พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๔ – หน้าที่ 100 (เล่ม 43)
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า มคฺคานฏฺฐงฺคิโก ความว่า ทางทั้งหลาย
จงเป็นทางไปด้วยแข้งเป็นต้นก็ตาม เป็นทางทิฏฐิ ๖๒ ก็ตาม บรรดา
ทางแม้ทั้งหมด ทางมีองค์ ๘ อันทำการละทาง ๘ มีมิจฉาทิฏฐิเป็นต้น
ด้วยองค์ ๘ มีสัมมาทิฏฐิเป็นต้น ทำนิโรธให้เป็นอารมณ์ ยังกิจมีอันกำหนด
รู้ทุกข์เป็นต้น ในสัจจะแม้ทั้งสี่ให้สำเร็จ ประเสริฐคือยอดเยี่ยม.
บาทพระคาถาว่า สจฺจานํ จตุโร ปทา ความว่า บรรดาสัจจะ
เหล่านี้ แม้ทั้งหมด จงเป็นวจีสัจจะอันมาแล้ว (ในพระบาลี) ว่า " บุคคล
พึงกล่าวคำสัตย์, ไม่พึงโกรธ," เป็นต้นก็ตาม, เป็นสมมติสัจจะอันต่าง
โดยสัจจะเป็นต้นว่า " เป็นพราหมณ์จริง, เป็นกษัตริย์จริง" ก็ตาม,
เป็นทิฏฐิสัจจะ (โดยนัย) ว่า๑ " สิ่งนี้เท่านั้นจริง, สิ่งอื่นเปล่า," เป็นต้น
ก็ตาม, เป็นปรมัตถสัจจะ อันต่างโดยสัจจะเป็นต้นว่า " ทุกข์เป็นความจริง
อันประเสริฐ" ก็ตาม, บท ๔ มีบทว่า " ทุกข์ เป็นความจริงอันประเสริฐ "
เป็นต้น ชื่อว่าประเสริฐ เพราะอรรถว่าทุกข์อันโยคาวจรควรกำหนดรู้
เพราะอรรถว่าสมุทัยอันโยคาวจรควรละ เพราะอรรถว่านิโรธอันโยคาวจร
ควรทำให้แจ้ง, เพราะอรรถว่ามรรคมีองค์ ๘ อันโยคาวจรควรเจริญ
เพราะอรรถว่าแทงตลอดได้ด้วยญาณอันเดียว๒ และเพราะอรรถว่าแทง
ตลอดได้โดยแน่นอน.
บาทพระคาถาว่า วิราโค เสฏฺโฐ ธมฺมานํ ความว่า บรรดาธรรม
ทั้งปวง วิราคะ กล่าวคือพระนิพพาน ชื่อว่าประเสริฐ เพราะพระพุทธ-
พจน์ว่า๓ ภิกษุทั้งหลาย ธรรมทั้งหลายที่ปัจจัยปรุงแต่งก็ดี ที่ปัจจัยไม่
๑. อัง. ทสก. ๒๔/๒๑๐. ๒.แปลว่า:- เพราะอรรถว่า แทงตลอดได้ในขณะเดียวกันก็มี.
๓. ขุ. อิติ. ๒๕/๒๙๘.
100