หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๒ – หน้าที่ 211 (เล่ม 4)

บอกเข้าตติยฌานในสุญญาคาร
. . .ข้าพเจ้าเข้าตติยฌานในสุญญาคารแล้ว ดังนี้ ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เข้าตติยฌานในสุญญาคารอยู่ . . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้เข้าตติยฌานในสุญญาคารแล้ว . . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้ได้ตติยฌานในสุญญาคาร. . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้ชำนาญตติยฌานในสุญญาคาร. . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .ตติยฌานในสุญญาคาร ข้าพเจ้าทำให้แจ้งแล้ว. . .ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
บอกเข้าจตุตถฌานในสุญญาคาร
. . .ข้าพเจ้าเข้าจตุตถฌานในสุญญาคารแล้ว ดังนี้ ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เข้าจตุตถฌานในสุญญาคารอยู่ . . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้เข้าจตุตถฌานในสุญญาคารแล้ว . . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้ได้จตุตถฌานในสุญญาคาร. . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้ชำนาญในจตุตถฌานในสุญญาคาร. . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .จตุตถฌานในสุญญาคาร ข้าพเจ้า ทำให้แจ้งแล้ว . . . ต้องอาบัติ
ปาจิตตีย์.
บอกเข้าปฐมฌานและทุติยฌาน
[๓๒๒] บทว่า บอก คือ ภิกษุบอกแก่อนุปสัมบันว่า ข้าพเจ้าเข้า
ปรมฌานทุติยฌานแล้ว ดังนี้ ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เข้าปรมฌานและทุติยฌานอยู่ . . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้เข้าปฐมฌานและทุติยฌานแล้ว . . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้ได้ปฐมฌานและทุติยฌาน. . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์.

211
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๒ – หน้าที่ 212 (เล่ม 4)

. . .เป็นผู้ชำนาญในปฐมฌานและทุติยฌาน. . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .ปฐมฌานและทุติยฌาน ข้าพเจ้าทำให้แจ้งแล้ว ...ต้องอาบัติปาจิตตีย์
บอกเข้าปฐมฌานและตติยฌาน
. . . ข้าพเจ้าเข้าปฐมฌานและตติยฌานแล้ว ดังนี้ ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . . เข้าปฐมฌานและตติยฌานอยู่ . . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์
. . . เป็นผู้เข้าปฐมฌานและตติยฌานแล้ว . . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . . เป็นผู้ได้ปฐมฌานและตติยฌาน... ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . . เป็นผู้ชำนาญในปรมฌานและตติยฌาน... ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . . ปฐมฌานและตติยฌาน ข้าพเจ้าทำให้แจ้งแล้ว . . . ต้องอาบัติ
ปาจิตตีย์.
บอกเข้าปฐมฌานและจตุตฌาน
. . .ข้าพเจ้าเข้าปฐมฌานและจตุตถฌานแล้ว ดังนี้ ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เข้าปฐมฌานและจตุตถฌานอยู่ ... ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้เข้าปฐมฌานและจตุตถฌานแล้ว . . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์
. . .เป็นผู้ได้ปฐมฌานและจตุตถฌาน ... ต้องอาบัติปาจิตตีย์
. . .เป็นผู้ชำนาญในปฐมฌานและจตุตถฌาน. . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .ปฐมฌานและจตุตถฌาน ข้าพเจ้าทำให้แจ้งแล้ว . . . ต้องอาบัติ
ปาจิตตีย์.
บอกเข้าปฐมฌานและสุญญตวิโมกข์
[๓๒๓] บทว่า บอก คือ ภิกษุบอกแก่อนุปสัมบันว่า ข้าพเจ้าเข้า
ปฐมฌานและสุญญตวิโมกข์แล้ว ดังนี้ ต้องอาบัติปาจิตตีย์.

212
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๒ – หน้าที่ 213 (เล่ม 4)

. . .เข้าปฐมฌานและสุญญตวิโมกข์อยู่ . . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้เข้าปฐมฌานและสุญญตวิโมกข์แล้ว . . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์
. . .เป็นผู้ได้ปฐมฌานและสุญญตวิโมกข์. . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้ชำนาญในปฐมฌานและสุญญตวิโมกข์. . .ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .ปฐมฌานและสุญญตวิโมกข์ ข้าพเจ้าทำให้แจ้งแล้ว . . . ต้องอาบัติ
ปาจิตตีย์.
บอกเข้าปฐมฌานและอนิมิตตวิโมกข์
. . .ข้าพเจ้าเข้าปฐมฌานและอนิมิตตวิโมกข์แล้ว ดังนี้ ต้องอาบัติ .
ปาจิตตีย์.
. . .เข้าปฐมฌานและอนิมิตตวิโมกข์อยู่ . . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้เข้าปฐมฌานและอนิมิตตวิโมกข์แล้ว . . .ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้ได้ปฐมฌานและอนิมิตตวิโมกข์ . . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้ชำนาญในปฐมฌานและอนิมิตตวิโมกข์. . .ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .ปฐมฌานและอนิมิตตวิโมกข์ ข้าพเจ้าทำให้แจ้งแล้ว . . . ต้อง
อาบัติปาจิตตีย์.
บอกเข้าปฐมฌานและอัปปณิหิตวิโมกข์
. . .ข้าพเจ้าเข้าปฐมฌานและอัปปณิหิตวิโมกข์แล้ว ดังนี้ ต้องอาบัติ
ปาจิตตีย์.
. . .เข้าปฐมฌานและอัปปณิหิตวิโมกข์อยู่ . . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้เข้าปฐมฌานและอัปปณิหิตวิโมกข์แล้ว. . .ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้ได้ปฐมฌานและอัปปณิหิตวิโมกข์. . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์

213
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๒ – หน้าที่ 214 (เล่ม 4)

. . .เป็นผู้ชำนาญในปฐมฌานและอัปปณิหิตวิโมกข์. . . ต้องอาบัติ
ปาจิตตีย์.
. . . ปฐมฌานและอัปปณิหิตวิโมกข์ ข้าพเจ้าทำให้แจ้งแล้ว . . . ต้อง
อาบัติปาจิตตีย์.
บอกเข้าปฐมฌานและสุญญตสมาธิ
. . .ข้าพเจ้าเข้าปฐมฌานและสุญญตสมาธิแล้ว ดังนี้ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
. . .เข้าปฐมฌานเเละสุญญตสมาธิอยู่ . . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้เข้าปฐมฌานและสุญญตสมาธิแล้ว . . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้ได้ปฐมฌานและสุญญตสมาธิ . . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้ชำนาญในปฐมฌานและสุญญตสมาธิ . . .ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .ปฐมฌานและสุญญตสมาธิ ข้าพเจ้าทำให้แจ้งแล้ว . . . ต้องอาบัติ
ปาจิตตีย์.
บอกเข้าปฐมฌานและอนิมิตตสมาธิ
. . .ข้าพเจ้าเข้าปฐมฌานและอนิมิตตสมาธิแล้ว ดังนี้ ต้องอาบัติ
ปาจิตตีย์.
. . .เข้าปฐมฌานและอนิมิตตสมาธิอยู่. . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์
. . .เป็นผู้เข้าปฐมฌานและอนิมิตตสมาธิแล้ว . . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้ได้ปฐมฌานและอนิมิตตสมาธิ . . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์
. . .เป็นผู้ชำนาญในปฐมฌานและอนิมิตตสมาธิ. . .ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .ปฐมฌานและอนิมิตตสมาธิ ข้าพเจ้าทำให้แจ้งแล้ว . . . ต้องอาบัติ
ปาจิตตีย์.

214
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๒ – หน้าที่ 215 (เล่ม 4)

บอกเข้าปฐมฌานและอัปปณิหิตสมาธิ
. . .ข้าพเจ้าเข้าปฐมฌานและอัปปณิหิตสมาธิแล้ว ดังนี้ ต้องอาบัติ
ปาจิตตีย์
. . .เข้าปฐมฌานและอัปปณิหิตสมาธิอยู่ . . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้เข้าปฐมฌานและอัปปณิหิตสมาธิแล้ว . . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้ได้ปฐมฌานและอัปปณิหิตสมาธิ. . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้ชำนาญในปฐมฌานและอัปปณิหิตสมาธิ . . . ต้องอาบัติ
ปาจิตตีย์
. . .ปฐมฌานและอัปปณิหิตสมาธิ ข้าพเจ้าทำให้แจ้งแล้ว . . . . ต้อง
อาบัติปาจิตตีย์
บอกเข้าปฐมฌานและสุญญตสมาบัติ
[๓๒๔] บทว่า บอก คือ ภิกษุบอกแก่อนุสัมบันว่า ข้าพเจ้าเข้า
ปฐมฌานและสุญญตสมาบัติแล้ว ดังนี้ ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เข้าปฐมฌานและสุญญตสมาบัติอยู่ . . .ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้เข้าปฐมฌานและสุญญตสมาบัติแล้ว . . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้ได้ปฐมฌานและสุญญตสมาบัติ . . .ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้ชำนาญในปฐมฌานและสุญญตสมาบัติ. . .ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .ปฐมฌานและสุญญตสมาบัติ ข้าพเจ้าทำให้แจ้งแล้ว . . . ต้องอาบัติ
ปาจิตตีย์.
บอกเข้าปฐมฌานและอนิมิตสมาบัติ
. . .ข้าพเจ้าเข้าปฐมฌานและอนิมิตตสมาบัติแล้ว. . .ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เข้าปฐมฌานและอนิมิตตสมาบัติอยู่ . . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์.

215
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๒ – หน้าที่ 216 (เล่ม 4)

. . .เป็นผู้เข้าปฐมฌานและอนิมิตทสมาบัติแล้ว . . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้ได้ปฐมฌานและอนิมิตตสมาบัติ .. .ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้ชำนาญในปฐมฌานและอนิมิตตสมาบัติ ...ต้องอาบัติ
ปาจิตตีย์.
. . .ปฐมฌานและอนิมิตตสมาบัติ ข้าพเจ้าทำให้แจ้งแล้ว . . ต้อง
อาบัติปาจิตตีย์.
บอกเข้าปฐมฌานและอัปปณิหิตสมาบัติ
. . .ข้าพเจ้าเข้าปฐมฌานและอัปปณิหิตสมาบัติแล้ว ดังนี้ ต้องอาบัติ
ปาจิตตีย์.
. . .เข้าปฐมฌานและอัปปณิหิตสมาบัติอยู่ . . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้เข้าปฐมฌานและอัปปณิหิตสมธิแล้ว ...ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้ได้ปฐมฌานและอัปปณิหิตสมาบัติ . . .ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .ผู้ชำนาญในปฐมฌานและอัปปณิหิตสมาบัติ ...ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .ปฐมฌานและอัปปณิหิคสมาบัติ ข้าพเจ้าทำให้แจ้งแล้ว . . . ต้อง
อาบัติปาจิตตีย์.
บอกเข้าปฐมฌานและวิชา ๓
[๓๒๕] บทว่า บอก คือ ภิกษุบอกแก่อนุปสัมบันว่า ข้าพเจ้าเข้า
ปฐมฌานและวิชชา ๓ แล้ว ดังนี้ ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เข้าปฐมฌานและวิชชา ๓ อยู่ . . .ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้เข้าปฐมฌานและวิชชา ๓ แล้ว . . .ต้องอาบัติปาจิตตีย์
. . .เป็นผู้ได้ปฐมฌานและวิชชา ๓. . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์.

216
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๒ – หน้าที่ 217 (เล่ม 4)

. . .เป็นผู้ชำนาญในปฐมฌานและวิชชา ๓ . . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .ปฐมฌานและวิชชา ๓ ข้าพเจ้าทำให้แจ้งแล้ว. . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
บอกเข้าปฐมฌานและสติปัฏฐาน ๔
[๓๒๖] บทว่า บอก คือ ภิกษุบอกแก่อนุปสัมบันว่า ข้าพเจ้าเข้า
ปฐมฌาน และสติปัฏฐาน ๔ แล้ว ดังนี้ ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เข้าปฐมฌานและสติปัฏฐาน ๔ อยู่ . . .ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้เข้าปฐมฌานและสติปัฏฐาน ๔ แล้ว . . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้ได้ปฐมฌานและสติปัฏฐาน ๔. . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้ชำนาญในปฐมฌานและสติปัฏฐาน ๔. . .ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .ปฐมฌานและสติปัฏฐาน ๔ ข้าพเจ้าทำให้แจ้งแล้ว . . . ต้องอาบัติ
ปาจิตตีย์.
บอกเข้าปฐมฌานและสัมมัปปธาน ๔
. . .ข้าพเจ้าเข้าปฐมฌานและสัมมัปปธาน ๔ แล้ว ดังนี้ ต้องอาบัติ
ปาจิตตีย์.
. . .เข้าปฐมฌานและสัมมัปปธาน ๔ อยู่ . . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์
. . .เป็นผู้เข้าปฐมฌานและสัมมัปปธาน ๔ แล้ว . . .ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้ได้ปฐมฌานและสัมมัปปธาน ๔ . . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้ชำนาญปฐมฌานและสัมมัปปธาน ๔. . .ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .ปฐมฌานและสัมมัปปธาน ๔ ข้าพเจ้าทำให้แจ้งแล้ว . . . ต้องอาบัติ
ปาจิตตีย์.

217
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๒ – หน้าที่ 218 (เล่ม 4)

บอกเข้าปฐมฌานและอิทธิบาท ๔
. . .ข้าพเจ้าเข้าปฐมฌานและอิทธิบาท ๔ แล้ว ดังนี้ ต้องอาบัติ
ปาจิตตีย์.
. . .เข้าปฐมฌานและอิทธิบาท ๔ อยู่ . . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้เข้าปฐมฌานและอิทธิบาท ๔ แล้ว . . .ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้ได้ปฐมฌานและอิทธิบาท ๔ . . .ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้ชำนาญในปฐมฌานและอิทธิบาท ๔ . . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .ปฐมฌานและอิทธิบาท ๔ ข้าพเจ้าทำให้แจ้งแล้ว . . . ต้องอาบัติ
ปาจิตตีย์.
บอกเข้าปฐมฌานและอินทรีย์ ๔
[๓๒๗] บทว่า บอก คือ ภิกษุบอกแก่อนุปสัมบันว่า ข้าพเจ้าเข้า
ปฐมฌานและอินทรีย์ ๕ แล้ว ดังนี้ ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เข้าปฐมฌานและอินทรีย์ ๕ อยู่ . . .ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้เข้าปฐมฌานและอินทรีย์ ๕ แล้ว . . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้ได้ปฐมฌานและอินทรีย์ ๕ . . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้ชำนาญในปฐมฌานและอินทรีย์ ๕ . . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .ปฐมฌานและอินทรีย์ ๕ ข้าพเจ้าทำให้แจ้งแล้ว . . . ต้องอาบัติ
ปาจิตตีย์.
บอกเข้าปฐมฌานและพละ ๕
. . .ข้าพเจ้าเข้าปฐมฌานและพละ ๕ แล้ว ดังนี้ ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เข้าปฐมฌานและพละ ๕ อยู่ . . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์.

218
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๒ – หน้าที่ 219 (เล่ม 4)

. . .เป็นผู้เข้าปฐมฌานและพละ ๕ แล้ว . . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้ได้ปรมฌานและพละ ๕ . . .ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้ชำนาญในปรมฌานและพละ ๕ . . .ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .ปฐมฌานและพละ ๕ ข้าพเจ้าทำให้แจ้งแล้ว . . .ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
บอกเข้าปฐมฌานและโพชฌงค์ ๗
[๓๒๘] บทว่า บอก คือ ภิกษุบอกแก่อนุปสัมบันว่า ข้าพเจ้าเข้า
ปฐมฌานและโพชฌงค์ ๗ แล้ว ดังนี้ ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เข้าปฐมฌานและโพชฌงค์ ๗ อยู่ . . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์
. . .เป็นผู้เข้าปฐมฌานและโพชฌงค์ ๗ แล้ว . . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้ได้ปฐมฌานและโพชฌงค์ ๗ . . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้ชำนาญในปฐมฌานและโพชฌงค์ ๗. . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .ปฐมฌานและโพชฌงค์ ๗ ข้าพเจ้าทำให้แจ้งแล้ว . . . ต้องอาบัติ
ปาจิตตีย์.
บอกเข้าปฐมฌานและอริยมรรคมีองค์ ๘
[๓๒๙] บทว่า บอก คือ ภิกษุบอกแก่อนุปสัมบันว่า ข้าพเจ้าเข้า
ปฐมฌานและอริยมรรคมีองค์ ๘ แล้ว ดังนี้ ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เข้าปฐมฌานและอริยมรรคมีองค์ ๘ อยู่ . . .ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้เข้าปฐมฌานและอริยมรรคมีองค์ ๘ แล้ว . . .ต้องอาบัติ
ปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้ได้ปฐมฌานและอริยมรรคมีองค์ ๘ . . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์

219
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๒ – หน้าที่ 220 (เล่ม 4)

. . .เป็นผู้ชำนาญในปฐมฌานและอริยมรรคมีองก์ ๘ . . . ต้องอาบัติ
ปาจิตตีย์.
. . .ปฐมฌานและอริยมรรคมีองค์ ๘ ข้าพเจ้าทำให้แจ้งแล้ว . . . ต้อง
อาบัติปาจิตตีย์.
บอกเข้าปฐมฌานและโสดาปัตติผล
[๓๓๐] บทว่า บอก คือ ภิกษุบอกแก่อนุปสัมบันว่า ข้าพเจ้าเข้า
ปฐมฌานและโสดาปัตติผลแล้ว ดังนี้ ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เข้าปฐมฌานและโสดาปัตติผลอยู่ . . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้เข้าปฐมฌานและโสดาปัตติผลแล้ว . . . ต้องอาบัติปาจิตติย์.
. . .เป็นผู้ได้ปฐมฌานและโสดาปัตติผล . . .ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้ชำนาญในปฐมฌานและโสดาปัตติผล . . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .ปฐมฌานและโสดาปัตติผล ข้าพเจ้าทำให้แจ้งแล้ว . . . ต้องอาบัติ
ปาจิตตีย์.
บอกเข้าปฐมฌานและสกทาคามิผล
. . .ข้าพเจ้าเข้าปฐมฌานและสกทาคามิผลแล้ว ดังนี้ ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เข้าปฐมฌานและสกทาคามิผลอยู่ . . .ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้เข้าปฐมฌานและสกทาคามิผลแล้ว . . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้ได้ปฐมฌานและสกทาคามิผล . . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .เป็นผู้ชำนาญในปฐมฌานและสกทาคามิผล . . . ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
. . .ปฐมฌานและสกทาคามิผล ข้าพเจ้าทำให้แจ้งแล้ว . . . ต้องอาบัติ
ปาจิตตีย์.

220