พระพุทธคุณในสำนักของพระเถระ มีใจเลื่อมใส ถามว่า พระผู้มีพระภาคเจ้า
ประทับอยู่ ณ ที่ไหน ฟังความที่พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จปรินิพพานแล้ว
กลับได้อนิจจสัญญาว่า แม้ขึ้นชื่อว่า พระพุทธเจ้าทั้งหลายมีอานุภาพมากอย่างนี้
ยังต้องดำเนินไปสู่อำนาจแห่งความเป็นของไม่เที่ยง โอ สังขารทั้งหลายไม่
ยั่งยืนหนอ. พระเถระให้เขาเกิดอุตสาหะ ในการบูชาโพธิพฤกษ์. เขาไปสู่ที่ใกล้
โพธิพฤกษ์ ตามกาลอันเหมาะสม เจริญวิปัสสนา ระลึกถึงพระพุทธคุณ
กราบไหว้ต้นโพธิ์.
ด้วยบุญกรรมนั้น เขาท่องเที่ยวไปในเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เกิด
ในตระกูลที่มั่งคั่ง ในแคว้นโกศล ในพุทธุปบาทกาลนี้ ได้นามว่า สันธิตะ
เจริญวัยแล้ว ฟังธรรมกถาอันปฏิสังยุตด้วยอนิจจตา เกิดความสลดใจบวชแล้ว
เริ่มตั้งวิปัสสนา ได้เป็นผู้มีอภิญญา ๖ ต่อกาลไม่นานนัก เพราะญาณถึงความ
แก่กล้าแล้ว.
ท่านเมื่อระลึกถึงบุพเพนิวาสญาณของตน ระลึกถึงการกราบไหว้
โพธิพฤกษ์ และการได้เฉพาะซึ่งอนิจจสัญญา มีพุทธานุสติเป็นอารมณ์ เมื่อ
จะประกาศการบรรลุคุณพิเศษของตน ด้วยการเข้าไปอาศัยเหตุ ๒ ประการนั้น
ได้กล่าวคาถา ๒ คาถา ความว่า
เราเป็นผู้มีสติ ได้อนิจสัญญาอันสหรคต ด้วย
พุทธานุสติหนึ่ง อยู่ที่โคนอัสสัตถพฤกษ์ อันสว่างไสว
ไปด้วยแสงแห่งไฟ แก้วมณี และผ้ามีสีเขียวงาม ความ
สิ้นอาสวะเราได้บรรลุแล้วเร็วพลัน เพราะสัญญาที่เรา
ได้แล้วในครั้งนั้น ในกัปที่ ๓๑ แต่ภัทรกัปนี้ ดังนี้.
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า อสฺสตฺเถ ได้แก่ ในที่เป็นที่ประดิษฐาน
ไม้อัสสัตถะ. ไม้อัสสัตถะอันเป็นไม้ที่ตรัสรู้ ของพระผู้มีพระภาคเจ้าแห่งเรา