ภิกษุผู้มากด้วยปราโมทย์ แม้โดยปกติ ย่อมปลูกความเลื่อมใสใน
พระพุทธศาสนา, ภิกษุนั่นเลื่อมใส (ในพระพุทธศาสนา) แล้วอย่างนั้น
พึงบรรลุพระนิพพานในพระพุทธศาสนา อันได้ชื่อว่า " สันตบท เป็นที่
เข้าไปสงบสังขาร เป็นสุข. "
ก็แลพระศาสดาครั้นตรัสพระคาถานี้แล้ว ทรงเหยียดพระหัตถ์ ได้
ตรัสพระคาถาเหล่านี้แก่พระวักกลิเถระว่า :-
" มาเถิด วักกลิ เธออย่ากลัว จงแลดูพระตถาคต,
เราจักยกเธอขึ้น เหมือนบุคคลพยุงช้างตัวจมใน
เปือกตมขึ้นฉะนั้น. มาเถิด วักกลิ เธออย่ากลัว จง
แลดูพระตถาคต, เราจักยกเธอขึ้น เหมือนบุคคลที่
ช่วยพระจันทร์ที่ถูกราหูจับฉะนั้น."
ท่านยังปีติอย่างแรงกล้าให้เกิดขึ้นแล้วว่า " เราได้เห็นพระทศพลแล้ว"
และคำร้องเรียกว่า ' มาเถิด ' จึงคิดว่า " เราพึงไปโดยทางไหนหนอ ?"
เมื่อไม่เห็นทางเป็นที่ไป จึงเหาะขึ้นไปในอากาศในที่เฉพาะพระพักตร์
พระทศพล เมื่อเท้าทีแรกตั้งอยู่ที่ภูเขานั่นแล, นึกถึงพระคาถาที่พระ-
ศาสดาตรัสแล้ว ข่มปีติได้ในอากาศนั่นแล บรรลุพระอรหัต พร้อมด้วย
ปฏิสัมภิทาทั้งหลายแล้ว ถวายบังคมพระตถาคตอยู่นั่นแล ได้ลงมายืนอยู่
ในสำนักพระศาสดาแล้ว.
ครั้นในกาลต่อมา พระศาสดาทรงตั้งท่านไว้ในตำแหน่งอันเลิศกว่า
ภิกษุทั้งหลายผู้เป็นสัทธาธิมุต ดังนี้แล.
เรื่องพระวักกลิเถระ จบ.