ขับร้อง ข้าพระราชกุมารจักทรงกริ้ว พวกท่านพึงบอกเรา เราจะ
หลบไปเสีย ถ้าทรงสดับ พวกท่านช่วยบอกแก่เราเช่นเดียวกัน.
คนผู้ทำหน้าที่อารักขาทั้งหลายต่างพากันรับคำนาง. ฝ่ายหญิงฟ้อนนั้น
ในเวลาใกล้รุ่ง ได้ไปยืนอยู่ ณ ประเทศที่นั้น แล้วขับเสียงเพลง
ประสานกับเสียงพิณ บรรเลงเสียงพิณประสานกับเสียงเพลงขับ ด้วย
เสียงอันไพเราะ. พระกุมารทรงบรรทมฟังอยู่ ทรงยอมรับว่า ดี
มีประโยชน์. วันรุ่งขึ้น ทรงสั่งให้นางยืนขับร้องในที่ใกล้ รุ่งขึ้น
วันที่สอง รับสั่งให้ยืนขับร้องในหอคอย รุ่งขึ้นวันที่สาม รับสั่งให้
ยืนขับร้องในที่ใกล้กับพระองค์ ด้วยวิธีการอย่างนี้ พระองค์ทรงทำ
ตัณหาให้เกิดขึ้นโดยลำดับ ๆ จนถึงส้องเสพโลกธรรม ได้รู้รสกามเข้า
แล้ว ออกพระโอษฐ์ว่า ขึ้นชื่อว่ามาตุคาม เราจักไม่ยอมให้แก่ชายอื่น
ถือพระแสงดาบเสด็จลงสู่ท้องถนน เที่ยวไล่ติดตามบุรุษทั้งหลาย.
ลำดับนั้น พระราชารับสั่งให้จับพระกุมารนั้นแล้วให้นำออก
ไปเสียจากพระนคร พร้อมกับกุมาริกานั้น. ฝ่ายพระกุมารและชายา
ทั้งสอง เสด็จเข้าป่าไปยังแม่น้ำคงคาด้านใต้ สร้างอาศรมอยู่ใน
ระหว่างแม่น้ำคงคาและมหาสมุทร โดยมีแม่น้ำคงคาอยู่ด้านหนึ่ง
และมีมหาสมุทรอยู่ด้านหนึ่ง สำเร็จการอยู่ ณ ที่นั้น. ฝ่ายนาง
กุมาริกานั่งอยู่ในบรรณศาลา กำลังต้มหัวเผือกเหง้าไม้และผลไม้อยู่
พระโพธิสัตว์นำผลาผลทั้งหลายมาจากป่า. ครั้นวันหนึ่ง เมื่อพระ-
โพธิสัตว์แม้นั้นไปเพื่อต้องการผลหมากรากไม้ มีพระดาบสรูปหนึ่ง