ได้เสด็จอุบัติขึ้นแล้วครั้งนั้น ข้าพเจ้าเกิดในตระกูล
อำมาตย์ ซึ่งสมบูรณ์ด้วยเครื่องอุปการะทุกสิ่ง มั่งคั่ง
รุ่งเรือง ร่ำรวย ในกรุงหังสวดี บางครั้งข้าพเจ้า
พร้อมด้วยบิดานำหน้าหมู่ทาสีมีบริวารมาก เข้าไปเฝ้า
พระนราสภพระองค์นั้น ได้เห็นพระชินพุทธเจ้า
ผู้ปานดังท้าววาสวะ ยังฝนคือธรรมให้ตกอยู่ เป็น
ไม่มีอาสวะเกลื่อนกล่นไปด้วยระเบียบแห่งรัศมี เช่น
กับดวงอาทิตย์ในสรทกาลแล้ว ทำจิตให้เลื่อมใส และ
สดับสุภาษิตของพระองค์ เห็นพระผู้นำนรชนทรง
สถาปนานางภิกษุณีผู้เป็นพระมาตุจฉาไว้ในตำแหน่ง
เอตทัคคะ จึงถวายปัจจัยเป็นอันมากเป็นมหาทานแด่
พระผู้เลิศกว่านรชนผู้คงที่พระองค์นั้น พร้อมทั้งพระ
สงฆ์ตลอด ๗ วัน แล้วได้หมอบลงแทบพระบาทมุ่ง
ปรารถนาตำแหน่งนั้น. ลำดับนั้น พระผู้เป็นฤาษี
พระองค์ที่ ๗ ได้ตรัสในบริษัทใหญ่ว่า สตรีใดได้นิมนต์
พระผู้นำโลกพร้อมด้วยพระสงฆ์ ให้ฉันตลอด ๗ วัน
เราจักพยากรณีสตรีนั้น ท่านทั้งหลายจงฟังเรากล่าวไว้
ให้ดี ในแสนกัปนับแต่กัปนี้ไป พระศาสดาพระนาม
ว่าโคดม ซึ่งทรงสมภพในวงศ์พระเจ้าโอกกากราชจัก
เป็นศาสดาในโลก สตรีผู้นั้น จักได้เป็นธรรมทายาท
ของพระศาสดาพระองค์นั้น จักเป็นโอรสอันธรรม-
นิรมิต จักได้เป็นสาวิกาของพระศาสดามีนามว่าโคตมี
จักได้เป็นพระมาตุจฉาบำรุงเลี้ยงชีวิตของพระพุทธเจ้า
พระองค์นั้น จักได้ความเป็นเลิศของภิกษุณีทั้งหลาย