กามภพเป็นต้น เพราะเป็นไปโดยภาวะที่น้อมไปในอารมณ์และกามนั้น
และเพราะสัตว์ทั้งหลายน้อมไปในอารมณ์และกามภพเป็นต้นนั้น. พระนิพ-
พานจึงชื่อว่า อนตะ เพราะไม่เป็นที่ที่สัตว์น้อมไป. อาจารย์บางพวกกล่าว
ว่า อนนฺตํ ดังนี้ก็มี. อธิบายว่า พระนิพพาน ชื่อว่าเว้นจากที่สุด คือไม่มี
จุติเป็นธรรม เป็นความดับสนิท ได้แก่ เป็นอมตะ เพราะมีสภาวะแท้.
แต่อาจารย์บางพวกกล่าวความแห่งบทว่า อนนฺตํ ว่าเป็น อปฺปมาณํ.
ก็ในคำเหล่านั้น ด้วยคำว่า ทุทฺทสํ นี้ พระองค์ทรงแสดงถึงความที่พระ-
นิพพาน อันสัตว์พึงถึงได้โดยยากว่า การที่สัตว์ทั้งหลายทำพระนิพพาน
อันหาปัจจัยมิได้ ให้เกิด มิใช่ทำได้ง่าย เพราะสัตว์เหล่านั้นถูกกิเลสมี
ราคะเป็นต้น ซึ่งกระทำปัญญาให้ทุรพล ให้มีมาเป็นเวลานาน. ด้วยบทว่า
น หิ สจฺจํ สุทสฺสนํ แม้นี้ พระองค์ทรงกระทำความนั้นนั่นแหละให้
ปรากฏ. บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า สจฺจํ ได้แก่ พระนิพพาน. จริงอยู่
พระนิพพานนั้น ชื่อว่าสัจจะ เพราะอรรถว่าไม่ผิดแผก เหตุเป็นคุณชาต
สงบโดยแท้จริงทีเดียว เพราะไม่มีสภาวะอันไม่สงบ โดยปริยายไหน ๆ.
อนึ่ง พระนิพพานนั้น ชื่อว่าไม่ใช่เห็นได้ง่าย คืออันใคร ๆ ไม่พึงเห็น
ได้โดยง่าย เพราะถึงจะรวบรวมบุญสมภาร และญาณสมภาร มาตลอด
กาลนาน ก็ยังบรรลุได้โดยยากทีเดียว. สมจริงดังพระดำรัสที่พระผู้มีพระ-
ภาคเจ้าตรัสไว้ว่า พระนิพพานเราบรรลุได้ยาก. บทว่า ปฏิวิทฺธา ตณฺหา
ชานโต ปสฺสโต นตฺถิ กิญฺจนํ ความว่า หากนิโรธสัจนั้นอันผู้จะตรัสรู้
โดยสัจฉิกิริยาภิสมัย เมื่อว่าโดยวิสัย โดยกิจ และโดยอารมณ์ ก็ตรัสรู้ได้
โดยการรู้ตลอดอารมณ์ และการรู้ตลอดโดยไม่งมงาย เหมือนทุกขสัจที่
ตรัสรู้ได้โดยปริญญาภิสมัย และมรรคสัจ ที่ตรัสรู้ได้โดยภาวนาภิสมัย คือ