หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๒ – หน้าที่ 91 (เล่ม 4)

ทุพภาสิต ว่าท่านต้องอาบัติปาราชิก ว่าท่านต้องอาบัติสังฆาทิเสส ว่าท่านต้อง
อาบัติถุลลัจจัย ว่าท่านต้องอาบัติปาจิตตีย์ ว่าท่านต้องอาบัติปาฏิเทสนียะ ว่า
ท่านต้องอาบัติทุกกฏ ว่าท่านต้องอาบัติทุพภาสิต ดังนี้ ต้องอาบัติทุพภาสิต
ทุก ๆ คำพูด.
พูดล้อกดให้เลวกระทบอาบัติ
อุปสัมบันไม่ปรารถนาจะด่า ไม่ปรารถนาจะสบประมาทอุปสัมบัน ไม่
ปรารถนาจะทำให้อัปยศ แต่มีความประสงค์จะล้อเล่น จึงพูดกะอุปสัมบันผู้
ต้องอาบัติอุกฤษฎ์ ด้วยกล่าวกระทบอาบัติทราม คือ พูดกะอุปสัมบันผู้ต้อง
โสดาบัติ ว่าท่านต้องอาบัติปาราชิก ว่าท่านต้องอาบัติสังฆาทิเสส ว่าท่านต้อง
อาบัติถุลลัจจัย ว่าท่านต้องอาบัติปาจิตตีย์ ว่าท่านไม่ต้องปาฏิเทสนียะ ว่า
ท่านต้องอาบัติทุกกฏ ว่าท่านต้องอาบัติทุพภาสิต ดังนี้ ต้องอาบัติทุพภาสิต
ทุก ๆ คำพูด.
พูดล้อประชดกระทบอาบัติ
อุปสัมบันไม่ปรารถนาจะด่า ไม่ปรารถนาจะสบประมาทอุปสัมบัน ไม่
ปรารถนาจะทำให้อัปยศ แต่มีความประสงค์จะล้อเล่น จึงพูดกะอุปสัมบันผู้
ต้องอาบัติทราม ด้วยกล่าวกระทบอาบัติอุกฤษฎ์ คือพูดกะอุปสัมบันผู้ต้อง
อาบัติปาราชิก . . . ผู้ต้องอาบัติสังฆาทิเสส . . .ผู้ต้องอาบัติถุลลัจจัย . . . ผู้ต้อง
อาบัติปาจิตตีย์ . . .ผู้ต้องอาบัติปาฏิเทสนียะ . . .ผู้ต้องอาบัติทุกกฏ . . .ผู้ต้อง
อาบัติทุพภาสิต ว่าท่านต้องโสดาบัติ ดังนี้เป็นต้น ต้องอาบัติทุพภาสิต ทุก ๆ
คำพูด.
พูดล้อยกยอกระทบอาบัติ
อุปสัมบันไม่ปรารถนาจะด่า ไม่ปรารถนาจะสบประมาทอุปสัมบัน ไม่
ปรารถนาจะทำให้อัปยศ แต่มีความประสงค์จะล้อเล่น จึงพูดกะอุปสัมบันผู้

91
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๒ – หน้าที่ 92 (เล่ม 4)

ต้องอาบัติอุกฤษฎ์ ด้วยกล่าวกระทบอาบัติอุกฤษฏ์ คือ พูดกะอุปสัมบันผู้ต้อง
โสดาบัติ ว่าท่านต้องโสดาบัติ ดังนี้เป็นต้น ต้องอาบัติทุพภาสิต ทุก ๆ คำพูด.
พูดล้อกดกระทบคำสบประมาท
อุปสัมบันไม่ปรารถนาจะด่า ไม่ปรารถนาจะสบประมาทอุปสัมบัน ไม่
ปรารถนาจะทำให้อัปยศ แต่มีความประสงค์จะล้อเล่น จึงพูดกะอุปสัมบันผู้มี
ความประพฤติทราม ด้วยกล่าวกระทบคำด่าทราม คือ พูดกะอุปสัมบันผู้มี
ความประพฤติดังอูฐ . . . มีความประพฤติดังแพะ . . . มีความประพฤติดังโค
. . มีความประพฤติดังลา . .. มีความประพฤติดังสัตว์ดิรัจฉาน . . . มีความ
ประพฤติดังสัตว์นรก ว่าท่านเป็นอูฐ ว่าท่านเป็นแพะ ว่าท่านเป็นโค ว่าท่าน
เป็นลา ว่าท่านเป็นสัตว์ดิรัจฉาน ว่าท่านเป็นสัตว์นรก สุคติของท่านไม่มี
ท่านต้องหวังได้แต่ทุคติ ดังนี้เป็นต้น ต้องอาบัติทุพภาสิต ทุก ๆ คำพูด
พูดล้อกดให้เลวกระทบคำสบประมาท
อุปสัมบันไม่ปรารถนาจะด่า ไม่ปรารถนาจะสบประมาทอุปสัมบัน ไม่
ปรารถนาจะทำให้อัปยศ แต่มีความประสงค์จะล้อเล่น จึงพูดกะอุปสัมบันผู้มี
ความประพฤติอุกฤษฎ์ ด้วยกล่าวกระทบคำด่าทราม คือ พูดกะอุปสัมบันผู้เป็น
บัณฑิต . . . ผู้ฉลาด . . .ผู้มีปัญญา . .. ผู้พหูสูต . . .ผู้ธรรมกถึก ว่าท่าน
เป็นอูฐ ว่าท่านเป็นแพะ ว่าท่านเป็นโค ว่าท่านเป็นลา ว่าท่านเป็นสัตว์
ดิรัจฉาน ว่าท่านเป็นสัตว์นรก สุคติของท่านไม่มี ท่านต้องหวังได้แต่ทุคติ
ดังนี้เป็นต้น ต้องอาบัติทุพภาสิต ทุก ๆ คำพูด.
พูดล้อประชดกระทบคำสบประมาท
อุปสัมบันไม่ปรารถนาจะด่า ไม่ปรารถนาจะสบประมาทอุปสัมบัน ไม่
ปรารถนาจะทำให้อัปยศ แต่มีความประสงค์จะล้อเล่น จึงพูดกะอุปสัมบันผู้มี

92
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๒ – หน้าที่ 93 (เล่ม 4)

ความพระพฤติทราม ด้วยกล่าวกระทบคำด่าอุกฤษฏ์ คือพูดกะอุปสัมบันผู้มี
ความประพฤติดังอูฐ . . . มีความประพฤติดังแพะ . . .มีความประพฤติดังโค
. . .มีความประพฤติดังลา . . .มีความพระพฤติดังสัตว์ดิรัจฉาน . . .มีความ
ประพฤติดังสัตว์นรก ว่าท่านเป็นบัณฑิต ว่าท่านเป็นคนฉลาด ว่าท่านเป็น
คนมีปัญญา ว่าท่านเป็นพหูสูต ว่าท่านเป็นธรรมกถึก ทุคติของท่านไม่มี
ท่านต้องหวังได้แต่สุคติ ดังนี้เป็นต้น ต้องอาบัติทุพภาสิต ทุก ๆ คำพูด
พูดล้อยกยอกระทบคำสบประมาท
อุปสัมบันไม่ปรารถนาจะด่า ไม่ปรารถนาจะสบประมาทอุปสัมบัน ไม่
ปรารถนาจะทำให้อัปยศ แต่มีความประสงค์จะล้อเล่น จึงพูดกะอุปสัมบันผู้มี
ความพระพฤติอุกฤษฎ์ ด้วยกล่าวกระทบคำด่าอุกฤษฎ์ คือ พูดกะอุปสัมบันผู้
เป็นบัณฑิต . . . ผู้ฉลาด . . . ผู้มีปัญญา . . . ผู้พหูสูต . .. ผู้ธรรมกถึก ว่าท่าน
เป็นบัณฑิต ว่าท่านเป็นคนฉลาด ว่าท่านเป็นคนมีปัญญา ว่าท่านเป็นพหูสูต
ว่าท่านเป็นธรรมกถึก ทุคติของท่านไม่มี ท่านต้องหวังได้แต่สุคติ ดังนี้เป็นต้น
ต้องอาบัติทุพภาสิต ทุก ๆ คำพูด.
พูดล้อเปรยกระทบชาติทราม ว่ามีบางพวก
[๒๔๗] อุปสัมบันไม่ปรารถนาจะด่า ไม่ปรารถนาจะสบประมาทอุป-
สัมบัน ไม่ปรารถนาจะทำให้อัปยศ แต่มีความประสงค์จะล้อเล่น จึงพูดเปรย
อย่างนี้คือ กล่าวว่ามีภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ บางพวกเป็นชาติคนจัณฑาล บาง
พวกเป็นชาติคนจักสาน บางพวกเป็นชาติพราน บางพวกเป็นชาติคนช่างหนัง
บางพวกเป็นชาติคนเทดอกไม้ ดังนี้เป็นต้น ต้องอาบัติทุพภาสิต ทุก ๆ คำพูด.
พูดล้อเปรยกระทบชาติอุกฤษฏ์ ว่ามีบางพวก
อุปสันบันไม่ปรารถนาจะด่า ไม่ปรารถนาจะสบประมาทอุปสัมบัน ไม่
ปรารถนาจะทำให้อัปยศ แต่มีความประสงค์จะล้อเล่น จึงพูดเปรยอย่างนั้น คือ

93
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๒ – หน้าที่ 94 (เล่ม 4)

กล่าวว่า มีภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ บางพวกเป็นชาติกษัตริย์ บางพวกเป็น
ชาติพราหมณ์ ดังนี้เป็นต้น ต้องอาบัติทุพภาสิต ทุก ๆ คำพูด.
พูดล้อเปรยกระทบชื่อทราม ว่ามีบางพวก
. . . มีภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ บางพวกชื่ออวกัณณกะ บางพวกชื่อ
ชวกัณณกะ บางพวกชื่อธนิฏฐกะ บางพวกชื่อสวิฎฐกะ บางพวกชื่อกุลวัฑฒกะ
ดังนี้เป็นต้น ต้องอาบัติทุพภาสิต ทุก ๆ คำพูด .
พูดล้อเปรยกระทบชื่ออุกฤษฏ์ ว่ามีบางพวก
. . .มีภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ บางพวกชื่อพุทธรักขิต บางพวกชื่อ
ธัมมรักขิต บางพวกชื่อสังฆรักขิต ดังนี้เป็นต้น ต้องอาบัติทุพภาสิต ทุก ๆ
คำพูด.
พูดล้อเปรยกระทบโคตรทราม ว่ามีบางพวก
. . . มีภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ บางพวกเป็นโกสิยโคตร บางพวกเป็น
ภารทวาชโคตร ดังนี้เป็นต้น ต้องอาบัติทุพภาสิต ทุก ๆ คำพูด.
พูดล้อเปรยกระทบโคตรอุกฤษฏ์ ว่ามีบางพวก
. . .มีภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ บางพวกเป็นโคตมโคตร บางพวกเป็น
โมคคัลลานโคตร บางพวกเป็นกัจจายนโคตร บางพวกเป็นวาเสฏฐโคตร
ดังนี้เป็นต้น ต้องอาบัติทุพภาสิต ทุก ๆ คำพูด.
พูดล้อเปรยกระทบการงานทราม ว่ามีบางพวก
. . .มีภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ บางพวกทำงานช่างไม้ บางพวกทำ
งานเทดอกไม้ ดังนี้เป็นต้น ต้องอาบัติทุพภาสิต ทุก ๆ คำพูด.

94
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๒ – หน้าที่ 95 (เล่ม 4)

พูดล้อเปรยกระทบการงานอุกฤษฏ์ ว่ามีบางพวก
. . . มีภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ บางพวกทำงานไถนา บางพวกทำการ
ค้าขาย บางพวกทำงานเลี้ยงโค ดังนี้เป็นต้น ต้องอาบัติทุพภาสิต ทุก ๆ คำพูด.
พูดล้อเปรยกระทบศิลปทราม ว่ามีบางพวก
. . .มีภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ บางพวกมีวิชาการช่างจักสาน บางพวก
มีวิชาการช่างหม้อ บางพวกมีวิชาการช่างหูก บางพวกมีวิชาการช่างหนัง
บางพวกมีวิชาการช่างกัลบก ดังนี้เป็นต้น ต้องอาบัติทุพภาสิต ทุก ๆ คำพูด.
พูดล้อเปรยกระทบศิลปอุกฤษฏ์ ว่ามีบางพวก
. . .มีภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ บางพวกมีวิชาการช่างนับ บางพวกมี
วิชาการช่างคำนวณบางพวกมีวิชาการช่างเขียน ดังนี้เป็นต้น ต้องอาบัติ
ทุพภาสิต ทุก ๆ คำพูด.
พูดล้อเปรยกระทบโรคทราม ว่ามีบางพวก
. . .มีภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ บางพวกเป็นโรคเรื้อน บางพวกเป็น
โรคฝี บางพวกเป็นโรคกลาก บางพวกเป็นโรคมองคร่อ บางพวกเป็นโรค
ลมบ้าหมู ดังนี้เป็นต้น ต้องอาบัติทุพภาสิต ทุก ๆ คำพูด.
พูดล้อเปรยกระทบโรคอุกฤษฏ์ ว่ามีบางพวก
. . .มีภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ บางพวกเป็นโรคเบาหวาน ดังนี้เป็นต้น
ต้องอาบัติทุพภาสิต ทุก ๆ คำพูด.
พูดล้อเปรยกระทบรูปพรรณทราม ว่ามีบางพวก
. . .มีภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ บางพวกสูงเกินไป บางพวกต่ำเกินไป
บางพวกดำเกินไป บางพวกขาวเกินไป ดังนี้เป็นต้น ต้องอาบัติทุพภาสิต
ทุก ๆ คำพูด.

95
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๒ – หน้าที่ 96 (เล่ม 4)

พูดล้อเปรยกระทบรูปพรรณอุกฤษฏ์ ว่ามีบางพวก
. . . มีภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ บางพวกไม่สูงนัก บางพวกไม่ต่ำนัก
บางพวกไม่ดำนัก บางพวกไม่ขาวนัก ดังนี้เป็นต้น ต้องอาบัติทุพภาสิต
ทุก ๆ คำพูด.
พูดล้อเปรยกระทบกิเลสทราม ว่ามีบางพวก
. . . ภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ บางพวกถูกราคะกลุ้มรุม บางพวกถูก
โทสะย่ำยี บางพวกโมหะครอบงำ ดังนี้เป็นต้น ต้องอาบัติทุพภาสิต
ทุก ๆ คำพูด.
พูดล้อเปรยกระทบกิเลสอุกฤษฏ์ ว่ามีบางพวก
. . .มีภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ บางพวกปราศจากราคะ บางพวก
ปราศจากโทสะ บางพวกปราศจากโมหะ ดังนี้เป็นต้น ต้องอาบัติทุพภาสิต
ทุก ๆ คำพูด.
พูดล้อเปรยกระทบอาบัติทราม ว่ามีบางพวก
. . .มีภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ บางพวกต้องอาบัติปาราชิก บางพวก
ต้องอาบัติสังฆาทิเสส บางพวกต้องอาบัติถุลลัจจัย บางพวกต้องอาบัติปาจิตตีย์
บางพวกต้องอาบัติปาฏิเทสนียะ บางพวกต้องอาบัติทุกกฏ บางพวกต้องอาบัติ
ทุพภาสิต ดังนี้ ต้องอาบัติทุพภาสิต ทุก ๆ คำพูด.
พูดล้อเปรยกระทบอาบัติอุกฤษฏ์ ว่ามีบางพวก
. . .มีภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ บางพวกต้องโสดาบัติ ดังนี้เป็นต้น
ต้องอาบัติทุพภาสิต ทุก ๆ คำพูด.
พูดล้อเปรยกระทบคำสบประมาททราม ว่ามีบางพวก
. . .มีภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ บางพวกมีความพระพฤติดังอูฐ บางพวก
มีความประพฤติดังแพะ บางพวกมีความพระพฤติดังโค บางพวกมีความ

96
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๒ – หน้าที่ 97 (เล่ม 4)

ประพฤติดังลา บางพวกมีความประพฤติดังสัตว์ดิรัจฉาน บางพวกมีความ
ประพฤติดังสัตว์นรก สุคติของภิกษุพวกนั้นไม่มี ภิกษุพวกนั้นต้องหวังได้แต่
ทุคติ ดังนี้เป็นต้น ต้องอาบัติทุพภาสิต ทุก ๆ คำพูด.
พูดล้อเปรยกระทบคำสบประมาทอุกฤษฏ์ ว่ามีบางพวก
. . .มีภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ บางพวกเป็นบัณฑิต บางพวกเป็น
คนฉลาด บางพวกเป็นคนมีปัญญา บางพวกเป็นพหูสูต บางพวกเป็นธรรมกถึก
ทุคติของภิกษุพวกนั้นไม่มี ภิกษุพวกนั้นต้องหวังได้แต่สุคติ ดังนี้เป็นต้น
ต้องอาบัติทุพภาสิต ทุก ๆ คำพูด.
พูดล้อเปรยกระทบชาติทราม ว่าพวกไรกันแน่
[๒๔๘] อุปสัมบันไม่ปรารถนาจะด่า ไม่ปรารถนาจะสบประมาท
อุปสัมบัน ไม่ปรารถนาจะทำให้อัปยศ แต่มีความประสงค์จะล้อเล่น จึงพูด
เปรยอย่างนี้ คือ กล่าวว่าภิกษุจำพวกไรกันแน่เป็นชาติคนจัณฑาล. . . ชาติคน
จักสาน. . ชาติพราน. . .ชาติคนช่างหนัง. . .ชาติคนเทดอกไม้ ดังนี้เป็นต้น
ต้องอาบัติทุพภาสิต ทุก ๆ คำพูด.
พูดล้อเปรยกระทบชาติอุกฤษฏ์ ว่าพวกไรกันแน่
. . .ภิกษุจำพวกไรกันแน่ เป็นชาติกษัตริย์ . . .ชาติพราหมณ์ ดังนี้
เป็นต้น ต้องอาบัติทุพภาสิต ทุก ๆ คำพูด.
พูดล้อเปรยกระทบชื่อทราม ว่าพวกไรกันแน่
. . . ภิกษุจำพวกไรกันแน่ชื่ออวกัณณกะ ... ชื่อชวกัณณกะ ...ชื่อ
ธนิฏฐกะ . ..ชื่อสวิฎฐกะ .. .ชี่อกุลวัฑฒกะ ดังนี้เป็นต้น ต้องอาบัติทุพภาสิต
ทุก ๆ คำพูด.

97
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๒ – หน้าที่ 98 (เล่ม 4)

พูดล้อเปรยกระทบชื่ออุกฤษฏ์ ว่าพวกไรกันแน่
. . .ภิกษุจำพวกไรกันแน่ ชื่อพุทธรักขิต . . .ชื่อธัมมรักขิต . . . ชื่อ
สังฆรักขิต ดังนี้เป็นต้น ต้องอาบัติทุพภาสิต ทุก ๆ คำพูด
พูดล้อเปรยกระทบโคตรทราม ว่าพวกไรกันแน่
. . .ภิกษุจำพวกไรกันแน่ เป็นโกสิยโคตร . . . ภารทวาชโคตร ดังนี้
เป็นต้น ต้องอาบัติทุพภาสิต ทุก ๆ คำพูด
พูดล้อเปรยกระทบโคตรอุกฤษฏ์ ว่าพวกไรกันแน่
. . .ภิกษุจำพวกไรกันแน่ เป็นโคตมโคตร. ..โมคคัลลานโคตร . . .
กัจจายนโคตร. . .วาเสฎฐโคตร ดังนี้เป็นต้น ต้องอาบัติทุพภาสิต ทุกๆคำพูด
พูดล้อเปรยกระทบการงานทราม ว่าพวกไรกันแน่
. . .ภิกษุจำพวกไรกันแน่ เป็นช่างไม้. . .คนเทดอกไม้ ดังนี้เป็นต้น
ต้องอาบัติทุพภาสิต ทุก ๆ คำพูด.
พูดล้อเปรยกระทบการงานอุกฤษฏ์ ว่าพวกไรกันแน่
. . .ภิกษุจำพวกไรกันแน่ เป็นคนทำงานไถนา . . .ทำงานค้าขาย . . .
ทำงานเลี้ยงโค . . . ต้องอาบัติทุพภาสิต ทุก ๆ คำพูด
พูดล้อเปรยกระทบศิลปทราม ว่าพวกไรกันแน่
. . .ภิกษุจำพวกไรกันแน่ มีวิชาการช่างจักสาน . . . มีวิชาการช่างหม้อ
. . . มีวิชาการช่างหูก . . .มีวิชาการช่างหนัง . . . มีวิชาการช่างกัลบก . . . ต้อง
อาบัติทุพภาสิต ทุก ๆ คำพูด.
พูดล้อเปรยกระทบศิลปอุกฤษฏ์ ว่าพวกไรกันแน่
. . .ภิกษุจำพวกไรกันแน่ มีวิชาการช่างนับ . . . มีวิชาการช่างคำนวณ
. . .มีวิชาการช่างเขียน. . .ต้องอาบัติทุพภาสิต ทุก ๆ คำพูด .

98
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๒ – หน้าที่ 99 (เล่ม 4)

พูดล้อเปรยกระทบโรคทราม ว่าพวกไรกันแน่
. . . ภิกษุจำพวกไรกันแน่ เป็นโรคเรื้อน . . . โรคฝี. . . โรคกลาก. . .
โรคมองคร่อ.. .โรคลมบ้าหมู . . . ต้องอาบัติทุพภาสิต ทุก ๆ คำพูด.
พูดล้อเปรยกระทบโรคอุกฤษฏ์ ว่าพวกไรกันแน่
. . .ภิกษุจำพวกไรกันแน่ เป็นโรคเบาหวาน ดังนี้ ต้องอาบัติทุพภาสิต
ทุก ๆ คำพูด.
พูดล้อเปรยกระทบรูปพรรณทราม ว่าพวกไรกันแน่
. . . ภิกษุจำพวกไรกันแน่ สูงเกินไป . . . ต่ำเกินไป . . . ดำเกินไป
. . . ขาวเกินไป. . .ต้องอาบัติทุพภาสิต ทุก ๆ คำพูด.
พูดล้อเปรยกระทบรูปพรรณอุกฤษฏ์ ว่าพวกไรกันแน่
. . . ภิกษุจำพวกไรกันแน่ เป็นคนไม่สูงนัก . . .ไม่ต่ำนัก . ..ไม่ดำนัก
. . .ไม่ขาวนัก.. .ต้องอาบัติทุพภาสิต ทุก ๆ คำพูด.
พูดล้อเปรยกระทบกิเลสทราม ว่าพวกไรกันแน่
. . .ภิกษุจำพวกไรกันแน่ ถูกราคะกลุ้มรุม . . . ถูกโทสะย่ำยี ...ถูก
โมหะครอบงำ . . .ต้องอาบัติทุพภาสิต ทุก ๆ คำพูด.
พูดล้อเปรยกระทบกิเลสอุกฤษฏ์ ว่าพวกไรกันแน่
. . . ภิกษุจำพวกไรกันแน่ ปราศจากราคะ . . .ปราศจากโทสะ. . . .
ปราศจากโมหะ . . .ต้องอาบัติทุพภาสิต ทุก ๆ คำพูด.
พูดล้อเปรยกระทบอาบัติทราม ว่าพวกไรกันแน่
. . .ภิกษุจำพวกไรกันแน่ต้องอาบัติปาราชิก . . . อาบัติสังฆาทิเสส . . .
อาบัติถุลลัจจัย ... อาบัติปาจิตตีย์ . .. อาบัติปฏิเทสนียะ .. . อาบัติทุกกฏ...
อาบัติทุพภาสิต. . .ต้องอาบัติทุพภาสิต ทุก ๆ คำพูด.

99
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๒ – หน้าที่ 100 (เล่ม 4)

พูดล้อเปรยกระทบอาบัติอุกฤษฏ์ ว่าพวกไรกันแน่
. . .ภิกษุจำพวกไรกันแน่ ต้องโสดาบัติ . . . ต้องอาบัติทุพภาสิต
ทุก ๆ คำพูด.
พูดล้อเปรยกระทบคำสบประมาททราม ว่าพวกไรกันแน่
. . . ภิกษุจำพวกไรกันแน่ มีความประพฤติดังอูฐ . . . แพะ . . . โค . . .
ลา. .. สัตว์ดิรัจฉาน. . . สัตว์นรก สุคติของภิกษุพวกนั้นไม่มี ภิกษุพวกนั้น
ต้องหวังได้แต่ทุคติ. . . ต้องอาบัติทุพภาสิต ทุก ๆ คำพูด.
พูดล้อเปรยกระทบลำสบประมาทอุกฤษฏ์ ว่าพวกไรกันแน่
. . . ภิกษุจำพวกไรกันแน่ เป็นบัณฑิต . . .เป็นคนฉลาด ...เป็นคนมี
ปัญญา...เป็นพหูสูต...เป็นธรรมกถึก ทุคติของภิกษุพวกนั้นไม่มี ภิกษุ
พวกนั้นต้องหวังได้แต่สุคติ . . . ต้องอาบัติทุพภาสิต ทุก ๆ คำพูด.
พูดล้อเปรยกระทบชาติทราม ว่าไม่ใช่พวกเรา
[๒๔๙] อุปสัมบันไม่ปรารถนาจะด่า ไม่ปรารถนาจะสบประมาท
อุปสัมบัน ไม่ปรารถนาจะทำให้อัปยศ แต่มีความประสงค์จะล้อเล่น จึงพูด
เปรยอย่างนั้น คือกล่าวว่า พวกเราไม่ใช่ชาติคนจัณฑาล . . .ไม่ใช่ชาติคนจักสาน
. . .ไม่ใช่ชาติพราน...ไม่ใช่ชาติคนช่างหนัง. ..ไม่ใช่ชาติคนเทดอกไม้ ดังนี้
เป็นต้น ต้องอาบัติทุพภาสิต ทุก ๆ คำพูด.
พูดล้อเปรยกระทบชาติอุกฤษฏ์ ว่าไม่ใช่พวกเรา
. . . พวกเราไม่ใช่ชาติกษัตริย์ . . . ไม่ใช่ชาติพราหมณ์ .. . ต้องอาบัติ
ทุพภาสิต ทุก ๆ คำพูด.

100