หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๑ ภาค ๓ – หน้าที่ 1014 (เล่ม 3)

ภิกษุมีบาตรไม่มีแผล
[๑๓๔]ภิกษุมีบาตรไม่มีแผล ขอบาตรที่ไม่มีท่าจะมีแผล เป็น
นิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ภิกษุมีบาตรไม่มีแผล ขอบาตรที่มีท่าจะมีแผล ๑ แห่ง เป็น
นิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ภิกษุมีบาตรไม่มีแผล ขอบาตรที่มีท่าจะมีแผล ๒ แห่ง เป็น
นิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ภิกษุมีบาตรไม่มีแผล ขอบาตรที่มีท่าจะมีแผล ๓ แห่ง เป็น
นิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ภิกษุมีบาตรไม่มีแผล ขอบาตรที่มีท่าจะมีแผล ๔ แห่ง เป็น
นิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ภิกษุมีบาตรมีแผล ๑ แห่ง
ภิกษุมีบาตรมีแผล ๑ แห่ง ขอบาตรที่ไม่มีท่าจะมีแผล เป็น
นิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ภิกษุมีบาตรมีแผล ๑ แห่ง ขอบาตรที่มีท่าจะมีแผล ๑ แห่ง เป็น
นิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ภิกษุมีบาตรมีแผล ๑ แห่ง ขอบาตรที่มีท่าจะมีแผล ๒ แห่ง เป็น
นิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ภิกษุมีบาตรมีแผล ๑ แห่ง ขอบาตรที่มีท่าจะมีแผล ๓ แห่ง เป็น
นิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ภิกษุมีบาตรมีแผล ๑ แห่ง ขอบาตรที่มีท่าจะมีแผล ๔ แห่ง เป็น
นิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์

1014
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๑ ภาค ๓ – หน้าที่ 1015 (เล่ม 3)

ภิกษุมีบาตรไม่มีแผล
ภิกษุมีบาตรมีแผล ๒ แห่ง ขอบาตรที่ไม่มีท่าจะมีแผล เป็น
นิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ภิกษุมีบาตรมีแผล ๒ แห่ง ขอบาตรที่มีท่าจะมีแผล ๑ แห่ง เป็น
นิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ภิกษุมีบาตรมีแผล ๒ แห่ง ขอบาตรที่มีท่าจะมีแผล ๒ แห่ง เป็น
นิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ภิกษุมีบาตรมีแผล ๒ แห่ง ขอบาตรที่มีท่าจะมีแผล ๓ แห่ง เป็น
นิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ภิกษุมีบาตรมีแผล ๒ แห่ง ขอบาตรที่มีท่าจะมีแผล ๔ แห่ง เป็น
นิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ภิกษุมีบาตรมีแผล ๓ แห่ง
ภิกษุมีบาตรมีแผล ๓ แห่ง ขอบาตรที่ไม่มีท่าจะมีแผล เป็น
นิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ภิกษุมีบาตรมีแผล ๓ แห่ง ขอบาตรที่มีท่าจะมีแผล ๑ แห่ง เป็น
นิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ภิกษุมีบาตรมีแผล ๓ แห่ง ขอบาตรที่มีท่าจะมีแผล ๒ แห่ง เป็น
นิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ภิกษุมีบาตรมีแผล ๓ แห่ง ขอบาตรที่มีท่าจะมีแผล ๓ แห่ง เป็น
นิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ภิกษุมีบาตรมีแผล ๓ แห่ง ขอบาตรที่มีท่าจะมีแผล ๔ แห่ง เป็น
นิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์

1015
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๑ ภาค ๓ – หน้าที่ 1016 (เล่ม 3)

ภิกษุมีบาตรมีแผล ๔ แห่ง
ภิกษุมีบาตรมีแผล ๔ แห่ง ขอบาตรที่ไม่มีท่าจะมีแผล เป็นนิส-
สัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ภิกษุมีบาตรมีแผล ๔ แห่ง ขอบาตรที่มีท่าจะมีแผล ๑ แห่ง เป็น
นิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ภิกษุมีบาตรมีแผล ๔ แห่ง ขอบาตรที่มีท่าจะมีแผล ๒ แห่ง เป็น
นิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ภิกษุมีบาตรมีแผล ๔ แห่ง ขอบาตรที่มีท่าจะมีแผล ๓ แห่ง เป็น
นิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ภิกษุมีบาตรมีแผล ๔ แห่ง ขอบาตรที่มีท่าจะมีแผล ๔ แห่ง เป็น
นิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ภิกษุมีบาตรไม่มีท่าจะมีแผล
[๑๓๕] ภิกษุมีบาตรไม่มีท่าจะมีแผล ขอบาตรที่ไม่มีแผล เป็น
นิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ภิกษุมีบาตรไม่มีท่าจะมีแผล ขอบาตรที่มีแผล ๑ แห่ง เป็นนิส-
สัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ภิกษุมีบาตรไม่มีท่าจะมีแผล ขอบาตรที่มีแผล ๒ แห่ง เป็นนิส-
สัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ภิกษุมีบาตรไม่มีท่าจะมีแผล ขอบาตรที่มีแผล ๓ แห่ง เป็นนิส -
สัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ภิกษุมีบาตรไม่มีท่าจะมีแผล ขอบาตรที่มีแผล ๔ แห่ง เป็นนิส -
สัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์

1016
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๑ ภาค ๓ – หน้าที่ 1017 (เล่ม 3)

ภิกษุมีบาตรมีท่าจะมีแผล ๑ แห่ง
ภิกษุมีบาตรมีท่าจะมีแผล ๑ แห่ง ขอบาตรที่ไม่มีแผล เป็นนิส-
สัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ภิกษุมีบาตรมีท่าจะมีแผล ๑ แห่ง ขอบาตรที่มีแผล ๑ แห่ง เป็น
นิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ภิกษุมีบาตรมีท่าจะมีแผล ๑ แห่ง ขอบาตรที่มีแผล ๒ แห่ง เป็น
นิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ภิกษุมีบาตรมีท่าจะมีแผล ๑ แห่ง ขอบาตรที่มีแผล ๓ แห่ง เป็น
นิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ภิกษุมีบาตรมีท่าจะมีแผล ๑ แห่ ขอบาตรที่มีแผล ๔ แห่ง เป็น
นิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ภิกษุมีบาตรมีท่าจะมีแผล ๒ แห่ง
ภิกษุมีบาตรมีท่าจะมีแผล ๒ แห่ง ขอบาตรที่ไม่มีแผล เป็นนิส-
สัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ภิกษุมีบาตรมีท่าจะมีแผล ๒ แห่ง ขอบาตรที่มีแผล ๑ แห่ง เป็น
นิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ภิกษุมีบาตรมีท่าจะมีแผล ๒ แห่ง ขอบาตรที่มีแผล ๒ แห่ง เป็น
นิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ภิกษุมีบาตรมีท่าจะมีแผล ๒ แห่ง ขอบาตรที่มีแผล ๓ แห่ง เป็น
นิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ภิกษุมีบาตรมีท่าจะมีแผล ๒ แห่ง ขอบาตรที่มีแผล ๔ แห่ง เป็น
นิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์

1017
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๑ ภาค ๓ – หน้าที่ 1018 (เล่ม 3)

ภิกษุมีบาตรมีท่าจะมีแผล ๓ แห่ง
ภิกษุมีบาตรมีท่าจะมีแผล ๓ แห่ง ขอบาตรที่ไม่มีแผล เป็น
นิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ภิกษุมีบาตรมีท่าจะมีแผล ๓ แห่ง ขอบาตรที่มีแผล ๑ แห่ง เป็น
นิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ภิกษุมีบาตรมีท่าจะมีแผล ๓ แห่ง ขอบาตรที่มีแผล ๒ แห่ง เป็น
นิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ภิกษุมีบาตรมีท่าจะมีแผล ๓ แห่ง ขอบาตรที่มีแผล ๓ แห่ง เป็น
นิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ภิกษุมีบาตรมีท่าจะมีแผล ๓ แห่ง ขอบาตรที่มีแผล ๔ แห่ง เป็น
นิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ภิกษุมีบาตรมีท่าจะมีแผล ๔ แห่ง
ภิกษุมีบาตรมีท่าจะมีแผล ๔ แห่ง ขอบาตรที่ไม่มีแผล เป็น
นิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ภิกษุมีบาตรมีท่าจะมีแผล ๔ แห่ง ขอบาตรที่มีแผล ๑ แห่ง เป็น
นิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ภิกษุมีบาตรมีท่าจะมีแผล ๔ แห่ง ขอบาตรที่มีแผล ๒ แห่ง เป็น
นิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ภิกษุมีบาตรมีท่าจะมีแผล ๔ แห่ง ขอบาตรที่มีแผล ๓ แห่ง เป็น
นิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ภิกษุมีบาตรมีท่าจะมีแผล ๔ แห่ง ขอบาตรที่มีแผล ๔ แห่ง เป็น
นิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์.

1018
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๑ ภาค ๓ – หน้าที่ 1019 (เล่ม 3)

ภิกษุมีบาตรไม่มีท่าจะมีแผล
[๑๓๖] ภิกษุมีบาตรไม่มีท่าจะมีแผล ขอบาตรที่ไม่มีท่าจะมีแผล
เป็นนิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ภิกษุมีบาตรไม่มีท่าจะมีแผล ขอบาตรที่มีท่าจะมีแผล ๑ แห่ง เป็น
นิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ภิกษุมีบาตรไม่มีท่าจะมีแผล ขอบาตรที่มีท่าจะมีแผล ๒ แห่ง เป็น
นิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ภิกษุมีบาตรไม่มีท่าจะมีแผล ขอบาตรที่มีท่าจะมีแผล ๓ แห่ง เป็น
นิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ภิกษุมีบาตรไม่มีท่าจะมีแผล ขอบาตรที่มีท่าจะมีแผล ๔ แห่ง เป็น
นิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ภิกษุมีบาตรมีท่าจะมีแผล ๑ แห่ง
ภิกษุมีบาตรมีท่าจะมีแผล ๑ แห่ง ขอบาตรที่ไม่มีท่าจะมีแผล เป็น
นิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ภิกษุมีบาตรมีท่าจะมีแผล ๑ แห่ง ขอบาตรที่มีท่าจะมีแผล ๑ แห่ง
เป็นนิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ภิกษุมีบาตรมีท่าจะมีแผล ๑ แห่ง ขอบาตรที่มีท่าจะมีแผล ๒ แห่ง
เป็นนิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ภิกษุมีบาตรมีท่าจะมีแผล ๑ แห่ง ขอบาตรที่มีท่าจะมีแผล ๓ แห่ง
เป็นนิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ภิกษุมีบาตรมีท่าจะมีแผล ๑ แห่ง ขอบาตรที่มีท่าจะมีแผล ๔ แห่ง
เป็นนิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์

1019
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๑ ภาค ๓ – หน้าที่ 1020 (เล่ม 3)

ภิกษุมีบาตรมีท่าจะมีแผล ๒ แห่ง
ภิกษุมีบาตรมีท่าจะมีแผล ๒ แห่ง ขอบาตรที่ไม่มีท่าจะมีแผล เป็น
นิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ภิกษุมีบาตรมีท่าจะมีแผล ๒ แห่ง ขอบาตรที่มีท่าจะมีแผล ๑ แห่ง
เป็นนิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ภิกษุมีบาตรมีท่าจะมีแผล ๒ แห่ง ขอบาตรที่มีท่าจะมีแผล ๒ แห่ง
เป็นนิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ภิกษุมีบาตรมีท่าจะมีแผล ๒ แห่ง ขอบาตรที่มีท่าจะมีแผล ๓ แห่ง
เป็นนิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ภิกษุมีบาตรมีท่าจะมีแผล ๒ แห่ง ขอบาตรที่มีท่าจะมีแผล ๔ แห่ง
เป็นนิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ภิกษุมีบาตรมีท่าจะมีแผล ๓ แห่ง
ภิกษุมีบาตรมีท่าจะมีแผล ๓ แห่ง ขอบาตรที่ไม่มีท่าจะมีแผล เป็น
นิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ภิกษุมีบาตรมีท่าจะมีแผล ๓ แห่ง ขอบาตรที่มีท่าจะมีแผล ๑ แห่ง
เป็นนิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ภิกษุมีบาตรมีท่าจะมีแผล ๓ แห่ง ขอบาตรทีมีท่าจะมีแผล ๒ แห่ง
เป็นนิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ภิกษุมีบาตรมีท่าจะมีแผล ๓ แห่ง ขอบาตรที่มีท่าจะมีแผล ๓ แห่ง
เป็นนิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ภิกษุมีบาตรมีท่าจะมีแผล ๓ แห่ง ขอบาตรที่มีท่าจะมีแผล ๔ แห่ง
เป็นนิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์

1020
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๑ ภาค ๓ – หน้าที่ 1021 (เล่ม 3)

ภิกษุมีบาตรมีท่าจะมีแผล ๔ แห่ง
ภิกษุมีบาตรมีท่าจะมีแผล ๔ แห่ง ขอบาตรที่ไม่มีท่าจะมีแผล เป็น
นิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ภิกษุมีบาตรมีท่าจะมีแผล ๔ แห่ง ขอบาตรที่มีท่าจะมีแผล ๑ แห่ง
เป็นนิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ภิกษุมีบาตรมีท่าจะมีแผล ๔ แห่ง ขอบาตรที่มีท่าจะมีแผล ๒ แห่ง
เป็นนิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ภิกษุมีบาตรมีท่าจะมีแผล ๔ แห่ง ขอบาตรที่มีท่าจะมีแผล ๓ แห่ง
เป็นนิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ภิกษุมีบาตรมีท่าจะมีแผล ๔ แห่ง ขอบาตรที่มีท่าจะมีแผล ๔ แห่ง
เป็นนิสสัคคีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
อนาปัตติวาร
[๑๓๗] ภิกษุมีบาตรหาย ๑ ภิกษุมีบาตรแตก ๑ ภิกษุขอต่อญาติ ๑
ภิกษุขอต่อคนปวารณา ๑ ภิกษุขอเพื่อประโยชน์ของภิกษุอื่น ๑ ภิกษุ
จ่ายมาด้วยทรัพย์ของตน ๑ ภิกษุวิกลจริต ๑ ภิกษุอาทิกัมมิกะ ๑ ไม่
ต้องอาบัติแล.
ปัตตวรรค สิกขาบทที่ ๒ จบ
ปัตตวรรคที่ ๓ สิกขาบทที่ ๒
พรรณนาอูนปัญจพันธนสิกขาบท
อูนปัญจพันธนสิกขาบทว่า เตน สนเยน เป็นต้น ข้าพเจ้าจะกล่าว
ต่อไป:- ในอูนปัญจพันธนสิกขาบทนั้น มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้:-

1021
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๑ ภาค ๓ – หน้าที่ 1022 (เล่ม 3)

บทว่า น ยาเปติ มีความว่า นัยว่า ช่างหม้อนั้นถูกภิกษุฉัพพัคคีย์
เหล่านั้นรบกวนอย่างนี้ ถ้าจักไม่ได้เป็นพระอริยสาวกแล้ว คงจักถึงความ
เสียใจเป็นอย่างอื่นไปก็ได้. แต่เพราะเขาเป็นโสดาบัน ตัวเองอย่างเดียว
เท่านั้นไม่พอเลี้ยงชีพ. เพราะเหตุนั้น พระธรรมสังคีติกาจารย์จึงกล่าวว่า
แม้ตนเองก็ไม่พอครองชีพ แม้บุตรภรรยาของเขาก็ลำบาก.
[อธิบายบาตรที่มีผูกหย่อน ๕ แห่งเป็นต้น]
ใน บทว่า อูนปญฺจพนฺธเนน นี้ มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้:- บาตรที่
ชื่อว่า มีที่ผูกหย่อน ๕ แห่ง เพราะมีแผลหย่อน ๕ แห่ง. อธิบายว่า
บาตรนั้นมีแผลยังไม่ครบเต็ม ๕ แห่ง. มีบาตร มีแผลหย่อน ๕ นั้น.
(บทนี้เป็น) ตติยาวิภัตติ ลงในลักษณะแห่งอิตถัมภูต, ในพากโยปัญญาส
นั้น แม้บาตรยังไม่มีแผล จะมีแผลครบ ๕ แห่ง ไม่ได้ เพราะยังไม่มี
โดยประการทั้งปวง; ฉะนั้น ในบทภาชนะพระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัส
คำว่า อพนฺธโน วา เป็นต้น และเพราะตรัสคำว่า มีแผลหย่อน ๕ แห่ง
ดังนี้ ภิกษุใดมีบาตรมีแผลครบ ๕ แห่ง. บาตรนั้นของภิกษุนั้น ไม่จัด
เป็นบาตร; เพราะฉะนั้น จึงควรขอบาตรใหม่ได้. ก็เพราะขึ้นชื่อว่าแผล
นี้เมื่อมีท่าจะมีแผล จึงมีได้ เมื่อไม่มีท่าจะมีแผล ก็ไม่มี; ฉะนั้น เพื่อ
จะทรงแสดงลักษณะแห่งผลนั้น จึงตรัสคำว่า อพนฺธโนกาโส นาม
เป็นต้น.
คำว่า ทฺวงฺคุลราชิ น โหติ ได้แก่ ไม่มีรอยร้าวแม้รอยเดียว ยาว
ประมาณสององคุลี ภายใต้ขอบปาก.
คำว่า ยสฺส ทฺวงฺคุลราชิ โหติ มีความว่า บาตรที่มีรอยร้าวรอย

1022
หมวด/เล่ม
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๑ ภาค ๓ – หน้าที่ 1023 (เล่ม 3)

เดียวเช่นนี้ พึงเอาเหล็กเจาะบาตร เจาะที่สุดริมล่างของรอยร้าวนั้น
ระบมแล้วผูกรัดด้วยเชือกด้าย และเชือกปอเป็นต้น หรือด้วยลวดดีบุก.
พึงอุดแผลนั้นด้วยแผ่นดีบุก หรือด้วยยางสำหรับติดบางอย่างเพื่อกัน
อามิสติด. และบาตรนั้นพึงอธิษฐานไว้ใช้เถิด. อนึ่ง พึงผูกทำช่องให้
เล็ก. แต่จะยาด้วยขี้ผึ้ง ครั่ง และยางสนเป็นต้นล้วน ๆ ไม่ควร. จะ
เคี่ยวน้ำอ้อยด้วยผงหิน ควรอยู่. แต่บาตรที่ภิกษุเอาเหล็กเจาะบาตร เจาะ
ในที่ใกล้ขอบปาก จะแตก เพราะแผ่นเหล็กหนา; เพราะฉะนั้น จึง
ควรเจาะข้างล่าง. แต่สำหรับบาตรที่มีรอยร้าว ๒ แห่ง หรือเพียงแห่ง
เดียวแต่ยาวถึง ๔ องคุลี ควรให้เครื่องผูก ๒ แห่ง. พึงให้เครื่องผูก ๓
แห่งแก่บาตรที่มีรอยร้าว ๓ แห่ง หรือมีเพียงแห่งเดียว แต่ยาวถึง ๖
องคุลี. พึงให้เครื่องผูก ๔ แห่ง แก่บาตรที่มีรอยร้าว ๔ แห่ง หรือมี
เพียงแห่งเดียวแต่ยาวถึง ๘ องคุลี บาตรที่รอยร้าว ๕ แห่ง หรือมีเพียง
แห่งเดียวแต่ยาวถึง ๑๐ องคุลี จะผูกก็ตาม ไม่ผูกก็ตาม ไม่จัดเป็นบาตร
เลย, ควรขอบาตรใหม่. นี้เป็นวินิจฉัยในบาตรดินก่อน.
ส่วนวินิจฉัยในบาตรเหล็ก พึงทราบดังต่อไปนี้:- ถ้าแม้นมีช่อง
ทะลุ ๕ แห่ง หรือเกินกว่า, และช่องทะลุเหล่านั้นอุดด้วยผงเหล็กด้วย
หมุด หรือด้วยก้อนเหล็กกลม ๆ เป็นของเกลี้ยงเกลา, ควรใช้สอยบาตร
นั้นนั่นแล, ไม่ควรขอบาตรใหม่. แต่ถ้ามีช่องทะลุแม้ช่องเดียว แต่เป็น
ช่องใหญ่, แม้อุดด้วยก้อนเหล็กกลมๆ ก็ไม่เกลี้ยงเกลา, อามิสติดที่บาตร
ได้ เป็นอกัปปิยะ, บาตรนี้ ไม่ใช่บาตร ควรขอบาตรใหม่ได้.
สองบทว่า เถโร วตฺตพฺโพ มีความว่า ภิกษุแสดงอานิสงส์ใน

1023