พึงเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุข แก่ข้าพระองค์ตลอดกาลนาน.
พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงสวมรองเท้า เพื่อจะทรงอนุเคราะห์เขา.
ด้วยบุญกรรมนั้น เขาท่องเที่ยวไปในเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เกิด
ในตระกูลแห่งคฤหบดี ในจัมปานคร ในพุทธุปบาทกาลนี้ ได้มีนามว่า
ภรตะ. เขาบรรลุนิติภาวะแล้ว ฟังความที่พระโสณเถระบวชแล้ว เกิดความ
สลดใจว่า แม้ขึ้นชื่อว่า พระโสณเถระก็ยังบวช ดังนี้ แล้วออกบวช กระทำ
บุรพกิจเสร็จแล้ว กระทำกรรมในวิปัสสนา ได้เป็นผู้มีอภิญญา ๖ ต่อกาล
ไม่นานนัก. สมดังคาถาประพันธ์ที่ท่านกล่าวไว้ ในอปทานว่า
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่า อโนมทัสสี
เชษฐบุรุษของโลก ประเสริฐกว่านรชน มีพระจักษุ
เสด็จออกจากที่ประทับสำราญกลางวันแล้ว เสด็จขึ้น
ถนน เราสวมรองเท้าที่ทำอย่างดีออกเดินทางไป ณ ที่
นั้น เราได้เห็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า งามน่าดูน่าชม
เสด็จดำเนินด้วยพระบาทเปล่า เรายังจิตของตนให้
เลื่อมใส ถอดรองเท้าออกวางไว้แทบพระบาท แล้ว
กราบทูลว่า ข้าแต่พระสุคตผู้เป็นมหาวีรบุรุษ เป็นใหญ่
เป็นผู้นำชั้นพิเศษ ขอเชิญพระองค์ทรงสวมรองเท้า
เถิด ข้าพระองค์จักได้ผลจากรองเท้าคู่นี้ ขอความ
ต้องการของข้าพระองค์จงสำเร็จเถิด พระผู้มีพระภาค
เจ้าทรงพระนามว่า อโนมทัสสี เชษฐบุรุษของโลก
ประเสริฐกว่านรชน ทรงสวมรองเท้าแล้ว ได้ตรัส
พระดำรัสนี้ว่า ผู้ใดเลื่อมใสถวายคู่แห่งรองเท้าแก่เรา
ด้วยมือทั้งสองของตน เราจักพยากรณ์ผู้นั้น ท่านทั้ง