หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๒ – หน้าที่ 931 (เล่ม 4)

อนาปัตติวาร
ไม่แกล้ง ๑ เผลอ ๑ ไม่รู้ตัว ๑ อาพาธ ๑ มีอันตราย ๑ วิกลจริต ๑
อาทิกัมมิกะ ๑ ไม่ต้องอาบัติแล.
สุรุสุรุวรรค สิกขาบทที่ ๑๐ จบ
วรรคที่ ๖ จบ

931
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๒ – หน้าที่ 932 (เล่ม 4)

วรรคที่ ๗ ปาทุกาวรรค
สิกขาบทที่ ๑
[๘๖๒] สาวัตถีนิทาน ครั้งนั้นพระฉัพพัคคีย์แสดงธรรมแก่บุคคล
ผู้สวมเขียงเท้า . .
พระอนุบัญญัติ
๒๐๖. ๖๑. ภิกษุพึงทำความศึกษาว่า เราจักไม่แสดงธรรมแก่
บุคคลไม่ใช่ผู้เจ็บไข้ สวมเขียงเท้า.
สิกขาบทวิภังค์
อันภิกษุไม่พึงแสดงธรรมแก่คนไม่เป็นไข้ ผู้สวมเขียงเท้า ภิกษุใด
อาศัยความไม่เอื้อเฟื้อ แสดงธรรมแก่คนไม่เป็นไข้ ผู้เหยียบเขียงเท้าก็ดี ผู้
สวมเขียงเท้าก็ดี ผู้สวมเขียงเท้าหุ้มส้นก็ดี ต้องอาบัติทุกกฎ.
อนาปัตติวาร
ไม่แกล้ง ๑ เผลอ ๑ ไม่รู้ตัว ๑ อาพาธ ๑ มีอันตราย ๑ วิกลจริต ๑
อาทิกัมมิกะ ๑ ไม่ต้องอาบัติแล.
ปาทุกาวรรค สิกขาบทที่ ๑ จบ
ปาทุกาวรรค สิกขาบทที่ ๒
[๘๖๓] สาวัตถีนิทาน ครั้งนั้น พระฉัพพัคคีย์แสดงธรรมแก่บุคคล
ผู้สวมรองเท้า . . .
พระอนุบัญญัติ
๒๐๗. ๖๒. ภิกษุพึงทำความศึกษาว่า เราจักไม่แสดงธรรม
แก่บุคคลไม่ใช่ผู้เจ็บไข้ สวมรองเท้า.

932
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๒ – หน้าที่ 933 (เล่ม 4)

สิกขาบทวิภังค์
อันภิกษุไม่พึงแสดงธรรมแก่คนไม่เป็นไข้ ผู้สวมรองเท้า ภิกษุใด
อาศัยความไม่เอื้อเฟื้อ แสดงธรรมแก่คนไม่เป็นไข้ ผู้เหยียบรองเท้าก็ดี ผู้สวม
รองเท้าก็ดี ผู้สวมรองเท้าหุ้มส้นก็ดี ต้องอาบัติทุกกฏ.
อนาปัตติวาร
ไม่แกล้ง ๑ เผลอ ๑ ไม่รู้ตัว ๑ อาพาธ ๑ มีอันตราย ๑ วิกลจริต ๑
อาทิกัมมิกะ ๑ ไม่ต้องอาบัติแล.
ปาทุกาวรรค สิกขาบทที่ ๒ จบ
ปาทุกาวรรค สิกขาบทที่ ๓
[๘๖๔] สาวัตถีนิทาน ครั้งนั้น พระฉัพพัคคีย์แสดงธรรมแก่บุคคล
ผู้นั่งในยาน . . .
พระอนุบัญญัติ
๒๐๘. ๖๓. ภิกษุพึงทำความศึกษาว่า เราจัก ไม่แสดงธรรม
แก่บุคคลไม่ใช่ผู้เจ็บไข้ไปในยาน.
สิกขาบทวิภังค์
ที่ชื่อว่า ยาน ได้แก่ คานหาม รถ เกวียน เตียงหาม วอ เปลหาม.
อันภิกษุไม่พึงแสดงธรรมแก่คนไม่เป็นไข้ผู้นั่งไปในยาน ภิกษุใด
อาศัยความไม่เอื้อเฟื้อ แสดงธรรมแก่คนไม่เป็นไข้ ผู้นั่งไปในยาน ต้อง
อาบัติทุกกฏ.

933
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๒ – หน้าที่ 934 (เล่ม 4)

อนาปัตติวาร
ไม่แกล้ง ๑ เผลอ ๑ ไม่รู้ตัว ๑ อาพาธ ๑ มีอันตราย ๑ วิกลจริต ๑
อาทิกัมมิกะ ๑ ไม่ต้องอาบัติแล.
ปาทุกาวรรค สิกขาบทที่ ๓ จบ
ปาทุกาวรรค สิกขาบทที่ ๔
[๘๖๕] สาวัตถีนิทาน ครั้งนั้น พระฉัพพัคคีย์แสดงธรรมแก่บุคคล
ผู้อยู่บนที่นอน...
พระอนุบัญญัติ
๒๐๙. ๖๔. ภิกษุพึงทำความศึกษาว่า เราจัก ไม่แสดงธรรม
แก่บุคคลไม่ใช่ผู้เจ็บไข้ ผู้อยู่บนที่นอน.
สิกขาบทวิภังค์
อันภิกษุไม่พึงแสดงธรรมแก่คนไม่เป็นไข้ ผู้อยู่บนที่นอน ภิกษุใด
อาศัยความไม่เอื้อเฟื้อ แสดงธรรมแก่คนไม่เป็นไข้ผู้นอนอยู่ โดยที่สุดแม้บน
พื้นดิน ต้องอาบัติทุกกฏ.
อนาปัตติวาร
ไม่แกล้ง ๑ เผลอ ๑ ไม่รู้ตัว ๑ อาพาธ ๑ มีอันตราย ๑ วิกลจริต ๑
อาทิกัมมิกะ ๑ ไม่ต้องอาบัติแล.
ปาทุกาวรรค สิกขาบทที่ ๔ จบ
ปาทุกาวรรค สิกขาบทที่ ๕
[๘๖๖] สาวัตถีนิทาน ครั้งนั้น พระฉัพพัคคีย์แสดงธรรมแก่บุคคล
ผู้นั่งรัดเข่า. . .

934
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๒ – หน้าที่ 935 (เล่ม 4)

พระอนุบัญญัติ
๒๑๐. ๖๕. ภิกษุพึงทำความศึกษาว่า เราจักไม่แสดงธรรม
แก่บุคคลไม่ใช่ผู้เจ็บไข้นั่งรัดเข่า.
สิกขาบทวิภังค์
อันภิกษุไม่พึงแสดงธรรมแก่คนไม่เป็นไข้ผู้นั่งรัดเข่า ภิกษุใดอาศัย
ความไม่เอื้อเฟื้อ แสดงธรรมแก่คนไม่เป็นไข้ผู้นั่งรัดเข่าด้วยมือก็ดี ผู้นังรัดเข่า
ด้วยผ้าก็ดี ต้องอาบัติทุกกฏ.
อนาปัตติวาร
ไม่แกล้ง ๑ เผลอ ๑ ไม่รู้ตัว ๑ อาพาธ ๑ มีอันตราย ๑ วิกลจริต ๑
อาทิกัมมิกะ ๑ ไม่ต้องอาบัติแล.
ปาทุกาวรรค สิกขาบทที่ ๕ จบ
ปาทุกาวรรค สิกขาบทที่ ๖
[๘๖๗] สาวัตถีนิทาน ครั้งนั้น พระฉัพพัคคีย์แสดงธรรมแก่บุคคล
ผู้โพกผ้าพันศีรษะ...
พระอนุบัญญัติ
๒๑๑. ๖๖. ภิกษุพึงทำความศึกษาว่า เราจักไม่แสดงธรรม
แก่บุคคลไม่ใช่ผู้เจ็บไข้พันศีรษะ.
สิกขาบทวิภังค์
ที่ชื่อว่า พันศีรษะ คือ พันไม่ให้เห็นปลายผม.
อันภิกษุไม่พึงแสดงธรรมแก่คนไม่เป็นไข้ผู้โพกผ้าพันศีรษะ ภิกษุใด
อาศัยความไม่เอื้อเฟื้อ แสดงธรรมแก่คนไม่เป็นไข้ผู้โพกผ้าพันศีรษะ ต้อง
อาบัติทุกกฏ.

935
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๒ – หน้าที่ 936 (เล่ม 4)

อนาปัตติวาร
ไม่แกล้ง ๑ เผลอ ๑ ไม่รู้ตัว ๑ อาพาธ ๑ ให้เขาเปิดปลายผมจุกแล้ว
แสดง ๑ มีอันตราย ๑ วิกลจริต ๑ อาทิกัมมิกะ ๑ ไม่ต้องอาบัติแล.
ปาทุกาวรรค สิกขาบทที่ ๖ จบ
ปาทุกาวรรค สิกขาบทที่ ๗
[๘๖๘] สาวัตถีนิทาน ครั้งนั้น พระฉัพพัคคีย์แสดงธรรมแก่บุคคล
ผู้ห่มผ้าคลุมศีรษะ. . .
พระอนุบัญญัติ
๒๑๒. ๖๗. ภิกษุพึงทำความศึกษาว่า เราจักไม่แสดงธรรม
แก่บุคคลไม่ใช่ผู้เจ็บไข้คลุมศีรษะ.
สิกขาบทวิภังค์
ที่ชื่อว่า คลุมศีรษะ คือ ที่เขาเรียกกันว่าคลุมตลอดศีรษะ.
อันภิกษุไม่พึงแสดงธรรมแก่คนไม่เป็นไข้ผู้คลุมศีรษะ ภิกษุใดอาศัย
ความไม่เอื้อเฟื้อ แสดงธรรมแก่คนไม่เป็นไข้ผู้คลุมศีรษะ ต้องอาบัติทุกกฏ.
อนาปัตติวาร
ไม่แกล้ง ๑ เผลอ ๑ ไม่รู้ตัว ๑ อาพาธ ๑ ให้เขาเปิดผ้าคลุมศีรษะ
แล้วแสดง ๑ มีอันตราย ๑ วิกลจริต ๑ อาทิกัมมิกะ ๑ ไม่ต้องอาบัติแล.
ปาทุกาวรรค สิกขาบทที่ ๗ จบ
ปาทุกาวรรค สิกขาบทที่ ๘
[๘๖๙] สาวัตถีนิทาน ครั้งนั้น พระฉัพพัคคีย์นั่งอยู่ที่พื้นดินแสดง-
ธรรมแก่บุคคลผู้นั่งอยู่บนอาสนะ. . .

936
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๒ – หน้าที่ 937 (เล่ม 4)

พระอนุบัญญัติ
๒๑๓. ๖๘. ภิกษุพึงทำความศึกษาว่า เรานั่งอยู่ที่พื้นดิน จัก
ไม่แสดงธรรมแก่คนไม่เจ็บไข้ ผู้นั่งบนอาสนะ.
สิกขาบทวิภังค์
อันภิกษุนั่งอยู่บนพื้น ไม่พึงแสดงธรรมแก่คนไม่เป็นไข้ผู้นั่งอยู่บน
อาสนะ ภิกษุใดอาศัยความไม่เอื้อเฟื้อ นั่งอยู่ที่พื้นดิน แสดงธรรมแก่คนไม่.
เป็นไข้ผู้นั่งอยู่บนอาสนะ ต้องอาบัติทุกกฏ.
อนาปัตติวาร
ไม่แกล้ง ๑ เผลอ ๑ ไม่รู้ตัว ๑ อาพาธ ๑ มีอันตราย ๑ วิกลจริต ๑
อาทิกัมมิกะ ๑ ไม่ต้องอาบัติแล.
ปาทุกาวรรค สิกขาบทที่ ๘ จบ
ปาทุกาวรรค สิกขาบทที่ ๙
[๘๗๐] สาวัตถีนิทาน. ครั้งนั้น พระฉัพพัคคีย์นังอยู่บนอาสนะต่ำ
แสดงธรรมแก่บุคคลผู้นั่งอยู่บนอาสนะสูง บรรดาภิกษุที่เป็นผู้มักน้อย ...ต่าง
ก็เพ่งโทษติเตียนโพนทะนาว่า ไฉนพระฉัพพัคคีย์นั่งอยู่บนอาสนะต่ำ จึงได้
แสดงธรรมแก่บุคคลผู้นั่งอยู่บนอาสนะสูงเล่า. . . แล้วกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระ-
ผู้มีพระภาคเจ้า.
ทรงสอบถาม
พระมีพระภาคเจ้าทรงสอบถามพระฉัพพัคคีย์ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
ข่าวว่า พวกเธอนั่งบนอาสนะต่ำ แสดงธรรมแก่บุคคลผู้นั่งอยู่บนอาสนะสูง
จริงหรือ.
พระฉัพพัคคีย์ทูลว่า จริง พระพุทธเจ้าข้า.

937
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๒ – หน้าที่ 938 (เล่ม 4)

ทรงติเตียนแล้วบัญญัติสิกขาบท
พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า ดูก่อนโมฆบุรุษทั้งหลาย ไฉน
พวกเธอนั่งอยู่บนอาสนะต่ำจึงได้แสดงธรรมแก่บุคคลผู้นั่งอยู่บนอาสนะสูงเล่า
การกระทำของพวกเธอนั่น ไม่เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสของชุมชนที่ยังไม่
เลื่อมใส หรือเพื่อความเลื่อมใสยิ่งของชุมชนที่เลื่อมใสแล้ว . . . ครั้นแล้วทรง
ทำธรรมีกถารับสั่งกะภิกษุทั้งหลายดังต่อไปนี้:-
เรื่องภรรยาของบุรุษจัณฑาล
[๘๗๑] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เรื่องเคยมีมาแล้ว ภรรยาของบุรุษ
จัณฑาลคนหนึ่งในพระนครพาราณสีได้ทั้งครรภ์ นางได้บอกแก่สามีว่า นาย
ดิฉัน กำลังตั้งครรภ์ ดิฉันอยากรับประทานมะม่วง.
สามีตอบว่า มะม่วงไม่มี เพราะไม่ใช่หน้ามะม่วง.
นางกล่าวว่า ถ้าไม่ได้รับประทาน ดิฉันจักตาย.
สมัยนั้น ต้นมะม่วงของหลวงมีผลไม่วาย มีอยู่ต้นหนึ่ง บุรุษจัณฑาล
นั้นเดินเข้าไปที่ต้นมะม่วงนั้น ครั้นแล้วได้ขึ้นไปแฝงอยู่บนต้นมะม่วงนั้น พอดี
พระเจ้าแผ่นดินได้เสด็จไปถึงต้นมะม่วงนั้น ครั้นแล้วประทับนั่งบนพระราช -
อาสน์สูงทรงเรียนมนต์กับพราหมณ์ปุโรหิต บุรุษจัณฑาลคิดว่า พระเจ้าแผ่นดิน
พระองค์นี้ประทับนั่งบนพระราชอาสน์สูงเรียนมนต์ ชื่อว่าไม่เคารพธรรม และ
พราหมณ์คนนี้นั่งบนอาสนะต่ำ สอนมนต์แก่พระเจ้าแผ่นดินผู้ประทับนั่งบน
พระราชอาสน์สูงก็ชื่อว่าไม่เคารพธรรม ส่วนเราผู้ลักมะม่วงของหลวง เพราะ
เหตุแห่งสตรีก็ชื่อว่าไม่เคารพธรรมเหมือนกัน แท้จริง การกระทำทั้งนี้ล้วน
ต่ำทรามทั้งนั้น ดังนี้แล้วไต่ลงมา ณ ระหว่างพระเจ้าแผ่นดินและพราหมณ์
ทั้งสองนั้นแล แล้วกล่าวคาถาขึ้นว่าดังนี้

938
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๒ – หน้าที่ 939 (เล่ม 4)

ทั้งสองไม่รู้อรรถ ทั้งสองไม่เห็น
ธรรม คือพราหมณ์ผู้สอนมนต์โดยไม่เคารพ
ธรรม และพระเจ้าแผ่นดินผู้ทรงเรียนมนต์
โดยไม่เคารพธรรม.
พราหมณ์นั้นกล่าวคาถาว่าดังนี้:-
เพราะข้าวสุกแห่งข้าวสาลีอันขาว
ผสมกับแกงเนื้อ ข้าพเจ้าบริโภคแล้ว ฉะนั้น
ข้าพเจ้าจึงมิได้ประพฤติอยู่ในธรรม ที่เหล่า
พระอริยะสรรเสริญแล้ว.
บุรุษจัณฑาลนั้นได้กล่าวสองคาถาว่าดังนี้:-
ท่านพราหมณ์ เราติเตียนการได้
ทรัพย์และการได้ยศ เพราะนั่นเป็นการเลี้ยง
ชีพโดยความเป็นเหตุให้ตกต่ำและเป็นการ
เลี้ยงชีพโดยทางที่ไม่ชอบธรรม จะประโยชน์
อันใดด้วยการเลี้ยงชีพเช่นนั้น ท่านจงรีบ
ออกไปเสียเถิด ท่านมหาพราหมณ์ แม้สัตว์
ที่มีชีวิตเหล่าอื่นก็ยังหุงหากินได้ ความ
อาธรรมที่ท่านได้ประพฤติมาแล้ว อย่าได้
ทำลายท่านดุจก้อนหินทำลายหม้อน้ำฉะนั้น.
ทรงติเตียนแล้วบัญญัติสิกขาบท
[๘๗๒] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย แม้ในกาลครั้งนั้น พราหมณ์นั่งบน
อาสนะต่ำสอนมนต์แก่พระเจ้าแผ่นดินผู้ประทับนั่งบนพระราชอาสน์สูง ยังไม่
เป็นที่พอใจของเรา ไฉนในกาลบัดนี้ จักพอใจที่ภิกษุนั่งบนอาสนะต่ำแล้ว

939
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๒ – หน้าที่ 940 (เล่ม 4)

แสดงธรรมแก่คนนั่งบนอาสนะสูงเล่า การกระทำของพวกเธอนั่น ไม่เป็นไป
เพื่อความเลื่อมใสของชุมชนที่ยังไม่เลื่อมใส หรือเพื่อความเลื่อมใสยิ่งของ
ชุมชนที่เลื่อมใสแล้ว. . .
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็แลพวกเธอพึงยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดงอย่างนี้
ว่าดังนี้:-
พระอนุบัญญัติ
๒๑๔. ๖๙. ภิกษุพึงทำความศึกษาว่า เรานั่งบนอาสนะต่ำ จัก
ไม่แสดงธรรมแก่คนไม่เจ็บไข้ ผู้นั่งบนอาสนะสูง
สิกขาบทวิภังค์
อันภิกษุผู้นั่งบนอาสนะต่ำ ไม่พึงแสดงธรรมแก่คนไม่เป็นไข้ผู้นั่งอยู่
บนอาสนะสูง ภิกษุใดอาศัยความไม่เอื้อเฟื้อ นั่งบนอาสนะต่ำแสดงธรรมแก่คน
ไม่เป็นไข้ ผู้นั่งบนอาสนะสูง ต้องอาบัติทุกกฎ
อนาปัตติวาร
ไม่แกล้ง ๑ เผลอ ๑ ไม่รู้ตัว ๑ อาพาธ ๑ มีอันตราย ๑ วิกลจริต ๑
อาทิกัมมิกะ ๑ ไม่ต้องอาบัติแล.
ปาทุกาวรรค สิกขาบทที่ ๙ จบ
ปาทุกาวรรค สิกขาบทที่ ๑๐
[๘๗๓] สาวัตถีนิทาน. ครั้งนั้น พระฉัพพัคคีย์ยืนแสดงธรรมแก่
บุคคลผู้นั่งอยู่. . .
พระอนุบัญญัติ
๒๑๕. ๗๐. ภิกษุพึงทำความศึกษาว่า เรายืนอยู่จักไม่แสดง
ธรรมแก่คนไม่เจ็บไข้ผู้นั่งอยู่.

940