ได้ทั้งในน้ำและบนบก บริโภคปลาสดเป็นนิตย์นั้น
ถูกสาหร่ายพันตายแล้ว"
ดังนี้เป็นต้น, แม้วันอื่น ๆ อีก ทรงปรารภกถาเช่นนั้นเหมือนกัน ตรัส
ชาดกทั้งหลายเป็นต้นอย่างนี้ว่า
"นกกระไนนี้ เมื่อจะเจาะซึ่งหมู่ไม้ทั้งหลาย ได้
เที่ยวไปแล้วหนอ ที่ต้นไม้มีอวัยวะเป็นไม้แห้งไม่มี
แก่น, ภายหลังมาถึงไม้ตะเคียน ที่มีแก่นเกิด
แล้ว ได้ทำลายขมองศีรษะแล้ว.๑"
ละว่า "ไขข้อของท่าน ไหลออกแล้ว, กระหม่อม
ของท่าน อันช้างเหยียบแล้ว, ซี่โครงทุกซี่ของท่าน
อันช้างหักเสียแล้ว คราวนี้งามหน้าละซิเพื่อน๒."
ทรงปรารภกถาว่า "พระเทวทัต เป็นผู้อกตัญญู," จึงตรัสชาดกทั้งหลาย
มีอาทิอีกว่า
"ข้าพเจ้าได้ทำกิจให้ท่านจนสุดกำลังของข้าพเจ้า
ที่มีอยู่เทียว, ข้าแต่พระยาเนื้อ ข้าพเจ้าขอนอบน้อม
ต่อท่าน, ข้าพเจ้าน่าได้อะไร ๆ บ้างซิ, ข้อที่เจ้า
อยู่ในระหว่างฟันของเรา ผู้มีโลหิตเป็นภักษา ทำ
กรรมหยาบช้าเป็นนิตย์ ยังเป็นอยู่ได้ ก็เป็นลาภ
มากอยู่แล้ว๓."
ทรงปรารภความตะเกียกตะกาย เพื่อจะฆ่า (พระองค์) ของพระ-
๑.ขุ. ชา. ๒๗/๗๗. อรรถกถา. ๓/๒๑๕. กันทคลกชาดก. ๒. ขุ. ชา. ๒๗/๔๖. อรรถกถา.
๒ ๓๘๔. วิโรจนชาดก. ๓. ขุ. ชา. ๒๗/๑๓๓. อรรถกถา. ๔/๒๕๘. ชวสกุณชาดก.