ด้วยเหตุนั้นนั่นแล พระองค์จึงไม่สามารถจะเสด็จไปได้ด้วยพระบาท.
พระองค์จึงทรงแสดงสีหนาท ที่พระองค์ทรงบันลือว่า กระยาหารที่ผู้ใด
บริโภคแล้วพึงถึงความย่อยไปโดยชอบ ฯลฯ เว้นพระตถาคต ดังนี้ ให้เป็น
ประโยชน์. จริงอยู่ ขึ้นชื่อว่า เสียงที่กระหึ่มในฐานะที่ไม่สมควร ย่อม
ไม่มีแก่พระพุทธเจ้าทั้งหลาย. เพราะเหตุที่พระกระยาหารที่พระองค์ทรง
เสวยแล้ว ไม่ทำวิการอะไร ๆ ให้เกิดแก่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระกระ-
ยาหารซึ่งเป็นสิ่งแสลง ที่กรรมอันได้ช่องแล้วเข้าไปยึดถือ สงบไปโดย
ประมาณน้อย จึงทำพลังให้เกิดขึ้นในร่างกาย ซึ่งเป็นเหตุให้ประโยชน์
๓ อย่างตามที่จะกล่าวให้สำเร็จ ฉะนั้น พระกระยาหารนั้นจึงถึงความ
ย่อยไปโดยชอบทีเดียว แต่เพราะเวทนาถึงปางตาย ที่ใครๆ ไม่รู้แล้วไม่
ปรากฏแล้ว จึงได้มี ฉะนี้แล.
บทว่า วิริจฺจมาโน ได้แก่ เป็นผู้ทรงพระบังคนหนักเป็นพระโลหิต
เป็นไปเนือง ๆ. บทว่า อโวจ ความว่า พระองค์ได้ตรัสอย่างนั้น เพื่อ
ประโยชน์แก่ปรินิพพานในที่ที่พระองค์ทรงปรารถนา.
ถามว่า ก็เพราะเหตุที่เมื่อโรคเกิดขึ้นแล้วอย่างนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า
จึงเสด็จไปยังกรุงกุสินารา เพราะเหตุไร พระองค์จึงไม่สามารถปรินิพพาน
ในที่อื่น ? ตอบว่า เพราะพระองค์ไม่สามารถจะปรินิพพานในที่ไหน ๆ
หามิได้ แต่พระองค์ทรงดำริอย่างนี้ว่า เมื่อเราไปยังกรุงกุสินารา อัตถุ-
ปัตติเหตุในการแสดงมหาสุทัสสนสูตร ก็จักมี สมบัติอันใด อันเช่นกับ
สมบัติที่เราพึงเสวยในเทวโลก ด้วยอัตถุปปัตติ เหตุนั้น เราก็ได้เสวยแล้ว
ในมนุษยโลก เราจักประดับสมบัตินั้นด้วยภาณวารทั้ง ๒ แล้ว จักแสดง
ธรรม ชนเป็นอันมากได้ฟังดังนั้นแล้ว ก็จักสำคัญถึงกุศล ที่ตนควร