ตลอดทาง จนถึงพระนครตักกสิลา มันทำให้ลูกหายไป ติดตาม
ไปแต่คนเดียว พระโพธิสัตว์เสด็จถึงพระนครแล้ว ประทับนั่ง
ณ ศาลาหลังหนึ่ง เเม้ว่านางยักษิณีนั้นเล่า ไม่อาจเข้าไปได้ด้วย
เดชของพระโพธิสัตว์ ก็เนรมิตรูปเป็นนางฟ้า ยืนอยู่ที่ประตูศาลา.
สมัยนั้น พระราชากำลังเสด็จออกจากพระนครตักกสิลา
ไปสู่พระอุทยาน ทรงมีจิตปฏิพัทธ์ ตรัสใช้ราชบุรุษว่า ไปถามซิ
นางคนนี้มีสามีแล้วหรือยังไม่มี ? พวกราชบุรุษเข้าไปหานาง-
ยักษิณี ถามว่า เธอมีสามีแล้วหรือ ? นางตอบว่า เจ้าค่ะ ผู้ที่
นั่งอยู่บนศาลาคนนี้เป็นสามีของดิฉัน. พระโพธิสัตว์ตรัสว่า
นั่นไม่ใช่เมียของข้าพเจ้าดอก มันเป็นนางยักษิณี คนของข้าพเจ้า
๕ คน ถูกมันกินเสียแล้ว ฝ่ายนางยักษิณีก็กล่าวว่า ท่านเจ้าค่ะ
ธรรมดาผู้ชายในยามโกรธ ก็จะพูดเอาตามที่ใจตนปรารถนา.
ราชบุรุษนั้นก็กราบทูลคำของคนทั้งสองแด่พระราชา. พระราชา
รับสั่งว่า ธรรมดาภัณฑะไม่มีเจ้าของ ย่อมตกเป็นของหลวง
แล้วตรัสเรียกยักษิณีมาให้นั่งเหนือพระคชาธาร ร่วมกับพระองค์
ทรงกระทำประทักษิณพระนคร แล้วเสด็จขึ้นสู่ปราสาท ทรง
สถาปนามันไว้ในตำแหน่งอรรคมเหสี เสด็จสรงสนานแต่ง
พระองค์เรียบร้อย เสวยพระกระยาหารในเวลาเย็นแล้ว ก็เสด็จ
ขึ้นพระแท่นที่สิริไสยาสน์ นางยักษิณีนั้นเล่า กินอาหารที่ควร
แก่ตนแล้ว ตกแต่งประดับประดาตน นอนร่วมกับพระราชา
เหนือพระแท่นที่บรรทมอันมีสิริ เวลาที่พระราชาทรงเปี่ยมไป