จากการตกนรก ให้นางสำเร็จสวรรค์สมบัติ ดังนี้ ในเวลาเช้า นุ่งแล้ว
ถือเอาบาตรและจีวรไป เดินมุ่งหน้าไปยังที่อยู่ของนาง. ครั้งนั้น ท้าว
สักกะ จอมทวยเทพจำแลงเพศ [ปลอมตัว] น้อมอาหารทิพย์หลายรสมี
แกงและกับหลายอย่างเข้าไปถวาย. พระเถระรู้ข้อนั้น ได้ห้ามว่า ท่านท้าว
โกสิยะ พระองค์ได้ทรงทำกุศลไว้แล้ว เหตุอะไร จึงทรงทำอย่างนี้
ขอพระองค์โปรดอย่าได้แย่งสมบัติของคนเข็ญใจยากไร้เลย จึงยืนอยู่ข้าง
หน้าของหญิงนั้น.
นางเห็นพระเถระแล้ว คิดว่า พระเถระนี้เป็นผู้มีอานุภาพใหญ่
ในที่นี้ก็ไม่มีของกิน หรือของเคี้ยว ซึ่งควรถวายแก่พระเถระนี้ เพียง
น้ำข้าวข้าวดังอันจืดเย็นไม่มีรสเกลื่อนไปด้วยหญ้าและผงธุลี ซึ่งอยู่ใน
ภาชนะสกปรกนี้ เราไม่อาจจะถวายแก่พระเถระเช่นนี้ได้ จึงกล่าวว่าขอ
ท่านจงโปรดสัตว์ข้างหน้าเถิด. พระเถระยืนนิ่งไม่ขยับเท้าแม้แต่ข้างเดียว
ผู้คนอยู่ในเรือนนำภิกขาเข้าไปถวาย. พระเถระก็ไม่รับ. หญิงเข็ญใจนั้น
รู้ว่าพระเถระประสงค์จะรับเฉพาะของเรา จึงมาในที่นี้ก็เพื่ออนุเคราะห์เรา
เท่านั้น มีใจเลื่อมใส เกิดความเอื้อเฟื้อ ก็เกลี่ยข้าวตังนั้นลงในบาตรของ
พระเถระ พระเถระแสดงอาการว่าจะฉันเพื่อให้ความเลื่อมใสของนาง
เจริญเพิ่มขึ้น. ผู้คนปูอาสนะแล้ว พระเถระก็นั่งบนอาสนะนั้นฉันข้าวตัง
นั้น ดื่มน้ำแล้วชักมือออกจากบาตร ทำอนุโมทนากล่าวกะหญิงเข็ญใจ
นั้นว่า ท่านได้เป็นมารดาของอาตมาในอัตภาพที่สามจากนี้ดังนี้แล้วก็ไป.
นางยังความเลื่อมใสให้เกิดในพระเถระยิ่งนัก ทำกาละตายไปในยามต้น
แห่งราตรีนั้นแล้ว ก็เข้าไปอยู่ร่วมกับเหล่าเทพนิมมานรดี. ครั้งนั้น
ท้าวสักกเทวราชทรงทราบว่านางทำกาละแล้ว ทรงรำพึงอยู่ว่า นางเถิด