ภิกษุพึงตัดสังโยชน์เบื้องต่ำ ๕ พึงละสังโยชน์
เบื้องสูง ๕ พึงเจริญอินทรีย์ ๕ มีศรัทธาเป็นต้นให้ยิ่ง
ขึ้นไป ภิกษุผู้ก้าวล่วงธรรมเป็นเครื่องข้อง ๕ ประการ
ได้แล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ข้ามโอฆะได้แล้ว
ดังนี้.
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ปญฺจ ฉินฺเท ความว่า ภิกษุพึงตัด
คือพึงละสังโยชน์เบื้องต่ำ ๕ อันจะยังสัตว์ให้อุบัติและบังเกิดในอบาย ด้วย
ศาสตราคือด้วยมรรคทั้ง ๓ เบื้องต่ำ ดุจบุรุษตัดเชือกที่ผูกไว้ที่เท้าออกไปฉะนั้น.
บทว่า ปญฺจ ชเห ความว่า พึงละหรือพึงตัดสังโยชน์เบื้องสูง ๕
อันเป็นเหตุให้เข้าถึงเทวโลกชั้นสูง ด้วยพระอรหัตมรรค ดุจบุรุษตัดเชือกที่
ผูกไว้ที่คอฉะนั้น.
บทว่า ปญฺจ จุตฺตริ ภาวเย ความว่า พึงเจริญอินทรีย์ ๕ มี
ศรัทธาเป็นต้น เพื่อละสังโยชน์อันเป็นไปในส่วนเบื้องสูง เหล่านั้นแหละให้
ยิ่งขึ้นไป คือให้สูงกว่าการได้บรรลุพระอนาคามิมรรค ได้แก่พึงเจริญด้วย
สามารถแห่งการได้บรรลุมรรคอันสูงสุด.
บทว่า ปญฺจสงฺคาติโก ความว่า ภิกษุผู้เป็นอย่างนี้ คือผู้ก้าวล่วง
ธรรมเป็นเครื่องข้อง ๕ ประการได้แล้ว ด้วยการก้าวล่วง คือละ เครื่องข้อง
คือ ราคะ โทสะ โมหะ มานะและทิฏฐิ ๕ อย่างได้.
บทว่า ภิกขุ โอติณฺโณ วุจฺจติ ความว่า ท่านเรียกว่า ภิกษุ
เพราะทำลายกิเลสได้โดยประการทั้งปวง และเพราะข้ามโอฆะคือกาม โอฆะ
คือภพ โอฆะคือทิฏฐิ และโอฆะคืออวิชชา แล้วตั้งอยู่ในพระนิพพานอันเป็น
ฝั่งของกิเลสเหล่านั้น.
จบอรรถกถากุณฑธานเถรคาถา