บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า นทนฺติ โมรา สุสิขา สุเปขุณา
สนีลคีวา สุมุขา สุคชฺชิโน ความว่า นกยูงทั้งหลายเหล่านี้ ชื่อว่า มี
หงอนงาม เพราะประกอบไปด้วยหงอน ซึ่งตั้งอยู่บนหัวงดงาม ชื่อว่า มีปีก
งดงาม เพราะประกอบไปด้วยขนหางอันเจริญ มีสีต่าง ๆ กันมิใช่น้อย งดงาม
น่าดู ชื่อว่า มีสร้อยคอเขียวงาม เพราะประกอบไปด้วยคอมีสีเขียวงาม คล้าย
กับมีสีลายพร้อย. ชื่อว่ามีปากงาม เพราะมีปากงดงาม ชื่อว่ามีเสียงไพเราะ
เพราะมีเสียงร้องเสนาะจับใจ. นกยูงทั้งหลาย มีหงอน ร้องไพเราะ
เหมือนเสียงดนตรี เปล่งศัพท์สำเนียง ร้องเสียงรื่นรมย์ใจ.
บทว่า สุสทฺทลา จาปิ มหามหี อยํ ความว่า ก็ผืนแผ่นดินใหญ่นี้
มีหญ้าแพรกดารดาษ มีติณชาติเขียวชอุ่ม.
บทว่า สุพฺยาปิตมฺพู ความว่า มีน้ำเอิบอาบทั่วไป คือมีชลาลัย
ไหลแผ่ไป เพราะมีน้ำเหนือไหลหลาก แผ่ซ่านไปในที่นั้น ๆ โดยมีฝนตก
ทำให้เกิดน้ำใหม่. ปาฐะว่า สุสุกฺกตมฺพุ ดังนี้ก็มี โดยมีอธิบายว่า มีชลาลัย
ใสสะอาดบริสุทธิ์.
บทว่า สุวลาหกํ นกํ ความว่า ก็นภากาศนี้ ชื่อว่ามีวลาหกงดงาม
เพราะมีวลาหกคือเมฆ งดงามตั้งอยู่คล้ายกับมีกลีบอุบลเขียว แผ่กระจายเต็ม
ไปโดยรอบ.
บทว่า สุกลฺลรูโป สุมนสฺส ฌายตํ ความว่า บัดนี้ ท่านก็มีความ
เหมาะสม คือมีสภาพที่ควรแก่การงาน เพราะได้ฤดูเป็นที่สบาย จงเพ่งฌาน
ที่พระโยคาวจรผู้ชื่อว่ามีใจดี เพราะมีจิตงอกงาม โดยไม่ถูกนิวรณ์ทั้งหลาย
เบียดเบียน เพ่งอยู่ด้วยสามารถ แห่งอารัมมณูปนิชฌาน และลักขณูปนิชฌาน.
บทว่า สุนิกฺกโม ฯ เป ฯ อจฺจุตํ ปทํ ความว่า ก็ท่านเพ่งฌาน
อยู่อย่างนี้ เป็นความดี คือเป็นผู้มีความพยายามดี ในพระศาสนาของพระ-
สัมมาสัมพุทธเจ้าผู้ตรัสรู้ดีแล้ว จงกระทบคือจงกระทำให้แจ้ง ด้วยสัมมาปฏิบัติ