No Favorites


หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวรรค เล่ม ๔ ภาค ๑ – หน้าที่ 204 (เล่ม 6)

ศุกลปักษ์ ๖
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ ๕ พึงให้อุปสมบท พึง
ให้นิสัย พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก คือ:-
๑. อาจจะฝึกปรืออันเตวาสิกหรือสัทธิวิหาริก ในสิกขาอันเป็น
อภิสมาจาร.
๒. อาจจะแนะนำให้สิกขา อันเป็นส่วนเบื้องต้น แห่งพรหมจรรย์.
๓. อาจจะแนะนำในธรรมอันยิ่งขึ้นไป.
๔. อาจจะแนะนำในวินัยอันยิ่งขึ้นไป และ
๕. อาจจะเปลื้องความเห็นผิดอันเกิดขึ้นแล้วโดยธรรม.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ ๕ นี้แล พึงให้
อุปสมบท พึงให้นิสัย พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก.
กัณหปักษ์ ๗
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ ๕ แม้อื่นอีก ไม่พึงให้
อุปสมบท ไม่พึงให้นิสัย ไม่พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก คือ:-
๑. ไม่รู้จักอาบัติ.
๒. ไม่รู้จักอนาบัติ.
๓. ไม่รู้จักอาบัติเบา.
๔. ไม่รู้จักอาบัติหนัก และ
๕. เธอจำปาติโมกข์ทั้งสองไม่ได้ดีโดยพิสดาร จำแนกไม่ได้ด้วยดี
ไม่คล่องแคล่วดี วินิจฉัยไม่เรียบร้อย โดยสุตตะ โดยอนุพยัญชนะ.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ ๕ นี้แล ไม่พึงให้
อุปสมบท ไม่พึงให้นิสัย ไม่พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก.

204
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวรรค เล่ม ๔ ภาค ๑ – หน้าที่ 205 (เล่ม 6)

ศุกลปักษ์ ๗
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบองค์ ๕ พึงให้อุปสมบท พึงให้
นิสัย พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก คือ:-
๑. รู้จักอาบัติ.
๒. รู้จักอนาบัติ.
๓. รู้จักอาบัติเบา.
๔. รู้จักอาบัติหนัก และ.
๕. เธอจำปาติโมกข์ทั้งสองได้ดีโดยพิสดาร จำแนกดี คล่องแคล่วดี
วินิจฉัยเรียบร้อย โดยสุตตะ โดยอนุพยัญชนะ.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ ๕ นี้แล พึงให้อุปสมบท
พึงให้นิสัย พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก.
กัณหปักษ์ ๘
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ ๕ แม้อื่นอีก ไม่พึงไห้
อุปสมบท ไม่พึงให้นิสัย ไม่พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก คือ:-
๑. ไม่รู้จักอาบัติ.
๒. ไม่รู้จักอนาบัติ.
๓. ไม่รู้จักอาบัติเบา.
๔. ไม่รู้จักอาบัติหนัก และ
๕. มีพรรษาหย่อน.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ ๕ นี้แล ไม่พึงไห้
อุปสมบท ไม่พึงให้นิสัย ไม่พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก.

205
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวรรค เล่ม ๔ ภาค ๑ – หน้าที่ 206 (เล่ม 6)

ศุกลปักษ์ ๘
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ ๕ พึงให้อุปสมบท พึง
ให้นิสัย พึงให้สามเถรอุปัฏฐาก คือ:-
๑. รู้จักอาบัติ.
๒. รู้จักอนาบัติ.
๓. รู้จักอาบัติเบา.
๔. รู้จักอาบัติหนัก และ
๕. มีพรรษาได้ ๑๐ หรือมีพรรษาเกิน ๑.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ ๕ นี้แล พึงให้อุปสมบท
พึงให้นิสัย พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก.
องค์ ๕ แห่งภิกษุผู้ให้อุปสมบท ๑๖ หมวด จบ
องค์ ๖ แห่งภิกษุผู้ให้อุปสนบท ๑๖ หมวด
กัณหปักษ์ ๑
[๙๙] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ ๖ ไม่พึงให้
อุปสมบท ไม่พึงให้นิสัย ไม่พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก คือ:-
๑. ไม่ประกอบด้วยกองศีล อันเป็นของพระอเสขะ.
๒. ไม่ประกอบด้วยกองสมาธิ อันเป็นของพระอเสุขะ.
๓. ไม่ประกอบด้วยกองปัญญา อันเป็นของพระอเสขะ.
๔. ไม่ประกอบด้วยกองวิมุตติ อันเป็นของพระอเสขะ.

206
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวรรค เล่ม ๔ ภาค ๑ – หน้าที่ 207 (เล่ม 6)

๕. ไม่ประกอบด้วยกองวิมุตติญาณทัสสนะ อันเป็นของพระอเสขะ
และ
๖. มีพรรษาหย่อน ๑๐
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ ๖ นี้แล ไม่พึงให้
อุปสมบท ไม่พึงให้นิสัย ไม่พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก.
ศุกลปักษ์ ๑
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ ๖ พึงให้อุปสมบท พึง
ให้นิสัย พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก คือ:-
๑. ประกอบด้วยกองศีล อันเป็นของพระอเสขะ.
๒. ประกอบด้วยกองสมาธิ อันเป็นของพระอเสขะ.
๓. ประกอบด้วยกองปัญญา อันเป็นของพระอเสขะ.
๔. ประกอบด้วยกองวิมุตติ อันเป็นของพระอเสขะ.
๕. ประกอบด้วยกองวิมุตติญาณทัสสนะ อันเป็นของพระอเสขะและ
๖. มีพรรษาได้ ๑๐ หรือมีพรรษาเกิน ๑๐.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ ๖ นี้แล พึงให้อุปสมบท
พึงให้นิสัย พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก.
กัณหปักษ์ ๒
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ ๖ แม้อื่นอีก ไม่พึงให้
อุปสมบท ไม่พึงให้นิสัย ไม่พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก คือ
๑. ตนเองไม่ประกอบด้วยกองศีล อันเป็นของพระอเสขะ และไม่
ชักชวนผู้อื่นในกองศีล อันเป็นของพระอเสขะ.

204
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวรรค เล่ม ๔ ภาค ๑ – หน้าที่ 208 (เล่ม 6)

๒. ตนเองไม่ประกอบด้วยกองสมาธิ อันเป็นของพระอเสขะ และไม่
ชักชวนผู้อื่นในกองสมาธิ อันเป็นของพระอเสขะ.
๓. ตนเองไม่ประกอบด้วยกองปัญญา อันเป็นของพระอเสขะ และ
ไม่ชักชวนผู้อื่นในกองปัญญา อันเป็นของพระอเสขะ.
๔. ตนเองไม่ประกอบด้วยกองวิมุตติ อันเป็นของพระอเสขะ และ
ไม่ชักชวนผู้อื่นในกองวิมุตติ อันเป็นของพระอเสขะ.
๕. ตนเองไม่ประกอบด้วยกองวิมุตติญาณทัสสนะ อันเป็นของพระ-
อเสขะ และไม่ชักชวนผู้อื่นในกองวิมุตติญาณทัสสนะ อันเป็นของพระอเสขะและ
๖. มีพรรษาหย่อน ๑๐.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ ๖ นี้แล ไม่พึงให้
อุปสมบท ไม่พึงให้นิสัย ไม่พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก.
ศุกลปักษ์ ๒
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ ๖ พึงให้อุปสมบท พึง
ให้นิสัย พึงให้สานเณรอุปัฏฐาก คือ:-
๑. ตนเองประกอบด้วยกองศีล อันเป็นของพระอเสขะ และชักชวน
ผู้อื่นในกองศีล อันเป็นของพระอเสชะ.
๒. ตนเองประกอบด้วยกองสมาธิ อันเป็นของพระอเสขะ และชักชวน
ผู้อื่นในกองสมาธิ อันเป็นของพระอเสขะ.
๓. ตนเองประกอบด้วยกองปัญญา อันเป็นของพระอเสขะ และชักชวน
ผู้อื่นในกองปัญญา อันเป็นของพระอเสขะ.
๔. ตนเองประกอบด้วยกองวิมุตติ อันเป็นของพระอเสขะ และชักชวน
ผู้อื่นในกองวิมุตติ อันเป็นของพระอเสขะ.

208
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวรรค เล่ม ๔ ภาค ๑ – หน้าที่ 209 (เล่ม 6)

๕. ตนเองประกอบด้วยกองวิมุตติญาณทัสสนะอันเป็นของพระอเสขะ
และชักชวนผู้อื่นในกองวิมุตติญาณทัสสนะ อันเป็นของพระอเสขะ และ
๖. มีพรรษาได้ ๑๐ หรือมีพรรษาเกิน ๑๐.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ ๖ นี้แล พึงให้อุปสมบท
พึงให้นิสัย พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก.
กัณหปักษ์ ๓
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ ๖ แม้อื่นอีก ไม่พึงให้
อุปสมบท ไม่พึงให้นิสัย ไม่พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก คือ:-
๑. เป็นผู้ไม่มีศรัทธา.
๒. เป็นผู้ไม่มีหิริ.
๓. เป็นผู้ไม่มีโอตตัปปะ
๔. เป็นผู้เกียจคร้าน.
๕. เป็นผู้มีสติฟั่นเฟือน และ
๖. เป็นผู้มีพรรษาหย่อน ๑๐.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ ๖ นี้แล ไม่พึงให้
อุปสมบท ไม่พึงให้นิสัย ไม่พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก.
ศุกลปักษ์ ๓
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ ๖ พึงให้อุปสมบท พึง
ให้นิสัย พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก คือ
๑. เป็นผู้มีศรัทธา.
๒. เป็นผู้มีหิริ.

209
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวรรค เล่ม ๔ ภาค ๑ – หน้าที่ 210 (เล่ม 6)

๓. เป็นผู้มีโอตตัปปะ.
๔. เป็นผู้ปรารภความเพียร.
๕. เป็นผู้มีสติตั้งมั่นและ
๖. เป็นผู้พรรษาได้ ๑๐ หรือมีพรรษาเกิน ๑๐ .
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ ๖ นี้แล พึงให้อุปสมบท
พึงให้นิสัย พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก.
กัณหปักษ์ ๔
ดูก่อนุภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ ๖ แม้อื่นอีก ไม่พึงให้
อุปสมบท พึงให้นิสัย ไม่พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก คือ:-
๑. เป็นผู้วิบัติด้วยศีล ในอธิศีล.
๒. เป็นผู้วิบัติด้วยอาจาระ ในอัธยาจาระ.
๓. เป็นผู้วิบัติด้วยทิฏฐิ ในทิฏฐิยิ่ง.
๔. เป็นผู้ได้ยินได้ฟังน้อย.
๕. เป็นผู้มีปัญญาทราม และ
๖. เป็นผู้มีพรรษาหย่อน ๑๐.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ ๖ นี้แล ไม่พึงให้
อุปสมบท ไม่พึงให้นิสัย ไม่พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก.
ศุกลปักษ์ ๔
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ ๖ พึงให้อุปสมบท พึง
ให้นิสัย พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก คือ:-
๑. เป็นผู้ไม่มีวิบัติด้วยศีล ในอธิศีล.

210
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวรรค เล่ม ๔ ภาค ๑ – หน้าที่ 211 (เล่ม 6)

๒. เป็นผู้ไม่วิบัติด้วยอาจาระ ในอัธยาจาระ.
๓. เป็นผู้ไม่วิบัติด้วยทิฏฐิ ในทิฏฐิยิ่ง.
๔. เป็นผู้ได้ยินได้ฟังมาก.
๕. เป็นผู้มีปัญญา และ
๖. เป็นผู้มีพรรษาได้ ๑๐ หรือมีพรรษาเกิน ๑๐.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ ๖ นี้แล พึงให้อุปสมบท
พึงให้นิสัย พึงไห้สามเณรอุปัฏฐาก.
กัณหปักษ์ ๕
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ ๖ แม้อื่นอีก ไม่พึงให้
อุปสมบท ไม่พึงให้นิสัย ไม่พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก. คือ:-
๑. ไม่สามารถจะพยาบาลเอง หรือให้ผู้อื่นพยาบาลอันเตวาสิกหรือ
สัทธิวิหาริกผู้อาพาธ.
๒. ไม่สามารถจะระงับเอง หรือหาผู้อื่นให้ช่วยระงับความกระสัน.
๓. ไม่สามารถจะบรรเทาเอง หรือหาผู้อื่นให้ช่วยบรรเทาความเบื่อ
หน่ายอันเกิดขึ้นแล้วโดยธรรม.
๔. ไม่รู้จักอาบัติ.
๕. ไม่รู้จักวิธีออกจากอาบัติ และ
๖. มีพรรษาหย่อน ๑๐.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ ๖ นี้แล ไม่พึงให้
อุปสมบท ไม่พึงให้นิสัย ไม่พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก.

211
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวรรค เล่ม ๔ ภาค ๑ – หน้าที่ 212 (เล่ม 6)

ศุกลปักษ์ ๕
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ ๖ พึงให้อุปสมบท พึง
ให้นิสัย พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก คือ:-
๑. อาจจะพยาบาลเอง หรือให้ผู้อื่นพยาบาลอันเตวาสิกหรือสัทธิ-
วิหาริก ผู้อาพาธ.
๒. อาจจะระงับเอง หรือหาผู้อื่นให้ช่วยระงับความกระสัน.
๓. อาจจะบรรเทาเอง หรือหาผู้อื่นให้ช่วยบรรเทา ความเบื่อหน่าย
อันเกิดขึ้นแล้ว โดยธรรม.
๔. รู้จักอาบัติ.
๕. รู้จักวิธีออกจากอาบัติ และ
๖. มีพรรษาได้ ๑๐ หรือมีพรรษาเกิน ๑๐.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ ๖ นี้แล พึงให้อุปสมบท
พึงให้นิสัย พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก.
กัณหปักษ์ ๖
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ ๖ แม้อื่นอีก ไม่พึงให้
อุปสมบท ไม่พึงให้นิสัย ไม่พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก คือ:-
๑. ไม่อาจฝึกปรืออันเตวาสิกหรือสัทธิวิหาริก ในสิกขาอันเป็นอภิ-
สมาจาร.
๒. ไม่อาจจะแนะนำในสิกขา อันเป็นส่วนเบื้องต้นแห่งพรหมจรรย์.
๓. ไม่อาจจะแนะนำในธรรมอันยิ่งขึ้นไป.
๔. ไม่อาจจะแนะนำในวินัยอันยิ่งขึ้นไป.

212
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวรรค เล่ม ๔ ภาค ๑ – หน้าที่ 213 (เล่ม 6)

๕. ไม่อาจจะเปลื้องความเห็นผิดอันเกิดขึ้นแล้วโดยธรรม และ
๖. มีพรรษาหย่อน ๑๐.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ ๖ นี้แล ไม่พึงให้
อุปสมบท ไม่พึงให้นิสัย ไม่พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก.
ศุกลปักษ์ ๖
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ ๖ พึงให้อุปสมบท พึง
ให้นิสัย พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก คือ:-
๑. อาจจะฝึกปรืออันเตวาสิกหรือสัทธิวิหาริก ในสิกขาอันเป็น
อภิสมาจาร.
๒. อาจจะแนะนำในสิกขา อันเป็นส่วนเบื้องต้นแห่งพรหมจรรย์.
๓. อาจจะแนะนำในธรรมอันยิ่งขึ้นไป.
๔. อาจจะแนะนำในวินัยอันยิ่งขึ้นไป.
๕. อาจจะเปลื้องความเห็นผิดอันเกิดขึ้นแล้วโดยธรรม และ
๖. มีพรรษาได้ ๑๐ หรือมีพรรษาเกิน ๑๐.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ ๖ นี้แล พึงให้อุปสมบท
พึงให้นิสัย พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก.
กัณหปักษ์ ๗
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ ๖ แม้อื่นอีก ไม่พึงให้
อุปสมบท ไม่พึงให้นิสัย ไม่พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก คือ:-
๑. ไม่รู้จักอาบัติ.
๒. ไม่รู้จักอนาบัติ.

213