แก้วมณี และแก้วกุณฑลอันตนสั่งสมไว้แล้ว มีความเสน่หาอย่างท้วมท้น ใน
บุตรธิดา และในภรรยาทั้งหลาย อธิบายว่า คนที่พูดอย่างหนึ่ง ทำอย่างหนึ่ง
เราเห็นแล้ว.
บทว่า ยโต ความว่า เพราะเหตุที่อุบาสกเหล่านั้น ยังมีความ
กำหนัดยินดี ในแก้วมณีและแก้วกุณฑลทั้งหลาย มีความห่วงใย ในบุตร
และภรรยาทั้งหลาย ฉะนั้น อุบาสกเหล่านั้น ย่อมชื่อว่าไม่รู้จริงซึ่งธรรมในพระ
พุทธศาสนานี้ ตามความเป็นจริง อย่างแน่แท้ คือโดยส่วนเดียว. อธิบายว่า
ก็อุบาสกทั้งหลายผู้เป็นแล้วอย่างนี้ แม้ถึงจะได้กล่าวว่า กามทั้งหลาย เป็น
ของไม่เที่ยง ก็ (เพราะ) เป็นปกติวิสัยของสัตว์ (เพราะ) กามทั้งหลายมีความ
งดงามเป็นสภาพ.
บทว่า ราคญฺจ เตสํ น พลตฺถิ เฉตฺตุํ ความว่า เพราะเหตุ
ที่กำลังแห่งญาณ เพื่อจะตัด คือเพื่อจะเข้าไปถอนขึ้นซึ่งราคะเช่นนั้น ของ
อุบาสกเหล่านั้นไม่มี ฉะนั้น คือด้วยเหตุนั้น อุบาสกเหล่านั้น จึงติด คือ
เนื่องอยู่แล้วด้วยอำนาจแห่งตัณหา ได้แก่ ติดแน่น ไม่สามารถจะสละลูกเมีย
และทรัพย์สมบัติได้ เพราะเหตุนั้น เทวดาจึงกล่าวคาถา ๒ คาถา นี้ทั้งหมด
หมายถึง (อิสิทินนะ) อุบาสกนั้นแล (แต่) เอาคนอื่นมาอ้าง.
อุบาสกฟังคำเป็นคาถามนั้นแล้ว เกิดความสลดใจ บวชแล้วบรรลุพระ
อรหัต ต่อกาลไม่นานนัก. สมดังคาถาประพันธ์ที่ท่านกล่าวไว้ ในอปทานว่า
เราเป็นผู้มีใจโสมนัส จับพัดวีชนี พัดไม้โพธิ-
อันอุดม ที่ไม้โพธิของพระผู้มีพระภาคเจ้า พระนามว่า
วิปัสสี ซึ่งเป็นไม้สูงสุด ในกัปที่ ๙๑ แต่ภัทรกัปนี้
เราได้พัดไม้โพธิอันอุดม ด้วยการพัดไม้โพธินั้น เรา