อรรถว่า เป็นความห่วงใยของโลก และเพราะอรรถว่า ก้าวไปได้ยาก.
บทว่า อาจมํ ชื่อว่า อาจมะ เพราะมาว่องไวตั้งแต่ปฏิสนธิ. บทนี้เป็น
ชื่อของตัณหาให้ปฏิสนธิในภพใหม่อันมีวัฏฏะเป็นมูล. บทว่า ชปฺปนํ นี้เป็น
ชื่อของตัณหาอันเป็นความปรารถนา. บทว่า อารมฺมณมฺปิ วุจฺจติ ตณฺหา
แม้อารมณ์ก็เรียกว่าตัณหา คือท่านกล่าวว่า ตัณหาเกิดขึ้นในอารมณ์มีรูป
เป็นต้น ชื่อว่าเป็นอารมณ์ เพราะไม่สามารถปล่อยไปได้. บทว่า
กามปงฺโก เปือกตมคือกาม ชื่อว่าเปือกตม เพราะอรรถว่า จมลง
บทว่า กทฺทโม ความว่า หล่มคือกาม ชื่อว่าหล่ม เพราะอรรถว่า ติดอยู่.
ชื่อว่ากิเลส เพราะอรรถว่า เผาผลาญ. ชื่อว่า ปลิโป โคลนคือกาม
เพราะอรรถว่า ให้ติดแน่นดุจยาง. ชื่อว่า ปลิเคโธ ความกังวลคือกาม
เพราะอรรถว่า ปิดทรงไว้. ความกังวลคือกามมิได้อาศัยช่องอันเป็น
ปริยายมีความกำหนัดเป็นต้นนี้ ด้วยประการฉะนี้.
พึงทราบคาถา มีอาทิว่า สจฺจา อโวกฺกมํ เป็นมุนีไม่ก้าวล่วง
สัจจะดังนี้ต่อไป. บทนั้นมีความดังนี้ ชื่อว่ามุนี เพราะปฏิบัติเพื่อความ
เป็นมุนี ไม่ก้าวล่วงสัจจะแม้ ๓ อย่าง ดังที่กล่าวไว้แล้วในคราวก่อน
เป็นพราหมณ์ ตั้งอยู่บนบกคือนิพพาน ผู้นั้นแล เรากล่าวว่าเป็นผู้สงบ
เพราะสละเสียได้ซึ่งอายตนะทั้งปวง. ในนิเทศไม่มีข้อควรกล่าว. มีอะไร
ยิ่งไปกว่านั้นอีก. พึงทราบคาถามีอาทิว่า สเว วิทฺธา ผู้นั้นแลมีความรู้
ดังนี้ต่อไป.
ในบทเหล่านั้น บทว่า ญตฺวา ธมฺนํ คือ รู้สังขตธรรมโดยนัยมีอาทิ
ว่า ความไม่เที่ยงเป็นต้น. บทว่า สมฺมา โส โลเก อิริยาโน ผู้นั้นอยู่