บังเกิดในภพดาวดึงส์ ในเทวโลก ชั้นกามาพจร. สมดังคำที่ท่านกล่าวไว้ใน
อปทานว่า
ในที่ไม่ไกลภูเขาหิมวันต์ มีภูเขาชื่อ นิสภะ
เราได้สร้างอาศรมไว้ที่ภูเขานิสภะนั้น อย่างสวยงาม
สร้างบรรณศาลาไว้ ในกาลนั้น เราเป็นชฎิล มีนาม
ว่าโกลิยะ มีเดชรุ่งเรือง ผู้เดียวไม่มีเพื่อน อยู่ที่
ภูเขาชื่อนิสกะ เวลานั้น เราไม่บริโภคผลไม้ เหง้ามัน
และใบไม้ ในกาลนั้น เราอาศัยใบไม้เป็นต้นที่เกิดเอง
และหล่นเอง เลี้ยงชีวิต เราย่อมไม่ยังอาชีพให้กำเริบ
แม้จะสละชีวิต ย่อมยังจิตของตนให้ยินดี เว้นอเนสนา
จิตสัมปยุตด้วยราคะเกิดขึ้นแล้วแก่เราเมื่อใด เมื่อนั้น
เราบอกตนเองว่า เราผู้เดียวทรมานจิตนั้น ท่านกำหนัด
ในอารมณ์เป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัด ขัดเคืองใน
อารมณ์เป็นที่ตั้งแห่งความขัดเคือง และหลงใหลใน
อารมณ์เป็นที่ตั้งแห่งความหลงใหล จงออกไปเสียจาก
ป่า ที่อยู่นี้เป็นของท่านผู้บริสุทธิ์ ไม่มีมลทิน มีตบะ
ท่านอย่าประทุษร้ายผู้บริสุทธิ์เลย จงออกไปเสียจากป่า
เถิด ท่านจักเป็นเจ้าของเรือน ได้สิ่งที่ควรได้เมื่อใด
ท่านอย่ายินดี แม้ทั้ง ๒ อย่างนั้นเลย จงออกไปจาก-
ป่าเถิด เปรียบเหมือนฟืนเผาศพ ใช้ทำกิจอะไร ๆ
ที่ไหนไม่ได้ ไม้นั้นเขาไม่ได้สมมติว่า เป็นไม้ในบ้าน
หรือในป่า ฉันใด ท่านก็เปรียบเหมือนฟืนเผาศพ
ฉันนั้น จะเป็นคฤหัสถ์ก็ไม่ใช่ จะเป็นสมณะก็ไม่ใช่