ธรรมที่พวกเทวดากล่าวไว้ ชื่อว่า เทวตาภาษิต. เทวจตาภาษิตธรรม
นั้น บัณฑิตพึงทราบ ด้วยอำนาจแห่งเรื่องมีเทวดาสังยุตต์ เทวปุตตสังยุตต์
มารสังยุตต์ พรหมสังยุตต์ และสักกสังยุตต์เป็นต้น .
บทว่า อตฺถูปสญฺหิโต ได้แก่ ธรรมที่อาศัยอรรถกถา.
บทว่า ธมฺมูปสญฺหิโต ได้แก่ ธรรมที่อาศัยพระบาลี. แม้ด้วยบท
ทั้งสองนี้ พระอุบาลีเถระกล่าวธรรมที่อาศัยนิพพานซึ่งปราศจากวัฎฏะนั่นเอง.
จะกล่าวถึงธรรมที่อาศัยนิพพานซึ่งปราศจากวัฎฏะ แม้ก็จริง, ถึงกระนั้น ก็เป็น
อาบัติแก่.ภิกษุผู้ให้กล่าวธรรมที่ขึ้นสู่สังคีติทั้ง ๓ คราว โดยบทเหมือนกัน . ไม่
เป็นอาบัติแม้ไม่คำที่อาศัยพระนิพพาน ซึ่งท่านรจนาไว้ โดยผูกเป็นคาถาโศลก
เป็นต้น ด้วยอำนาจภาษาต่าง ๆ.
แม้ในสูตรที่ไม่ได้ยกขึ้นสู่สังคีติ ๓ คราว เช่นนี้ คือ กุลุมพสูตร
ราโชวาทสูตร ติกขินทริยสูตร จตุปริวัตตสูตร และนันโทปนันทสูตร ก็เป็น
อาบัติเหมือนกัน ถึงการทรมานพญานาค ชื่อว่าอปลาละ อาจารย์ก็กล่าวไว้
(ด้วยอำนาจก่อให้เกิดอาบัติ) แต่ในมหาปัจจรีท่านปฎิเสธ (อธิบายว่าไม่ เป็น
อาบัติ).
ในปฏิภาณส่วนตัวของพระเถระ ในเมณฑกมิลินทปัญหา ไม่เป็น
อาบัติ. (แต่) เป็นอาบัติในถ้อยคำที่พระเถระนำมากล่าว เพื่อให้พระราชาทรง
ยินยอม.
อาจารย์ทั้งหลายกล่าวว่า ก็ปกรณ์ทั้งหลายมีอาทิ คือ วัณณปิฎก
อังคุลิมาลปิฎก รัฐปาลครรชิต อาลวกครรชิต คุฬหอุมมังคะ คุฬหเวสสันดร
คุฬหวินัย เวทัลลปิฎก เป็นต้น ไม่เป็นพุทธพจน์แท้
อาจารย์บางพวกกล่าวว่า ธรรมชื่อว่า สีลูปเทส พระธรรมเสนาบดี
กล่าวไว้ ในธรรมนั้น เป็นอาบัติเหมือนกัน ยังมีปกรณ์แม้อื่น เช่น มัคคกถา
* เป็นพระสูตรฝ่ายมหายาน ของเราไม่มี-ผู้ชำระ.