฑผลทายกเถราปทาน

203
หมวด/เล่ม
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๙ ภาค ๑ – หน้าที่ 204 (เล่ม 72)

สุคันธเถราปทานที่ ๑๐ (๕๓๐)
ว่าด้วยผลแห่งการสดุดีพระรัตนตรัย
[๑๒๐] พระพุทธเจ้าผู้เป็นเผ่าพันธุ์แห่ง
พราหมณ์ ทรงพระยศใหญ่มีพระนามว่ากัสสปะ
ประเสริฐกว่านักปราชญ์ทั้งหลายเสด็จอุบัติขึ้นแล้ว
ในภัทรกัปนี้
พระองค์ทรงสมบูรณ์ด้วยอนุพยัญชนะมี
พระลักษณะอันประเสริฐ ๓๒ ประการ อันรัศมี
วาหนึ่งแวดล้อม มีข่ายรัศมีบังเกิดปรากฏ ก่อให้
เกิดความยินดีเหมือนพระจันทร์ ส่องแสงสว่าง
เหมือนพระอาทิตย์ ทรงยังหมู่สัตว์ให้เยือกเย็น
เหมือนเมฆฝน เป็นบ่อเกิดแห่งคุณเหมือนสาคร
พระองค์ประหนึ่งว่า แผ่นดินโดยศีล
ประหนึ่งว่า ภูเขาหิมวันต์โดยสมาธิ ประหนึ่งว่า
อากาศโดยปัญญา เป็นผู้ไม่เกาะเกี่ยวเสมือนลม
ฉะนั้น
พระองค์ไม่ทรงบกพร่องเหมือนวิหาร
ทรงแกล้วกล้าในบริษัท ทรงประกาศสัจธรรม
ช่วยมหาชนให้รอดพ้น
ครั้งนั้น เราเป็นเศรษฐีบุตรผู้มียศใหญ่
ในพระนครพาราณสี มีทรัพย์และข้าวเปลือก
มากมาย

204
หมวด/เล่ม
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๙ ภาค ๑ – หน้าที่ 205 (เล่ม 72)

เราเที่ยวเดินเล่นไปจนถึงป่ามฤคทายวัน
ได้เห็นพระศาสดาผู้เป็นนาถะ กำลังทรงแสดง
พระธรรมเทศนา เรื่องบทอมตธรรม
เราได้เห็นพระพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้
เป็นเทพยิ่งกว่าทวยเทพ มีพระดำรัสเกลี้ยงเกลา
น่ารัก มีพระสุรเสียงสม่ำเสมอเหมืนนกการะเวก
มีพระสำเนียงก้องเหมือนเสียงหงส์และเสียงกลอง
ใหญ่ ยังมหาชนให้ทราบชัดได้ และได้สดับ
พระสุรเสียงอันไพเราะ จึงได้ละโภคทรัพย์มิใช่
น้อย ออกบวชเป็นบรรพชิต เราบวชแล้วเช่นนี้
ไม่นานก็เป็นพหูสูต เป็นพระธรรมกถึก มีปฏิภาณ
อันวิจิตร
เราเป็นคนองอาจในการพรรณนา ได้
พรรณนาพระคุณของพระศาสดาผู้มีพระฉวีวรรณ
เหมือนทองคำ ในท่ามกลางบริษัทบ่อย ๆ ว่า
พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นี้ เป็นพระ
ขีณาสพ เป็นผู้ตื่นแล้วไม่มีทุกข์ ทรงตัดความ
สงสัยได้แล้วทรงถึงควานสั้นกรรมทุกอย่าง ทรง
พ้นกิเลสแล้วในเพราะธรรมเป็นที่สิ้นไปแห่งอุปธิ
พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นี้นั้น เป็นผู้
ตื่นแล้ว ทรงแกล้วกล้าดุจสีหะ พระองค์เป็นผู้
ประเสริฐยิ่ง ทรงประกาศพรหมจักรแก่โลก พร้อม
ทั้งเทวโลก ทรงฝึกพระองค์เองและทรงฝึกผู้อื่น

205