ไม่จริงไม่แท้นั้น เป็นเรื่องจริงเรื่องแท้ เป็นสมุฏฐานของวิญญัติอย่างนั้น
สำรวม อธิบายว่า งดเว้นจากมุสาวาทนั้น. จ ศัพท์เป็นสัมปิณฑนัตถะ
รวมไว้.
ในบทว่า เถยฺยา ความเป็นขโมย เรียกเถยยะ อธิบายว่า ขโมย
ของเขาด้วยเจตนาเป็นขโมย. โดยความเถยยเจตนาของผู้ที่สำคัญในของที่
เจ้าของหวงแหนว่าเจ้าของหวงแหน เป็นสมุฏฐานของความพยายามที่จะ
ขโมยของเขาชื่อว่าเถยยะ. หรือสัมพันธ์ความว่า เจตนาที่สำรวมห่างไกล
จากเถยยะ เจตนาเป็นขโมยนั้น.
ในบทว่า อติจารา ความประพฤติล่วง ชื่อว่าอติจารา อธิบายว่า
ความประพฤติล่วงขอบเขตของโลก ด้วยอำนาจความในฐานะที่ไม่ควร
ละเมิด ชื่อว่ามิจฉาจาร. หญิง ๒๐ จำพวก คือ ๑๐ จำพวกได้แก่หญิง
ที่มารดารักษา หญิงที่บิดารักษา หญิงที่บิดามารดารักษา หญิงที่พี่ชาย
รักษา หญิงที่พี่สาวรักษา หญิงที่ญาติรักษา หญิงที่โคตรสกุลรักษา
หญิงที่ธรรมเนียมรักษา หญิงที่มีอารักขา หญิงที่มีสินไหมแก่ผู้ละเมิด
๑๐ จำพวก ได้แก่ หญิงที่เขาซื้อมาเป็นภริยา หญิงที่ยอมเป็นภริยาโดย
สมัครใจ หญิงที่ยอมเป็นภริยาโดยโภคสมบัติ หญิงที่หอบผ้าหนีตามผู้ชาย
หญิงที่แต่งงาน หญิงที่ชายสวมเทริด หญิงที่เป็นทาสีและภริยา หญิงที่เป็น
คนงานและภริยา หญิงเชลย หญิงที่ชายอยู่ร่วมชั่วขณะ ชื่อว่าอคมนีย-
ฐาน ๆ ที่ไม่ควรละเมิด สำหรับชายทั้งหลาย. ส่วนชายอื่น ๆ ก็ชื่อว่า
อคมนียฐานในหญิงทั้งหลาย เฉพาะสำหรับหญิง ๑๒ จำพวก คือหญิง
มีอารักขาและหญิงมีสินไหมรวม ๒ และหญิง ๑๐ จำพวก มีหญิงที่ชายซื้อ
มาเป็นต้น อคมนียฐานนี้เท่านั้น ท่านประสงค์เอาในบทว่ามิจฉาจารนี่.