บัณฑิตพึงทราบประเภทแห่งทุกกฎ แม้ในทุกกฏวาร มีอาทิว่า
วิหารสฺส อุปจาเร ดังนี้ ในคำว่า อุปจารํ ฐเปตฺวา เสยฺยํ สนฺถรติ วา
สนฺถราเปติ วา นี้ และอื่นจากคำนี้ เหมือนประเภทแห่งปาจิตตีย์ที่ตรัส
ไว้ในการทำกิจทั้ง ๒ คือ เพียงแต่นั่งทับและนอนทับ ในคำว่า อภินิสีทติ
วา อภินิปชฺชติ วา นี้ และในประเภทแห่งประโยคฉะนั้น. เพราะไม่ต้องการ
ด้วยวิสภาคบุคคลเช่นนี้อยู่ในวิหารเดียวกัน หรือในบริเวณเดียวกัน ฉะนั้น
ท่านจึงห้ามการอยู่แห่งวิสภาคบุคคลนั้น ในที่ทุกแห่งทีเดียว.
แม้ในคำว่า อญฺญสฺส ปุคฺคลิเก นี้ ก็พึงทราบวินิจฉัยดังนี้.
เสนาสนะส่วนตัวของบุคคลผู้คุ้นเคยกัน เช่นเดียวกับของส่วนตัวของตนเหมือน
กัน ไม่เป็นอาบัติในเสนาสนะส่วนตัวบุคคลของผู้คุ้นเคยกันนั้น.
บทว่า อาปทาสุ มีความว่า ถ้ามีอันตรายแห่งชีวิตและพรหมจรรย์
แก่ภิกษุผู้อยู่ภายนอก ในเพราะอันตรายเห็นปานนั้น ไม่เป็นอาบัติแม้แก่ภิกษุ
ผู้เข้าไป (ภายใน). บทที่เหลือตื้นทั้งนั้นแล.
สิกขาบทนี้ มีสมุฎฐานดุจปฐมปาราชิก เป็นกิริยา สัญญาวิโมกข์
สจิตตกะ โลกวัชชะ กายกรรม อกุศลจิต เป็นทุกขเวทนา ดังนี้แล.
อนูปขัชชสิกชาบทที่ ๖ จบ