ไม่สะดุ้ง ประหนึ่งไกรสรสีหราช ฉะนั้น เขาทั้งหลาย
ไม่มีความสะดุ้ง หมดความละโมบ มีปัญญา มีความ
ประพฤติสงบ เที่ยวเสาะแสวงหาโมกขธรรม ได้พากัน
เข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐสุด (ก่อนจะถึงที่-
หมาย) เหลือระยะทางอีกหนึ่งโยชน์ครึ่ง เราเกิดเจ็บ
ป่วยขึ้น เราระลึกถึงพระพุทธเจ้า ผู้ประเสริฐสุดแล้ว
ตาย ณ ที่นั้น ในกัปที่ ๙๔ แต่ภัทรกัปนี้ เราได้
สัญญาใดในกาลนั้น ด้วยการได้สัญญานั้น เราไม่รู้จัก
ทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งสัญญาในพระพุทธเจ้า. เราเผา
กิเลสทั้งหลายแล้ว ฯ ล ฯ คำสอนของพระพุทธเจ้า
เรากระทำสำเร็จแล้ว ดังนี้.
ก็พระเถระครั้นบรรลุพระอรหัตแล้ว เมื่อจะพยากรณ์พระอรหัตผล
ได้กล่าวคาถา ๒ คาถา ความว่า
ช่างกัลบกเข้ามาหาเรา ด้วยคิดว่า จักตัดผมของเรา
เราจึงเอากระจก จากช่างกลับนั้น มาส่องดูดูร่างกาย
ร่างกายของเรามิได้ปรากฏเป็นของเปล่า ความมืดคือ
อวิชชาในกาย อันเป็นต้นเหตุแห่งความมืดมน ได้
หายหมดสิ้นไป กิเลสดุจผ้าขี้ริ้วทั้งปวง เราตัดขาด
แล้ว บัดนี้ภพใหม่มิได้มี ดังนี้.
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า เกเส เม โอลิขิสฺลนฺติ กปฺปโก
อุปสงฺกมิ ความว่า ในเวลาที่เราเป็นคฤหัสถ์ ในเวลาโกนหนวด ช่าง
กัลบก คือช่างทำผม คิดว่า จักตัด จะแต่งผมของเรา จึงเข้ามาหาเรา โดย
เตรียมจะตัดผมเป็นต้น. บทว่า ตโต ได้แก่ จากช่างกัลบกนั้น. บทว่า